ชื่อของ สาริณี เสฐียรภัคกุล ถือว่าเป็นตัวแม่ของวงการขายตรงคนหนึ่งของเมืองไทย มานานกว่า 10 ปี วันนี้เธอนั่งเก้าอี้ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เพิ่งมาเปิดตลาดในเมืองไทยได้เพียง 5 ปี เป็นงานที่ท้าทายความสามารถของเธออย่างยิ่งในการนำพาแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ยูซาน่า ให้เข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภคคนไทย รวมทั้งบทบาทของว่าที่คุณแม่ลูกแฝด ในเวลาเดียวกัน

“อยู่ในวงการนี้มาสิบกว่าปี จากที่เก่าก็ถือว่าเราอยู่ในจุดที่สูงสุด ประสบความสำเร็จกับตรงนั้น พอดีว่าทาง ยูซานา ติดต่อมา เพราะเขาต้องการมาเปิดตัวในประเทศไทย ก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะจากเดิมที่งานเรารับผิดชอบแค่ด้านเดียว แต่ ยูซานา งานเราต้องดูทั้งหมด ถ้าเปรียบว่าสร้างบ้านก็เรียกว่าเราต้องเป็นคนตอกเสาเข็ม นอกจากความท้าทายแล้ว ต้องเป็นงานที่สนุกที่เราจะได้พิสูจน์ตัวเอง และที่สำคัญเราจะได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น”

สำหรับ ยูซานา เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ จากประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจัดจำหน่ายมาเป็นเวลา 20 ปี ก่อตั้งขึ้นโดยมีรากฐานมาจากวิสัยทัศน์ของ ดร.ไมรอน เวนทซ์ ผู้ที่ฝันถึงโลกที่ปราศจากความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมานและโรคภัยไข้เจ็บ โดยยึดถือพันธกิจในการเผยแพร่วิสัยทัศน์ผ่านการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพสูงซึ่งให้สารอาหารที่เหมาะสมและดีที่สุดในระดับเซลส์ที่ผ่านมาตรฐานการผลิตเดียวกันกับการผลิตยา(Phaaceutical Grade)

“ยูซานา ประเทศไทย มีอายุแค่ 5 ปี ถามว่ายากไหม ทุกงานมีความยากความง่าย แต่สำหรับตัวเองด้วยความที่เราเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่ผู้บริโภคไทยอาจจะยังไม่รู้จักมากนัก ทำให้มองเห็นโอกาสที่เราจะเข้าไป ประกอบกับบริษัทแม่มีความแข็งแกร่ง มีแบ๊กอัพที่ดีที่จะช่วยให้นักธุรกิจของเราทำงานได้อย่างดี อีกอย่างคือบริษัทแม่เองก็ไม่ได้เน้นที่ยอดขาย แต่เราเน้นที่ผู้บริโภค หากผู้บริโภคมีความเข้าใจที่ถูกต้องในผลิตภัณฑ์ของเรา เมื่อได้ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเห็นว่าเขาได้ประโยชน์คือ การมีสุขภาพที่ดี ก็มีการซื้อซ้ำ เรื่องยอดขายก็ตามมา และเกิดการพูดปากต่อปาก

จะเห็นว่า 5 ปีที่ผ่านมา ยูซานาไม่ได้ใช้สื่อหลักในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางการตลาดเลย ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของยูซานาที่ว่า เราจะไม่พูดอะไรเกินจริง โดยไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรอง เราดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้พูดว่าเราดีอย่างไร แต่เรามีผู้บริโภคที่ใช้จริงเป็นคนพูด รวมถึงการได้รับการันตีจากรางวัลต่างๆ ที่ได้รับจากสถาบันต่างๆ มาตลอด 20 ปี ที่ ยูซานาก่อตั้งขึ้น ข้อนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น”

เคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้นั้น สาริณี บอกว่า เริ่มต้นจากการทำงานอย่างมีความสุข

“หลายคนมองว่าคนเราควรจะประสบความสำเร็จก่อน แล้วจึงมีความสุข แต่เราจะบอกตัวเองและคนที่ทำงานด้วยกันเสมอว่า เราต้องทำงานอย่างมีความสุขแล้วความสำเร็จจะตามมา โดยเฉพาะเราเป็นผู้นำองค์กร ถ้าทำงานด้วยความเครียด หรือทุกอย่างต้องเป๊ะๆ ไปซะหมด คนที่ทำงานด้วยเขาไม่มีความสุขแน่นอน จะมองว่าปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องแก้ไข ทำให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่โวยวายใส่คนอื่น ถ้าเราเข้าใจ ให้เวลาให้พื้นที่สำหรับความผิดพลาดกับทุกคน แต่ต้องไม่ซ้ำเรื่องเดิมๆ จะทำให้คนที่ทำงานกับเราเขาก็จะไม่กลัวที่จะตัดสินใจ หรือเดินมาคุยกับเราบรรยากาศการทำงานก็ดีไปด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ยังรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย”

ด้วยลักษณะการทำงาน “การขาย” แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับ “คน” ซึ่งแต่ละคนก็มีบุคลิก นิสัยใจคอแตกต่างกันไป การรับมือกับคนจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย

“ไม่เฉพาะแต่งานขายหรอก หลายคนมักบอกว่าไม่ชอบงานขายของ เพราะไม่ชอบง้อคนรับมือกับคนไม่เป็น ตรงนี้อยากให้มองว่าในชีวิตของเราทุกคนก็เกี่ยวข้องกับงานขายอยู่แล้วล่ะ ไม่เป็นคนขาย ก็เป็นคนซื้อ ถึงไม่ทำงานขาย เราก็ต้องเกี่ยวข้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่าเราจะรับมืออย่างไร สำหรับตัวเองสิ่งสำคัญคือการพูด เราก็ต้องรู้ว่าเราจะพูดอะไร พูดกับใคร สิ่งที่พูดนั้นจะเป็นคุณเป็นโทษกับตัวเราหรือคนที่ได้ฟังอย่างไร อีกด้านคือ การฟังในสิ่งที่เขาพูด ฟังแล้วก็ต้องรู้จักเลือกที่จะเก็บ หรือจะปล่อยผ่าน เพราะถ้าเราเก็บทุกเรื่องที่ได้ฟังมาเป็นอารมณ์ แบบนั้นเราเองนี่แหละจะเป็นทุกข์”

สาริณี ในวัย 45 ปี และกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ในอีกสองเดือนข้างหน้า ยังคงทำงานไม่หยุด สิ่งสำคัญคือการดูแลสุขภาพให้พร้อมรับมือกับทุกกิจกรรม

“กำลังจะคลอดลูกแฝดชาย-หญิง เดือนกรกฎาคม นี้แล้ว โชคดีว่ายังไม่เคยใช้สิทธิ์คนท้องเหวี่ยงใครเลย ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน อย่างที่บอกว่าเรามีความสุขกับการทำงานและการใช้ชีวิต ก่อนจะมีน้องเราก็ดูแลสุขภาพมาตลอด พอมีน้องตอนอายุเยอะแล้ว ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องการกิน อย่างที่เขาบอกว่า You are what you eat กินอะไรได้อย่างนั้น จึงใส่ใจเรื่องการกินมาตลอด ทั้งจากอาหารมื้อหลัก รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ เพราะไม่อยากมานั่งรักษาตัวเอง หรือดูแลตัวเองเมื่อสาย ยิ่งวันนี้เราเป็นคุณแม่แล้ว ไม่ใช่แค่เราหรือสามี แต่เรายังมีลูกอีกสองคนที่กำลังจะเกิด เรายิ่งต้องทำให้สุขภาพกายใจสตรองที่สุด เพื่อให้ได้ทำงานที่รักและอยู่กับคนที่รักไปนานๆ ก็ตั้งใจว่าจะทำงานจนถึงวันคลอด”

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ ยูซานา ประเทศไทย นับว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้บริโภค นักธุรกิจ และยอดขาย เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้เราเห็นแล้วว่า เธอคนนี้คือตัวจริงของวงการขายตรงบ้านเรา และเป็นที่จับตามองถึงการเติบโตนี้ของยูซานา