ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/269714
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มประเทศภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) หรือประเทศหกเหลี่ยมเศรษฐกิจ ได้แก่ กัมพูชา จีน ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เกษตรที่ปลอดภัยและมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในตลาดโลก เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศ GMS มีความพร้อมที่จะเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยและมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้เปรียบในการเป็นแหล่งผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก และมีความได้เปรียบในเชิงแข่งขันในสินค้าหลายชนิด
“ล่าสุด ได้มีการจัดประชุมสำหรับจัดทำร่างยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าฯ ร่วมกัน ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง จากผู้แทนจากประเทศสมาชิก GMS โดยจะเสนอร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Agriculture Minister Meeting) พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในเดือนกันยายน 2560 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว ประกอบด้วย 4 ด้าน คือ 1) นโยบายและกฎระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการผลิต การค้า และการลงทุนในห่วงโซ่คุณค่าฯ 2) โครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งสำหรับห่วงโซ่คุณค่าฯ แบบบูรณาการทั้งภูมิภาค 3) ระบบการแลกเปลี่ยนและการเผยแพร่นวัตกรรมเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าฯ และ 4) การพัฒนาตราสินค้าและช่องทางการตลาดเพื่อส่งเสริมให้ GMS เป็นผู้นำของโลกในห่วงโซ่คุณค่าฯ” นายระพีภัทร์ กล่าว
ทั้งนี้ ร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะทำให้ประเทศสมาชิก GMS มีแนวทางการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าฯ ของอนุภาคที่ชัดเจน ตั้งแต่การผลิตจากแหล่งผลิตต่างๆ การแปรรูป การตลาด การจัดจำหน่ายสู่ผู้บริโภค ทั้งตลาดภายในประเทศ ตลาดภายในภูมิภาค และตลาดโลก เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงตลาดของสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ว่า ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศหรืออนุภาค ควรพัฒนาด้านใดเพิ่มเติม เพื่อให้ประเทศ GMS เป็นผู้นำในการผลิตสินค้าด้านนี้ และทำให้ห่วงโซ่คุณค่าฯ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค ประเทศอนุภาคและภูมิภาค ทั้งนี้ หากร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวแล้วเสร็จ และมีการรับรองแล้ว คาดว่าจะมีแหล่งเงินทุนต่างๆ ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนด้วยงบประมาณมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ