บี มาย เกสท์ : ‘รักจังสุพรรณบุรี’ กับ บารมี เที่ยงธรรม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/267691

บี มาย เกสท์ : ‘รักจังสุพรรณบุรี’ กับ บารมี เที่ยงธรรม

บี มาย เกสท์ : ‘รักจังสุพรรณบุรี’ กับ บารมี เที่ยงธรรม

วันเสาร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

เป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักบ้านเกิด บารมี เที่ยงธรรม ลูกชายคนเล็กของ จองชัย เที่ยงธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุพรรณบุรี กับ ดร.มุกดา เที่ยงธรรม ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตสุขสบายในกรุงเทพฯ มาเป็นชาวสวนไปพร้อมๆ กับทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ที่ อ.ศรีประจันต์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ และกำลังเริ่มภารกิจจุดกระแสการท่องเที่ยว ให้สุพรรณบุรีเป็นเมืองน่าพัก ไม่ใช่เมืองผ่านกับกิจกรรม เลดี้ แรลลี่ ทริป “รักจังสุพรรณบุรี” ภายใต้โครงการ “เที่ยวสุขใจ ใกล้แค่เอื้อม โดยการสนับสุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

บารมี เที่ยงธรรม ในฐานะประธานนักธุรกิจหอการค้ารุ่นใหม่ (YEC) จ.สุพรรณบุรี และประธานจัดการแข่งขัน เลดี้ แรลลี่ ทริป บอกกับเราว่า กิจกรรม เลดี้ แรลลี่ ทริป “รักจังสุพรรณบุรี” เส้นทางกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2560 เกิดขึ้น เพราะตัวเขา “รัก” จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด และอยากเชิญชวนให้ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกันสำนึกรักบ้านเกิดเช่นเดียวกัน โดยทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มช่องทางหารายได้ให้ชุมชน อีกทั้ง ทำให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่จ.สุพรรณบุรีนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อ มีธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวนา ที่ชาวสุพรรณบุรีควรร่วมกันรักษาไว้

“ที่ผมและทีมงานจัดกิจกรรม เลดี้ แรลลี่ ทริป เชิญชวนเฉพาะสาวๆ ให้มาร่วมสนุกกับการแข่งขันแรลลี่ เนื่องจากว่าเป็นเส้นทางการแข่งขันที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และผู้หญิงส่วนใหญ่จะสนุกกับกิจกรรม ชิม ชม แชะ ผ่านทางโซเชียลมีเดียมากกว่าผู้ชาย ผมอยากให้จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่ปักหมุดแหล่งท่องเที่ยวของคนไทย ไม่ใช่แค่จังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านไปจังหวัดอื่นๆ เท่านั้น อยากให้ได้เข้ามาเที่ยวพักผ่อน เรามีโรงแรมสวยๆ น่าพัก มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย แต่ผ่านมาเที่ยววันเดียวคงไม่พอครับ นอกจากนี้ รายได้จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นมูลนิธิฯ ที่ครอบครัวผมดูแลอยู่”

เส้นทางการแข่งขันเริ่มจากกรุงเทพฯ ไปยังแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณบุรี อาทิ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อุทยานมังกรสวรรค์ วัดป่าเลไลยก์ ชมสวนอินทผลัม สุพรรณบุรี เรียนรู้วิธีชีวิตชาวนาที่ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย (นาเฮียใช้) สัมผัสความหัศจรรย์ของปลาน้ำจืดและน้ำเค็ม ที่อุโมงค์ปลา บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ช็อปปิ้งอาหาร ขนม และของพื้นถิ่นที่ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี และมาสิ้นสุดที่โรงแรมสองพันบุรี

อีกทั้ง บารมี ยังชวนดารานักแสดงสาวจากช่อง 3 ณิชา-ณัฏฐณิชา และ แพทริเซีย-ธัญชนก, เนตไอดอลชื่อดัง ภาวิณี ตติยขจรเลิศ, พลอย-ฉัตรญาดา วงศ์นากลาง ร่วมสนุกกับการแข่งขัน ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้ยามค่ำและมินิคอนเสิร์ตจาก บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และ ปราโมช ปาทาน สองศิลปินที่กำลังได้รับความนิยม

“ผมตั้งใจจะทำให้ผู้ร่วมทริปประทับใจกับทุกกิจกรรมที่จัดขึ้น อยากให้ทุกคนมีความรู้สึกอยากกลับมาเที่ยวพักผ่อนที่สุพรรณบุรีอีกครั้ง และบอกต่อไปยังเพื่อนฝูง หรือคนในครอบครัว ว่าสุพรรณบุรีเป็นเมืองน่าเที่ยว ที่วันเดียวเที่ยวไม่พอ”

นอกจากจะเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักบ้านเกิดแล้ว บารมี เที่ยงธรรม ยังสวมหมวก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดา เขายอมรับว่า งานในหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านนั้นแตกต่างจากที่เขาคิดไว้มาก แต่เป็นงานที่ทำให้เขาได้รู้จักวิถีชีวิตและปัญหาของชาวสุพรรณบุรีอย่างแท้จริง

“ผมยอมรับตรงๆ ครับ เคยพูดกับตัวเองไว้ว่า จะไม่ทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากๆ แต่เหมือนกับภาษิตที่ว่า เกลียดอะไร จะได้อย่างนั้น ซึ่งงานของผู้ใหญ่บ้าน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนล้วนๆ และเป็นคนหมู่มากด้วย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องมาแจ้งผมก่อน นักเรียนจะเข้าโรงเรียน จะขอทุน ต้องให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง รวมทั้งปัญหาชาวบ้านๆ ที่ผมไม่เคยรู้เลย คือเรื่องผัวเมียทะเลาะ ลูกเมาตบตีพ่อแม่ ก็ตื่นเต้นดี

แต่เดิมผมเป็นลูกชาย สส. และลูกชายรัฐมนตรีช่วย เราไม่ค่อยได้เข้าไปนั่งพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จะได้พบเจอก็ช่วงหาเสียง แต่พอมาทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ได้สัมผัสกับปัญหาของชาวบ้านจริงๆ รู้ว่านโยบายดีแต่อาจไม่ตรงกับปัญหาของพวกเขา เลยแก้กันไม่ตรงจุด จริงๆ แล้วการที่ผมพยายามหาทางเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้าน มันถูกต้องที่สุด ไม่ใช่เอาเงินไปให้เขาอย่างเดียวแล้วไม่สอนวิธีการเพิ่มรายได้

นี่เลยเป็นจุดที่ทำให้ผมจัดกิจกรรม เลดี้ แรลลี่ ทริป รักจังสุพรรณบุรี ขึ้นมา เพราะเราเป็นจังหวัดเกษตรกรรม ปลูกข้าวมาหลายชั่วอายุคน เป็นจังหวัดที่มีโรงสีมากที่สุดในประเทศ จะให้เปลี่ยนมาเป็นเมืองอุตสาหกรรมคงไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุด คงเป็นเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งผมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการ เที่ยวสุขใจ ใกล้แค่เอื้อม”

บารมี เล่าย้อนว่า ตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่สุพรรณบุรีเพียงลำพัง เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นเป็นจังหวะที่ครอบครัวของเขาเริ่มธุรกิจโรงสับไม้สุพรรณ 2015 (วู๊ดซีฟ) นำเศษไม้ท่อนมาตัดเพื่อขายเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า และเมื่อธุรกิจนี้เริ่มอยู่ตัว บารมี ก็หันมาเป็นชาวสวน ดูแลและพัฒนาสวนอินทผลัม ที่ชื่อ สวนอินทผลัม อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้เพาะพันธุ์และจำหน่ายต้นพันธุ์อินทผลัม ซึ่งกำลังเป็นพืชเศรษฐกิจ Smart Farmer 4.0

“คุณพ่อให้เข้ามาช่วยดูแลสวนอินทผลัม ซึ่งแต่ก่อนเป็นสวนพืชไร้ดิน ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ช่วงหลังคุณพ่อเห็นว่าผลผลิตไม่ค่อยดี เลยเปลี่ยนมาลองปลูกต้นอินทผลัม ผมเห็นว่าพื้นที่เรามีมากถึง 200 ไร่ น่าจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ เรามีบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นมา เราปลูกสวนไม้ดอกไม้ประดับ มีต้นต้นอินทผลัมนับแสนต้นให้เยี่ยมชม เลยเปลี่ยนสวนอินทผลัมแห่งนี้ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เพาะพันธุ์และจำหน่ายต้นพันธุ์อินทผลัม ก็ได้รับความสนใจเกินคาด ช่วงที่อินทผลัมให้ผลผลิต มีคนมารอซื้อถึงสวน เพื่อทานผลสดอินทผลัม บางคนเดินทางมาจากภาคใต้ มาขอซื้อผลสดแล้วเดินทางกลับเลย ซึ่งผมจะไม่ขายผลผลิตให้กับพ่อค้าทั้งหมด แต่จะเหลือไว้ให้นักท่องเที่ยวและคนที่อยากทานผลสดได้ซื้อกลับไปด้วย ไม่ใช่ว่ามาถึงสวนแล้วไม่มีอินทผลัมให้เขาทาน

พอมีโอกาสได้มาอยู่จริงๆ ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว มาอยู่คนเดียว คุณพ่อคุณแม่ พี่สาว พี่ชาย อยู่กรุงเทพฯ กันหมด ชีวิตช่วงที่ผมอยู่กรุงเทพฯ จะไปที่ไหนสักแห่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่อยู่ที่สุพรรณบุรี ใช้เวลาเดินทางมากสุดก็ครึ่งชั่วโมง เวลาที่เหลือผมสามารถไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ เลยตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ หรือวันไหนถ้าผมอยากไปทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ และพี่ๆ ไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือไปซื้อของ ขับรถจากสุพรรณบุรี ผมใช้เวลาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แค่ชั่วโมงกว่าๆ เรียกว่า ชีวิตก็ไม่ได้ตัดขาดจากกรุงเทพฯ ทีเดียว ยอมรับว่า สุพรรณบุรีสำหรับผม เป็นจังหวัดที่น่าอยู่มาก ซ้ายก็นา ขวาก็นา เงียบ สงบ แต่มีความอบอุ่น ชาวบ้านมีน้ำใจ คิดว่าบั้นปลายชีวิตของผมก็คือที่นี่”

นอกจากจะเป็นเจ้าของสวนอินทผาลัมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแล้ว บารมี ยังต้องดูแลมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นมูลนิธิฯ ของครอบครัว ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คล้ายๆ กับมูลนิธิกู้ภัยโดยทั่วๆ ไป มีสมาชิกอยู่นับพันคน ซึ่ง บารมี ต้องบริหารจัดการและประสานงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สมาชิกได้ทำหน้าที่จิตอาสาได้อย่างเต็มกำลัง ตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ

บารมี ทิ้งท้ายว่า พลังในการทำงานของเขามาจากครอบครัว และคนที่เขาจะกล่าวขอบคุณมากที่สุดก็คือ คุณแม่มุกดา เที่ยงธรรม ผู้หญิงที่สนับสนุนและอยู่เคียงข้างในทุกๆ เรื่องของชีวิต

Leave a comment