‘ศพก.ยะลา’แบบอย่างการเพิ่มรายได้ในสวนยางพารา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/277536

‘ศพก.ยะลา’แบบอย่างการเพิ่มรายได้ในสวนยางพารา

‘ศพก.ยะลา’แบบอย่างการเพิ่มรายได้ในสวนยางพารา

วันอังคาร ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ตามที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายมุ่งเน้นที่จะปฏิรูปภาคการเกษตร โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งในปี 2560 ได้เน้นย้ำให้เกิดการปฏิรูปภาคเกษตรสมัยใหม่ เกษตรกรจะต้องร่วมคิด ร่วมทำ รวมกลุ่มบริหารจัดการเพื่อสร้างความเข้มแข็งในภาคเกษตรกรรมยั่งยืน

นายไพศาล สังข์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ให้ข้อมูลว่า การดำเนินงาน ศพก. ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งมีถึง 32 ศูนย์ เน้นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และกิจกรรมเสริมเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยมีศูนย์ที่ดำเนินการแล้วประสบความสำเร็จสามารถเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราได้ คือ ศพก. อ.เมืองยะลา มีนายธัญญา แก้วเจริญ เกษตรกรต้นแบบเป็นประธานศูนย์

โดยมี หลักสูตรการเรียนรู้ 4 หลักสูตร ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุนการผลิต การทำเกษตรแบบผสมผสาน และการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า มีแปลงเรียนรู้ยางพารา 1 แปลง พื้นที่ 14 ไร่ มีฐานเรียนรู้ 6 ฐาน คือ 1) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นการให้ความรู้เรื่องการผลิตยางก้อนถ้วยให้มีคุณภาพ ทำให้เกษตรกรจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น 2) การลดต้นทุนการผลิต เป็นการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี เพื่อลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ย และการเก็บตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินเพื่อใช้ปุ๋ยถูกสูตรตรงต่อความต้องการของยางพารา 3) การจัดการโรคยางพารา เป็นการผลิตและขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อแก้ไขปัญหาต้นยางตายจากโรครากขาวและโรคใบร่วงจากเชื้อไฟทอปเทอร์รา และการใช้สาร พด. 2 เพื่อแก้ไขปัญหาโรคหน้ายางตายนึ่ง 4) การทำเกษตรผสมผสานในสวนยางพารา ได้แก่ การปลูกพืชร่วมในสวนยางพารา (เนียง สละ ผักเหรียง) การเลี้ยงสัตว์เพื่อเสริมรายได้ในสวนยางพารา การปลูกผักเสริมรายได้ในสวนยางพารา 5) เทคนิคการกรีดยาง เป็นการกรีดยางหน้าสั้นที่ถูกวิธีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตยางพารา และการลับมีดกรีดยางที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสียหายต่อหน้ายางและลดรายจ่ายในการจ้างลับมีดกรีดยาง และ 6) การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เป็นการทำระบบน้ำแบบแอร์เวย์ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ด้าน นายธัญญา แก้วเจริญ ประธานศูนย์ กล่าวว่า หลังจากที่เปิดศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอเมืองยะลา ได้มีเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้การทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดเวลาโดยจุดเด่นของศูนย์นี้ คือ มีการใช้พื้นที่ในสวนยางพาราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านการเลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ดไข่อินทรีย์ ไก่ไข่อินทรีย์ การเลี้ยงสุกร โดยการผสมหยวกกล้วยกับอาหารสุกร รำละเอียด ข้าวสุกและเกลือ เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร ซึ่งสามารถลดค่าอาหารสุกรจากครั้งละ 10 กิโลกรัม เหลือเพียงครั้งละ 2 กิโลกรัม ด้านการประมง เช่น การเลี้ยงปลาดุก การปลูกพืชผสมผสาน การเพาะเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า การเพาะต้นอ่อนจากทานตะวัน ฯลฯ ส่งผลให้มีรายได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ เดือนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท นอกจากนี้นายธัญญา และสมาชิกเครือข่าย ศพก. ยังได้มีการสาธิตและสอนวิธีการทำไข่เค็มพอกสมุนไพร (ใบเตย) โดยใช้วัตถุดิบคือ ไข่เป็ดที่เลี้ยงเองภายในสวนยางพารา สามารถเพิ่มมูลค่าจากฟองละ 3 บาท แปรรูปเป็นไข่เค็ม ขายได้ฟองละ 7 บาท ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก จึงได้จัดตั้งเป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรแปรรูป ไข่เค็มขึ้น ภายใต้ชื่อการค้า “ไข่เค็มลำยา”

จากการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอเมืองยะลา ทั้งด้านการบริการความรู้
บริการข้อมูล และบริการด้านการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตยางพาราโดยเฉพาะค่าปุ๋ย จาก 1,520 บาทต่อไร่ เหลือ 850 บาทต่อไร่ ลดลงถึง 670 บาท (44%) ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นจาก 220 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 275 กิโลกรัมต่อไร่ (25%) มี Smart Farmer ต้นแบบ 20 คน และเกษตรกรมีรายได้จากการทำเกษตรผสมผสานในสวนยางพาราเฉลี่ย 75,000 บาทต่อปี

Leave a comment