โครงการสร้างและส่งเสริมเอสเอ็มอีอัจฉริยะ หรือ Intelligent SMEs ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการเฟ้นหาเอสเอ็มอีอัจฉริยะ ในหลายจังหวัดทั่วประเทศที่สุดแล้วก็ได้วิสาหกิจต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จ (Best Practice) จำนวน 125 รายหนึ่นในนั้นก็คือ เรื่องราวความสำเร็จของ ภญ.พัทธานันท์ หงส์ปิติเจริญ เจ้าของบริษัท ซีสวอน แลบบอราทอรีส์ จำกัด

ภญ.พัทธานันท์ หงส์ปิติเจริญ เผยว่า จากประสบการณ์การทำงานในฐานะผู้แทนยา หรือ ดีเทลยา ประกอบกับ จบการศึกษาระดับปริญญาโท เรื่องการค้นคว้าวิจัยเครื่องสำอางโดยตรง จึงมีความรอบรู้สูตรและวิธีการทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นอย่างดีจึงเกิดไอเดียสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง Majเครื่องสำอางและเวชสำอางที่ใช้บำรุงผิวหน้าและผิวกายในเครือ บริษัท ซีสวอน แลบบอราทอรีส์ จำกัด มีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นแบรนด์ปลอดสารเคมี ใช้วัตถุดิบที่ได้จากพืชธรรมชาติ

“อยู่ในวงการเครื่องสำอางมานานมากกว่า 20 ปี เนื่องจากคุณแม่เป็นแพทย์และเภสัชกรแผนไทย เปิดคลินิกแผนไทยรักษาผิว เส้นผม จึงได้ซึมซับความรู้ดังกล่าวเรื่อยมา และได้รับความรู้ทางด้านการวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางมากขึ้น จากการศึกษาและประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางและเวชสำอางที่ใช้บำรุงผิวหน้าและผิวกาย จึงได้รับรู้ว่า มีเครื่องสำอางบ้างอย่างใส่สารอันตรายออกมาขาย ทำให้อยากสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมี

อีกทั้ง เราเป็นเภสัชกร เป็นดีเทลยาจึงทราบว่าเครื่องสำอางบำรุงผิวในประเทศไทยที่ผลิตมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ จริงๆ มีน้อย ส่วนใหญ่เป็นเคมีแล้วใส่สารสกัดธรรมชาติลงไป ทำให้ผู้บริโภคบ้างคนเกิดอาการแพ้สารเคมีดังกล่าว จึงทำให้เกิดความคิดที่จะสร้างแบรนด์สินค้าสปาที่ เป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมจากต่างประเทศ และคุณค่าของสมุนไพรไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพดี ปลอดสารพิษ ราคาประหยัด”

สำหรับจุดเด่นของสินค้า คือ ใช้วัตถุดิบที่ได้จากพืชธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีตั้งแต่วิธีการเตรียมดิน การปลูก ซึ่งวัตถุดิบที่ได้มาได้รับการรับรองจากสถาบันต่างประเทศ Organic และ ECOCERTสินค้ามีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวแพ้ง่าย ใช้ได้ทุกวัยตั้งแต่ทารก จนถึงวัยสูงอายุ มีกลิ่นหอมทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สกัดจากสารธรรมชาติ รวมทั้งสมุนไพรไทย

เนื่องจากสินค้าเป็นแบรนด์ใหม่ ภญ.พัทธานันท์ บอกว่า ช่วงแรกยังไม่มีหน้าร้าน จึงต้องออกงานแสดงสินค้าให้คนรู้จักสินค้ามากขึ้น กว่า 15 วันในแต่ละเดือนจนเป็นที่รู้จัก เกิดการบอกต่อ เน้นฝากขายตามร้านเครื่องสำอางต่างๆ และทำตลาดออนไลน์ในการโฆษณาสินค้า เพราะประหยัดงบ สามารถควบคุมต้นทุน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพนักงานโรงงานกลุ่มข้าราชการ ครู พยาบาล ปัจจุบันมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท

“เรามีการให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาที่รวดเร็ว นับว่าเป็นจุดแข็งของเรา เพราะลูกค้าจะเกิดความเชื่อมั่น ดังนั้น คำตอบจึงควรเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และรวดเร็ว รวมถึงการอัพเดทข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊คตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของตัวสินค้า เรื่องความสวย ความงาม จะได้สามารถนำข้อมูลไปตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับตนเอง”

เรื่องคน ก็เป็นเรื่องสำคัญ จะต้องหาคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ ต่อสินค้าต่ออาชีพงานขาย และต้องมีความรับผิดชอบที่ดี ดังนั้นจึงใช้วิธีเพิ่มค่าตอบแทนตามภาระหน้าที่รับผิดชอบ เราในฐานะผู้บริหารก็ต้องยึดความยุติธรรมเป็นหลัก

“การธุรกิจใดๆก็ตาม จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเริ่มต้นที่จิตใจก่อน ต้องมีความมุ่งมั่นที่ดี มองสินค้า และกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเราให้ออก ให้แม่นยำและต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นสำคัญ” ภญ.พัทธานันท์ กล่าวในที่สุด