ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/entertain/285970

‘แชป-มิ้นท์’ จับคู่ลงซิทคอม ‘ว่าความ ตามรัก’
จากบทประพันธ์ ทศพล ศิริวิวัฒน์ มาเป็นบทโทรทัศน์โดย กิตติณัฐ ณัฐรวีทศ กำกับการแสดงโดย อัครพล บัวแตง ในนามบริษัท ภาพไทย จำกัด “ว่าความตารัก” กำลังจะปักหลักที่เวลา 9 โมงเช้า ทุกเช้าวันเสาร์- อาทิตย์ ทางช่อง 7 HD กดเลข 35 ซึ่งจะเริ่มตอนแรก 19 สิงหาคมนี้ กับเรื่องราวของตระกูล “นับตังค์” ผู้เป็นเจ้าของตลาด มี ปู่นับตังค์ (พ่อดม ชวนชื่น) ผู้ใจดีเป็นคนบุกเบิก และ พ่อนับหนึ่ง (แอ๊ด-สุรชัย สมบัติเจริญ) ลูกชายคนเดียวช่วยพัฒนาตลาดจนรุ่งเรือง ทั้งคู่ดูแลตลาดอย่างมีความสุข รอการกลับมาของ เก้า (แชป-วรากร ศวัสกร) ลูก และหลานชายคนเดียวที่ไปเรียนเมืองนอก อยู่ๆ เจ๊หนู (ตุ๊ก-วิยะดา โกมารกุล ณ นคร) กิ๊กเก่าปู่นับตังค์กลับมาทวงสิทธิ์ในตลาด ทั้งที่เป็นฝ่ายทิ้งปู่ไปตั้งแต่ยังไม่รุ่งซ้ำยังกระเตงลูกสาวคนสวยแต่นิสัยแย่ หนิง (ปุ๊กปิ๊ก-ณัฏฐกันย์ อัมพรพงษ์) มาอยู่ด้วย จุดหมายของสองแม่ลูก คือ ฮุบสมบัติ!!

ก่อนเก้ากลับเมืองไทยไม่นานพ่อนับหนึ่งกับปู่นับตังค์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ทันทีที่รู้ข่าวเก้ารีบบินกลับเมืองไทยเพื่อร่วมงานเผาศพพ่อกับปู่แต่ถูกด่านสกัดยาเสพติด หมวดดาว (มิ้นท์-บารมิตา สาครจันทร์)ตำรวจสาวจอมเฮี้ยบไม่ให้ผ่านเพราะมีพิรุธ จึงเกิดปากเสียงกัน เก้ายกข้อกฎหมายมาชี้แจงจนหมวดดาวต้องปล่อยตัว สุดท้ายเขาก็ไปไม่ทันเผาศพพ่อกับปู่อยู่ดี ทุกคนเศร้าโศกกับการสูญเสียยกเว้นเจ๊หนูที่สั่งให้เปิดพินัยกรรมทันที..ไม่มีใครเห็นด้วยจึงต้องเลื่อน เก้าโทษตัวเองไม่ได้ดูแลปูกับพ่อจนต้องมาตายกะทันหันเจ๊หนูจี้จุดอ่อนทำให้เก้าไม่อยากอยู่บ้านนับตังค์ ยังดีมี ต้น (กิ๊ฟ ชวนชื่น) ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์เป็นกำลังใจช่วยต้านยัยเจ๊หนูกับลูกสาว จบงานศพเจ๊หนูรีบตาม ทนายยิ่งยง (ทศพล ศิริวิวัฒน์)ทนายประจำตระกูลนับตังค์มาเปิดพินัยกรรม ด้วยความเร่งรีบทนายดั๊นทำ พินัยกรรมหาย!! แต่ย้ำว่า..ปู่นับตังค์ห้ามทุกคนขายหุ้นตลาดให้คนอื่นนอกจากเก้า..สมบัติทั้งหมดต้องอยู่อย่างเดิม จริงๆ เก้าไม่ต้องการสมบัติเลยแต่พอเห็นความโลภของเจ๊หนูแล้วทำให้เปลี่ยนใจ เขาตั้งปณิธานว่า..จะไม่ยอมยกตลาดนับตังค์ให้เจ๊หนูแน่นอน
งานนี้เห็นว่าจัดมาในรูปแบบ ซิทคอมให้แง่คิด และความรู้ด้านกฎหมายอย่างง่ายๆ เพื่อให้ผู้ชมได้รู้เท่าทันกลโกงของคนเห็นแก่ตัว และปลูกฝังให้ผู้ชมเกิดความสามัคคีสำนึกรักบ้านเกิดที่สำคัญต้องซื่อสัตย์ต่อสังคมบ้านเมืองจึงจะน่าอยู่นั่นเอง
