เดินหน้า‘เขตปลอดผักตบชวา’ ‘กรมชล’ระดมเครื่องจักรกำจัด 30กย.หมดจากเขตชลประทาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/270873

วันศุกร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
x

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมประทานได้เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องจักรในการกำจัดผักตบชวา เพื่อไม่ให้กีดขวางการระบายน้ำ โดยตั้งเป้าภายในวันที่ 30 กันยายนนี้จะต้องกำจัดผักตบชวาในพื้นชลประทานทั่วประเทศให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการกำจัด เพราะมีปริมาณค่อนข้างมากและน้ำลึก จำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติงานทุกๆวัน

ทั้งนี้ จากการสำรวจผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ขึ้นไปจนถึงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร พบว่ายังมีผักตบชวาประมาณ 40,000 ตัน ซึ่ง กรมชลประทาน ได้บูรณาการร่วมกับ กรมเจ้าท่า จ.ชัยนาท และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง วางแผนในการกำจัดผักตบชวาจำนวนดังกล่าวให้ไม่กีดขวางการระบายน้ำ คาดว่าภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ก่อนที่เข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ผักตกชวาจะไม่กีดขวางการระบายน้ำอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เพื่อกำจัดผักตบชวาให้หมดสิ้นตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดวาระแห่งชาติ“เขตปลอดผักตบชวา”หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่า หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัด และหน่วยงานทหาร จะต้องบูรณาการประสานความร่วมมือในการทำงานและทำให้เป็นงานประจำ ซึ่งในส่วนของกรมชลประทานได้กำหนดให้เป็นงานประจำ และมีการเฝ้าระวังตลอดเวลาแล้ว

รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า กรมชลประทานได้ตั้งเป้าในการกำจัดวัชพืชและผักตบชวา ในแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา และในคลองชลประทานต่างๆ ให้ได้จำนวน 332,000 ตัน ขณะนี้ได้กำจัดอย่างต่อเนื่องไปแล้ว 264,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 79.52 และในฤดูฝนปีนี้คาดว่า จะมีผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักที่ไหลมาติดหน้าอาคารชลประทานอีกประมาณ 50,000 ตัน ซึ่งกรมชลประทานได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนกำจัดแล้ว

“ผักตบชวาสามารถแพร่พันธุ์ได้ง่ายและเติบโตรวดเร็วมาก จึงต้องอาศัยวิธีการกำจัดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับการกำจัดขยะ ดังนั้นหากราษฎรที่มีทางน้ำผ่านหน้าบ้านแล้วช่วยเก็บหรือกำจัดวัชพืชน้ำเหล่านี้ หรือช่วยกันสอดส่องดูแล ถ้าหากมีจำนวนมากสามารถแจ้งไปยังหน่วยงานของกรมชลประทานในพื้นที่ให้มาดำเนินการกำจัด ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ ระบายน้ำ ฟื้นฟูทัศนียภาพของแม่น้ำ ลำคลองได้โดยตรง และช่วยรัฐประหยัดงบประมาณ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาและจำกัดผักตบชวาหมดไปอย่างถาวร” นายทองเปลวกล่าว

สำหรับการกำจัดผักตบชวาให้สิ้นซากนั้น แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าหากทุกหน่วยงาน รวมทั้งประชาชนร่วมมือกัน ก็จะสามารถทำเป็นเขตปลอดผักตบชวาได้ ซึ่งการกำจัดผักตบชวามีแนวทางหลักๆ 2 แนวทาง คือ 1.การใช้เครื่องจักรและใช้แรงงานคน และ 2.การใช้สารเคมีและสารชีวภาพ ซึ่งการใช้สารเคมีจะสามารถกำจัดและทำลายให้สิ้นซากได้ แต่จะไม่เป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อม ส่วนการใช้สารชีวภาพ จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ไม่สามารถกำจัดผักตบชวาให้สิ้นซากได้ในเวลาที่จำกัด อย่างไรก็ตามขณะนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการวิจัยการกำจัดผักตบชวาด้วยสารจุลินทรีย์ หากประสบผลสำเร็จก็จะสามารถกำจัดได้โดยไม่มีสิ่งตกค้างหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Leave a comment