Star Retro : คลาวเดีย จักรพันธุ์ ลงตัวทั้งงานแสดงที่รัก และรักครั้งใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/272403

Star Retro : คลาวเดีย จักรพันธุ์ ลงตัวทั้งงานแสดงที่รัก และรักครั้งใหม่

Star Retro : คลาวเดีย จักรพันธุ์ ลงตัวทั้งงานแสดงที่รัก และรักครั้งใหม่

วันอาทิตย์ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

เป็นหนึ่งนักแสดงไอดอลจากยุค 90 ด้วยใบหน้าลูกครึ่งที่มาพร้อมความซุกซน และผมหยิกเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ชื่อของ “คลาวเดีย จักรพันธุ์” เป็นที่รู้จักในวงกว้าง วันนี้เธอหวนคืนจออีกครั้งเลยได้โอกาสอัพเดทชีวิตกัน พร้อมค้นหัวใจ ที่แว่วว่ากำลังหวานหยดจนน่าอิจฉา!?

“เริ่มกลับมารับงานแสดงแล้วเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วค่ะ มาเล่นเรื่องพิมมาลา เว้นไปอีกหลายปีก็เล่นเรื่องนางโชว์ ทางพีพีทีวี แล้วก็เว้นไปสักพัก กลับมาเล่นอีกในเรื่อง Princess Hours แต่ถ้าช่วงที่พักยาวก็คือไปแต่งงานแล้วก็หย่า หลังจากนั้นก็ไปอเมริกา แล้วพอกลับมาถึงได้เริ่มรับละครค่ะ ตอนที่แต่งงานไม่ได้รับงานแสดงเลย และที่ไปอเมริกาก็ไปๆ กลับๆ คนคงจะงงไม่รู้ว่าเราจะทำงานหรือว่าจะอยู่นี่หรืออยู่ไหน เลยไม่ได้รับ แต่พอกลับมาอยู่เมืองไทย ตอนนี้ก็เริ่มรับงานเต็มที่แล้วค่ะ”

l ยังคงคิดถึงงานแสดง

คิดถึงมาก นี่กลับมาก็มันมากเลยค่ะกำลังรอเปิดเรื่องต่อไปด้วย อยากทำงาน เพราะว่าสนุกค่ะเนื่องจากว่าเราเข้ามาสัมผัสวงการนี้ตั้งแต่อายุสิบเอ็ด ตั้งแต่เด็ก เราก็ทำงานด้านนี้มาตลอด เรียนศิลปกรรมเอกนาฏศิลป์ตะวันตก ซึ่งมันก็คล้ายกัน ชีวิตเราอยู่กับเรื่องพวกนี้ตลอดก็เลยรู้สึกว่าอยากกลับมาทำงานที่เรารักมาก

l ย้อนวันวานก้าวแรก

จริงๆ งานแรกเริ่มตั้งแต่ตอนเก้าขวบสิบขวบเลยค่ะ คือจะเป็นเด็กบัลเล่ต์ แล้วเขาก็อยากให้มีเด็กเต้นบัลเล่ต์ถือนมแลคตาซอย แล้วพออายุสิบเอ็ดก็ได้ถ่ายปกหนังสือกับ “แอนเดรีย สวอเรซ” หลังจากนั้นก็มีงานเดินแบบ และได้ถ่ายโฆษณาอีก พออายุสิบสองสิบสามก็ได้เล่นละครเรื่องแรกกับทางกันตนาเรื่อง “รักแปลกที่แตกต่าง” หลังจากนั้นก็ไปเล่นช่อง 3 เรื่อง “ไฟในทรวง” แล้วก็เล่นยาวเลยทั้งถ่ายแบบเดินแบบรับละครจนมาถึงช่วงยี่สิบต้นๆไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาเล่นละคร แต่ว่าเราก็ชอบดูละครชอบเต้น กล้าแสดงออก แล้วก็มีแมวมองมาติดต่อให้เราไปแคสโฆษณา คุณแม่ก็สนับสนุน พาไปได้บ้างไม่ได้บ้าง เราก็เล่นไป ละครเนี่ยเขาก็มาติดต่อหลังจากที่เดินแบบถ่ายโฆษณาแล้วนะคะ พอติดต่อมาคุณแม่ก็รับเลย ยุคนั้นเหมือนกับว่าลูกครึ่งมาแรงด้วย นักแสดงลูกครึ่งเยอะมาก

l บทบาทที่คนดูจดจำได้

คนจะจำเราได้จากหลายเรื่องนะคะ อย่างเรื่อง “รักแปลกที่แตกต่าง” เนื่องจากว่าเป็นละครของกันตนา ตอนเย็น แล้วมันยาวมาก ตอนนั้นเวลาไปไหนคนก็จะเรียกว่า “จีจี้” ซึ่งเป็นชื่อของนางเอกในเรื่อง ฟีดแบ๊กก็ดี หลังจากนั้นก็มาเล่นเรื่องไฟในทรวง, คือหัตถาครองพิภพ, เรือมนุษย์ เยอะค่ะและต้องบอกว่าการทำงานตอนนั้น คือเต็ม 7 วันเลยนะคะไปกองนั้นเจอตากล้องเจอทีมงานคนเดิมเจอผู้กำกับ รวมทั้งนักแสดงก็จะเจอกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันกับเรา เจอรุ่นพี่บ้างอย่าง พี่แอน ทองประสม, พี่ธัญญ่าแต่เขาจะเข้าวงการก่อนหนูนะ รวมทั้ง พี่แจ๊บ-เพ็ญเพชรด้วย ที่เข้ามาพร้อมๆกันเลยคือ แอนดริว เกร็กสันและเล่นหนังเรื่องแรกด้วยกันด้วย เรื่อง “กอง 501 ริมแดง” เล่นหนังก่อนเล่นละครอีกนี่เพิ่งนึกได้ (หัวเราะ) จริงๆ พี่บิลลี่ โอแกน เป็นคนเอาคลาวเดียมาเล่นหนังนะ แอนดริวกับคลาวเดียร่วมงานกันเรื่องแรก แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยร่วมงานกันอีกเลย จนมาละครช่อง 3 เรื่อง “กรงเกียรติยศ” ก็จะเดินแบบถ่ายแบบเล่นละครไป เพื่อนนางแบบจะมี โย-ยศวดี ที่จะเข้ามาพร้อมกัน เราเป็นนางแบบรุ่นเด็กที่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีด้วย เพราะว่าคนอื่นที่เป็นนักแสดงเขาไม่ค่อยได้เดินแบบ เราก็ไม่ได้สูงมากเหมือนโยนะคะ คือจัดเป็นนางแบบเซตเตี้ย แต่สมัยนี้ถ้าเตี้ยอย่างนี้ก็เดินแบบไม่ได้แล้ว (หัวเราะ)

l คาแร็กเตอร์ที่ทุกคนคุ้นตา

ผมหยิกหน้าฝรั่งแล้วก็น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ (ยิ้ม) แต่ก็มักจะได้รับบทบาททางการแสดงที่แตกต่างกันไปนะคะ เป็นทอมก็เคยเล่น คนบ้าก็มี บทแรงๆ ก็เคยเล่น บทร้ายก็เล่น หรือเป็นนางเอกใสๆ คือจะเป็นคนที่เล่นบทฉีกมาก ถ้าเล่นเป็นนางเอกบางเรื่องก็จะเป็นนางเอกที่แรงหน่อย แต่บางเรื่องอย่าง “เรือมนุษย์” เราก็ไม่ได้เล่นเป็นนางเอก เล่นเป็นบทคนใช้ที่แรง เป็นเด็กที่ยั่วนายจ้าง บทสนุกค่ะ คือเราก็รับหลายรูปแบบ บทเรียบร้อยก็มีหลายเรื่อง อย่าง “คือหัตถาครองพิภพ” ก็เรียบร้อยร้องไห้ เวลาไปไหนมาไหนคนก็มักจะจำเราได้จากหลายๆ บทบาทเลยค่ะ แต่ว่าส่วนมากจะจำในความที่เป็นเรา ที่ผมหยิกแล้วก็เป็นพิธีกรด้วย เราไม่ได้เป็นนักแสดงอย่างเดียว คือเราเป็นทั้งนักแสดง นางแบบ พิธีกร ขาดอย่างเดียวคือนักร้องที่ไม่ได้เป็น

l กับความสำเร็จ ณ วันนั้น

ดีใจมากนะคะ ดีใจที่มีโอกาส ดีใจที่มีคุณแม่คอยสนับสนุน รู้สึกดีใจที่เราก็มีพื้นฐานคือเราก็เรียนเต้น เรียนเปียโนอะไรมาเยอะ มันก็อาจจะเป็นจุดที่ช่วยด้วย แล้วก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาสในช่วงนั้น รู้สึกว่าเราได้มีโอกาสทำงานที่เรารักได้ในหลายๆ รูปแบบ คุณแม่เป็นคนที่ผลักดันลูกเต็มที่เมื่อก่อนไปไหนไปด้วยกันเลย พอเราเข้าวงการหนักๆคุณแม่ก็ไม่ทำงานแล้วค่ะ ตามลูกอย่างเดียวเลยผิดกับตอนนี้ที่ชวนไปไหนก็ไม่ไป แค่ชวนออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยังต้องให้เข้าไปหาที่บ้าน แต่ท่านก็แข็งแรงดีค่ะแอ๊กทีฟอยู่ในบ้านตัวเอง

l สิ่งที่อยากจะทำในวงการบันเทิง

อยากกลับมาแสดงเต็มตัวนะ เริ่มกลับเข้ามารับงานแสดงแล้วค่ะ อยากจะฝากบอกผู้จัดว่ากลับมาแล้ว เล่นได้หลายบท สามารถรับได้หมด ส่วนงานเบื้องหลัง สนใจ แต่ว่าคงยังไม่ถึงเวลาคิดว่ากลับมาแสดงให้เต็มตัวก่อน ถ้างานเบื้องหลังจริงๆคลาวเดียชอบละครนะคะ แต่ว่ามันเป็นอะไรที่สเกลใหญ่และค่อนข้างยาก เมื่อก่อนเคยทำรายการแล้วเหมือนกันเป็นรายการเกี่ยวกับน้องหมา ก็สนุกดีนะ แต่ไม่ชอบตอนหาสปอนเซอร์ เหนื่อยมาก เพราะว่าเราไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน ทำรายการอยู่สักพักเลยค่ะจะเป็นรายการที่ออกคู่กับหมาชิวาวาของคลาวเดียแต่ว่าเขาตายเราก็เศร้ามาก เลยหยุดทำไป เพราะว่านางเอกของรายการตายไป ตอนแรกคิดจะเอาตัวอื่นมาแทน แต่ว่ามันไม่เหมือนกัน เลยยุติไปค่ะ

l ความรู้สึกแรกกับการหวนคืนจอ

ตื่นเต้นมากกับฉากแรก วันแรกที่เข้าฉากจะตื่นเต้นจังเลย ไม่ได้ทำงานนาน แล้วมันจะงงๆ แต่พอวันที่สองมันก็เข้าที่ คือเราทำตรงนี้มาตั้งแต่เด็ก คำว่าเคาะสนิมอาจจะเป็นความตื่นเต้นที่เราต้องเคาะออกไป แต่เรื่องการแสดงเรายังได้อยู่นะ เพียงแต่เราไม่รู้ว่าสมัยใหม่มันเป็นยังไง การแสดงมันไม่มียุคมีสมัยหรอก แต่อย่างเรื่อง Princess Hours ก็ร้ายมาก คือปากแดงตลอดเวลา สนุกดีเรื่องนี้บทดี เล่นเป็นแม่ของ “สเตฟาน” (สายชล ปารเนียส) เป็นแม่เรื่องแรกที่ได้รับในชีวิตนี้ แต่ว่า “พี่เจี๊ยบ” (นภัสริญญ์พรหมพิลา) โปรดิวเซอร์ของเรื่องนี้บอกว่า ไม่ได้เป็นแม่ที่แต่งแก่อะไร แล้วถ้าบทดีเป็นตัวดำเนินเรื่องจะเป็นป้าเป็นน้าเป็นอา เราก็รับอยู่แล้ว เรื่องนี้ร้ายมาก ร้ายอยู่คนเดียว คือด้วยความที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการอำนาจ เป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก ต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถึงฉันไม่ได้ลูก ฉันก็ต้องได้ รักตัวเองมากจนลืมมองลูกว่าจริงๆเขาต้องการอะไร มันเป็นความจริงที่ค่อนข้างแซด ก็สนุกดีค่ะ ถือเป็นบทบาทร้ายอีกหนึ่งที่ได้มีโอกาสมาเล่น

l ความเปลี่ยนแปลงของวงการที่สัมผัส

โดยอารมณ์ของการทำงานก็ยังเหมือนเดิม คือมีคนเยอะแยะมากมาย มีทีมกล้องทีมไฟหน้าผมทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าหลายอย่างมันเล็กลง เทคนิคมันดีขึ้น กล้องเล็กลง ทุกอย่างมันย่อส่วนลง โดยที่ยังทำงานเหมือนเดิม และคลาวเดียรู้สึกว่านักแสดงรุ่นใหม่ คือในเรื่องนี้นะ มีวินัยมาก คือก็แล้วแต่คนแหละ แต่อย่าง “แพตตี้” (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) เป็นนางเอกที่น่ารักมาก มีวินัยมาก มาตรงต่อเวลา สมัยก่อนก็มีคนมาสายนะ แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมี หรือว่าเด็กสมัยนี้มีวินัยมากขึ้น คลาวเดียไม่ค่อยแน่ใจ ต้องลองทำงานไปเรื่อยๆ ก่อน และอีกหนึ่งสิ่งที่สมัยก่อนไม่มีคือการเรียนการแสดง สมัยนี้มีเรียนมีเวิร์กช็อป (ยิ้ม) อย่างเรื่องนี้คลาวเดีย,ยุ้ย-ปัทมวรรณ, ต่าย-สายธาร นั่งงงจ้า (หัวเราะ) ว้ายตายแล้วคืออะไร แต่คือเราไม่ว่าเลยนะ แค่ตื่นเต้นเพราะว่าเราไม่เคยทำ การที่ต้องมานั่งอ่านบทต่อบท หรือว่าเรียนการแสดงกัน เราไม่เคย ร้องไห้ครั้งแรกในการแสดงกับ “รักแปลกที่แตกต่าง” ก็เรียนที่กอง ทุกอย่างหัดที่กองหมด เน้นประสบการณ์สอนเรา แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ทุกเรื่องเขาต้องเรียนการแสดงกัน ตัวละครต้องมาเจอกันมาเวิร์กช็อปกันก่อน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย

l กว่าจะปล่อยวางกับคำว่านางเอก

เราก็รู้ตัวเองว่างานในวงการนี้มันไม่ได้แน่นอนอะไรค่ะ คือตอนนี้ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้โด่งดังเหมือนสมัยก่อน เราอาจจะเป็นหนึ่งในนักแสดง ไม่ใช่ตัวเอกหรือนางเอกเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้มายด์ เพราะคนเราก็เป็นแบบนี้ และโชคดีที่คลาวเดียไม่ใช่คนที่ยึดติดมาก ตอนที่เป็นนางเอกก็ยังมาเล่นเป็นตัวร้ายเป็นตัวอื่นได้ สิ่งที่คลาวเดียอยู่คือชอบทำงาน ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นดาราจะต้องดังมาก เราไม่เคยคิด คุณแม่ก็สอนมาอย่างนั้นอยู่แล้ว ให้เราคิดว่าเราคือคนทำงาน ช่างไฟเขาก็มีหน้าที่ของเขา ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองเพราะว่าทุกคนมาทำงาน พอมาถึงจุดนี้ แค่เรามีงานและมีบทที่ดีเราก็มีความสุขแล้ว โอเคตอนแรกอาจจะมีสะดุ้งนิดนึงว่าฉันต้องเล่นเป็นแม่แล้วเหรอ (ยิ้ม) คือสะดุ้งเบาๆ แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นอะไรใหญ่โตบางคนเขาจำภาพเราอย่างนึง พอเขาเจอเราและรู้ว่าเราจะกลับมาเล่นละคร เขาก็ยังคิดว่ามาเล่นเป็นนางเอกอยู่ เราก็บอกว่าเล่นเป็นแม่แล้วค่ะ เขาก็บ่นใหญ่เลยว่าทำไมสวยๆ ชอบไปเป็นแม่กันแล้ว คืออารมณ์แฟนคลับ เราก็ขำดีค่ะ แต่เขาก็บอกว่าจะรอดูนะ คลาวเดียเองก็จะรับงานแสดงต่อไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อนะ ตอนนี้คงรับไปก่อนที่จะแต่งงานแล้วก็มีลูก เพราะว่าถ้ามีลูกแล้ว คงจะเล่นไม่ได้ ตอนนี้จะเล่นไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

l กับความรักครั้งใหม่

รักครั้งใหม่กับหนุ่มพม่า แต่ว่าเขาเกิดที่นี่นะคะ เรียนนานาชาติที่นี่ด้วย แล้วก็ไปต่อที่อเมริกานี่คือสาเหตุที่คลาวเดียไปอยู่อเมริกา เพราะว่าไปอยู่กับแฟนคนนี้ คือพอเลิกกับสามีก็โสดอยู่เป็นปี กว่าจะเจอคนนี้ กว่าเขาจะยอมเซ็นใบหย่า ก็ 7-8 เดือน แต่แยกกันอยู่มานานแล้วค่ะ ไม่ค่อยมีใครรู้ พอเซ็นใบหย่าสัก3 เดือนก็เจอคนนี้พอดี ซึ่งแปลกมาก คือเขามาเมืองไทยแค่ปีละ 2 อาทิตย์ เพื่อที่จะมาเจอเพื่อนแล้วมาเจอเราเฉยเลย ก่อนที่เขาจะกลับอเมริกาเราก็คิดว่ามันน่าจะไม่เวิร์กหรอก เพราะว่าเขาอยู่อเมริกาแต่ปรากฏว่าเขาโทร.มาคุยวันละเป็นสิบชั่วโมงคุยกันอยู่ประมาณ 2-3 เดือน เขาจะส่งตั๋วมาให้เราบินตามไป แต่คือใครจะกล้าไปด้วย เราเพิ่งเจอกันจนในที่สุดเราก็ใจอ่อนยอมไป พอไปแล้ว ไม่อยากกลับจ้า กลับมาเมืองไทยแล้วบินไปใหม่อีก เอาหมาไปด้วย ก็เลยมีไปๆ มาๆ คือเขาทำงานที่นู่น แล้วก็อายุน้อยกว่า เด็กกว่าปีครึ่งค่ะ เขาไม่รู้ว่าเราเป็นดาราแต่ว่าเพื่อนในกลุ่มเขาเหมือน mutual friend แก๊งเพื่อนเขาเป็นเพื่อนนานาชาติที่คลาวเดียรู้จักเพราะว่าเรียนเต้นด้วยกัน เลยรู้จักเพื่อนสนิทของเขาหมด โลกมันกลมมาก และมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยยาก เราไลฟ์สไตล์ตรงกันด้วย โอเคเพื่อนเขาเราก็ชอบ เพื่อนเราเขาก็ชอบ เราสัมผัสในความรักที่เขามีให้เรา ตอนนี้เราก็รักเขามาก คือเขาเป็นคนดีค่ะจิตใจดีมาก ขยันทำงาน เก่งมาก และเขารักเราเราก็รักเขา เขาไม่แคร์ว่าเราจะมีอดีตยังไง ซึ่งเราก็เล่าให้เขาฟัง (ใกล้จะมีข่าวดี?) เขายังไม่มาขอเลยค่ะ(ยิ้ม) แต่เป็นแฟนกันมา 8 ปีแล้วนะคะ

l ทิ้งท้าย

อยากจะฝากให้ช่วยติดตามชม Princess Hours รักวุ่นๆ เจ้าหญิงจอมจุ้น ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 2 ทุ่ม ทางทรูโฟร์ยูค่ะ อยากจะฝากผลงานนี้ไว้สำหรับแฟนๆที่รอคลาวเดียมาตั้งนาน ว่ายังไม่เล่นสักที ตอนนี้มีละครให้ดูแล้วนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักคลาวเดียน้องๆ เด็กๆ ติดตามพี่ได้ที่ไอจี @claudia_chakrabandhu ค่ะ หรือว่าเซิร์จดูในอินเตอร์เนตก็ได้ จะได้เห็นวันวานของพี่ (ยิ้ม)

 

กุหลาบสีเงิน

Leave a comment