ภูมิบ้านภูมิเมือง :’ปากน้ำโพ’ปฐมภูมิแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/268933

ภูมิบ้านภูมิเมือง :'ปากน้ำโพ'ปฐมภูมิแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ภูมิบ้านภูมิเมือง :’ปากน้ำโพ’ปฐมภูมิแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา

วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

จุดพบกันของแม่นํ้าปิงและแม่นํ้าน่าน

อาทิตย์นี้ ชสท.-ชมรมสื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชักชวนเดินทางตามหาภูมิบ้านภูมิเมืองในจังหวัดนครสวรรค์ที่มีทั้งป่าตะวันตกและเมืองโบราณในอดีต เพื่อให้กิจการท่องเที่ยวนั้นมีมากกว่างานแห่เจ้าแม่สิงโต ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องศึกษาพัฒนากันต่อไป โดยเฉพาะแลนด์มาร์คที่หยิบยกคำว่า “ปากนํ้าโพ” มาเป็นปฐมภูมิแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา หากเข้าใจได้ว่า “ปากน้ำโพ” นั้นเพี้ยนมาจาก “ปากน้ำโผล่” ก็จากภูมิสถานของน้ำแม่ ซึ่งคนตอนเหนือเรียกคลองหรือสายน้ำอย่างนี้มาก่อนว่า น้ำแม่ปิง น้ำแม่วัง น้ำแม่ยมน้ำแม่น่าน ดังนั้นการไหลของน้ำแม่ปิงกับน้ำแม่วังจึงทำให้มีแม่น้ำปิงหรือแควน้อยหรือแควกำแพงเกิดขึ้นที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก และน้ำแม่ยมกับน้ำแม่น่านก็ทำให้เกิดน้ำแม่น้ำน่าน หรือแควใหญ่ ที่บ้านเกยชัยอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ไหลจากเหนือลงมาเป็นสองแคว โดยโผล่ที่ปากน้ำอันต่อเป็นทะเลหรืออ่าวไทยโบราณดังนั้นเมืองในอดีตจึงถูกเรียกเป็นทั้งสองแควและสี่แควกันไป ตามปากคนเดินทางที่ต่างเดินทางเรือลงมายังเมืองพระบาง เดิมในสมัยสุโขทัย เพื่อติดต่อค้าขายกับเมืองทางตอนล่าง

เจ้าพ่อเทพารักษ์-ปุนเถ้ากง

หากเข้าใจถึงภูมิสถานของทะเลโบราณในยุคสมัยละโว้หรือศิลปะทวารวดีแล้ว การเรียกว่า “ปากน้ำโผล่”น่าจะเป็นไปได้มากกว่าแล้วเพี้ยนมาเป็น “ปากน้ำโพ”ส่วนจะถูกดึงไปโยงกับคลองโพที่ไหลรวมกับแม่น้ำน่านก็ไม่มีเหตุอันควรจะมาเป็นชื่อ “ปากน้ำโพ” ได้เลย แม้จะอ้างเอาต้นโพธิ์ตามชื่อวัดโพธิ์ก็ไกลยุคของทะเลโบราณที่มีการเดินเรืในทะเลตามท่าเรือเก่าที่มีชุมชนอู่ทองอู่ตะเภา อู่บน ดงศรีมหาโพธิ์ ซึ่งอยู่โดยรอบอ่าวไทยโบราณ ซึ่งต่างมีปากน้ำที่มีชื่อโน่นนี่นั่นเกิดขึ้นไหลลงสู่ทะเล ก่อนที่จะมีปากน้ำที่เกิดใหม่จากการทับถมของดินดอนแข็งตัวในสมัยหลัง เช่น ปากยม ปากชม ปากลัด ปากน้ำและปากใต้ ก็เป็นส่วนของปากแม่น้ำใหม่ที่ใช้เข้า-ออกเป็นเส้นทางเดินเรือสู่ทะเลโบราณที่ถอยร่นลงไปทั้งสิ้น

เจ้าพ่อเทพารักษ์

ด้วยความสำคัญของปากน้ำโผล่ออกสู่ทะเลโบราณนั้น ภายหลังเมื่อมีชุมชนจีนเกิดขึ้นจากการเป็นที่เป็นชุมชนค้าขายขนาดใหญ่ในสมัยสุโขทัย-อยุธยา และมีคนงานเข้ามาสร้างทางรถไฟ จึงมีการสร้างศาลเจ้าขึ้นที่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา สมัยแรกนั้นมีการนำสิ่งเคารพคือเจ้าพ่อเทพารักษ์ (ปุนเถ้ากง) มาประดิษฐานไว้ ต่อมามีเรื่องเล่าว่าเมื่อปีพ.ศ.2460-2462 นั้น ได้เกิดโรคห่า (อหิวาตกโรค) และฝีดาษระบาดขึ้นทำให้ผู้คนล้มตายและเจ็บป่วย เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้หันไปพึ่งซินแสช่วยรักษาโรค แต่ไม่สามารถหยุดโรคระบาดได้ ชาวบ้านจึงพากันไปกราบไหว้เทพอารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโดยมีเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือชาวบ้านที่บนบานต่อเจ้าพ่อเทพารักษ์ หรือปุนเถ้ากง ให้ปัดเป่าโรคร้ายไปจากหมู่บ้านและได้ทำการเชิญเจ้ามาเข้าทรง เพื่อทำพิธีรักษาโรคด้วยนำ “ฮู้” กระดาษยันต์ที่เขียนนั้นไปเผาใส่น้ำดื่มกิน ปรากฏว่าโรคห่าหยุดระบาดและทำให้หายจากการเจ็บป่วยได้ จึงพากันนับถือความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเทพารักษ์ดังกล่าว ดังนั้นในทุกปีต่อมาจึงมีการจัดพิธีแห่เจ้าพ่อไปตามเส้นทางของเมือง ให้ประชาชนได้กราบไหว้และให้เจ้าพ่อเจ้าแม่ได้ออกปัดเป่าทุกข์ภัยให้เป็นสิริมงคลแก่เมือง ซึ่งมีการเชิญเทพศักดิ์สิทธิ์จากศาลเจ้าต่างๆ คือ เจ้าพ่อเทพารักษ์ หรือ “ปุนเถ้ากง”เจ้าพ่อ-เจ้าแม่หน้าผา หรือ “ปึงเถ่ากง-ปึงเถ่าม่า” หรือ“เปิ่นโถวกง-เปิ่นโถวมา” เจ้าพ่อกวนอู หรือ “กวงกง”เจ้าแม่สวรรค์ หรือ “เทียนโหวเซี้ยบ้อ“ หรือ “หม่าโจ้ว” หรือ“เทียนโหวเซิ่งหมู่” หรือ “หม่าจู่” เจ้าแม่ทับทิม หรือ “จุยป๊วยเนี้ย”หรือ “ตุยโป๊ยเหนี่ยว หรือตุยป้วยเต๋งเหนี่ยง” และใช้ซิ่งเอี้ยหรือ “ไฉ่เส้นเหย” เป็นต้น ภายหลังการจัดขบวนแห่ตามประเพณีอย่างบรรพบุรุษแต่เดิมนั้นได้พัฒนาการแห่หลากหลายมากขึ้น จากการแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่นั้นได้มีสิงโต ล่อโก้ว มังกร  นักรบเอ็งกอ ธิดาเจ้าแม่ทับทิม ประกอบขบวนจนเป็นประเพณีสำคัญของชาวปากน้ำโพในเทศกาลตรุษจีน ชุมชน “ปากน้ำโผล่” ในยุคทะเลโบราณหรือชุมชนปากน้ำโพในยุคปัจจุบัน จึงถือเป็นปฐมภูมิต้นแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหญ่อันสร้างที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยาอันกว้างไพศาลในภาคกลางและเป็นภูมิสถานที่ตั้งของราชธานี 3 แห่ง คือ กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานคร ในสมัยอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์ด้วย

ตลาดปากนํ้าโพ-นครสวรรค์

ปากน้ำโผล่ที่เกิดจากสองแคว

แผนที่ปากน้ำโพ

แผนที่แม่น้ำเจ้าพระยา

แม่น้ำเจ้าพระยา

ระฆังสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ.2413

Leave a comment