ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/270691
วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ข่าวใหญ่ของเกษตรกรที่ออกมาจากห้องประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เห็นจะหนีไม่พ้นข่าวที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่ง “ล้างไพ่” คณะกรรมการภายใน “กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร” ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชุด ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู 2.คณะกรรมการบริหารกองทุน และ 3.คณะกรรมการจัดการหนี้เกษตรกร
โดยให้คณะกรรมการทั้ง 3 ชุด “จบ” ภารกิจของตัวเองทั้งหมด
จากนั้นจึงให้ตั้ง “คณะกรรมการเฉพาะกิจ” ขึ้นมา 1 คณะ เพื่อเข้ามาดำเนินภารกิจเร่งด่วน คือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกของกองทุนประมาณ 15,000 ราย ที่กำลังถูกบังคับคดีและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียทรัพย์สิน โดยมีมูลหนี้รวมกัน 3,000 ล้านบาท 15,000 คน ที่ถูกบังคับคดี รวมถึงต้องเข้าไปดูแลเกษตรกรอีก 21,500 ราย ที่มีหนี้สินรวมเป็นวงเงินอีกราว 17,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการเฉพาะกิจชุดนี้ ยังต้องรับงานเพิ่มเติม คือ การไปศึกษาจุดอ่อนจุดแข็งของ “พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร” ฉบับปัจจุบัน ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการ 3 คณะว่า มีจุดอ่อนจุดแข็ง หรือมี “ช่วงโหว่” ตรงไหนบ้างที่ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำข้อมูลมาเสนอให้ครม.พิจารณาแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรได้อย่างถาวรต่อไป
โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการในเบื้องต้นทั้งหมด 6 เดือน หากยังไม่สามารถจัดการได้ทันก็ให้รายงานต่อครม. เพื่อพิจารณาขยายเวลากันอีกครั้งต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ต้อง “ล้างไพ่” กรรมการกองทุนทั้ง 3 ชุดทิ้ง ก็น่าจะมาจากปัญหาหลัก คือ การแก้ปัญหาหนี้สินเร่งด่วนของเกษตรกร 15,000 ราย ที่กำลังจะถูกบังคับคดียึดทรัพย์สินที่แทบจะไม่มีความคืบหน้าเอาเสียเลย ซึ่งก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหา “ภายใน” ของคณะกรรมการแต่ละชุดเองที่มีทั้งลาออก เสียชีวิต ประเมินไม่ผ่าน ขณะที่เงื่อนไขของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการซึ่งต้องมาจากตัวแทนเกษตรกรที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ปรากฏว่า มีการเดินสายหาเสียง มีการตั้งหัวคะแนนกันเปรอะไปหมดไม่ต่างจากนักการเมือง
ปัญหาที่มีอยู่แล้ว ก็เลยถูกดองเอาไว้ ไม่ได้ขยับแก้ไขกันให้เป็นเรื่องเป็นราว
อย่างเดียวที่ขยับ ก็เห็นจะมีแต่ “ดอกเบี้ย” จากหนี้สินของเกษตรกร
จะว่าไป ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรทุกวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาที่จะพูดกันเล่นๆ นะครับ เพราะถือเป็นปัญหาที่เลวร้ายที่สุดของเกษตรกรเลยก็ว่าได้ ไหนจะต้องเผชิญกับค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าสารเคมี ค่าต้นทุนการผลิตอีกจิปาถะที่ขึ้นเอาๆทุกวัน บางปียังต้องมาเผชิญกับราคาพืชผลตกต่ำ น้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยธรรมชาติต่างๆ อีก ชีวิตเกษตรกรไทยถึงมีแต่ทรุดกับทรุดเหมือนอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
ดังนั้นการที่ “กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร” ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของรัฐในการแก้ปัญหา หากไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างเท่าทันสถานการณ์ มันก็ยิ่งไม่ต่างไปจากการผลักไสให้ชีวิตเกษตรกรดิ่งลงเหวมากขึ้นไปเรื่อยๆ จึงสมควรแล้วครับที่จะต้องโละทิ้ง
แต่การล้างไพ่ครั้งนี้ จะสามารถแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน คงต้องติดตามดูฝีมือคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจที่คงได้เห็นหน้าตากันในเร็วๆ นี้ อีกไม่นาน
มะลิลา