ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/275977

‘สัตวแพทย์ จุฬาฯ ติดปีก 2560’ โครงการเสม็ด-เสร็จ (เกือบ) ทุกราย ปีที่ 5
สวัสดีครับ อีกหนึ่งกิจกรรมที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้จัดขึ้นเพื่อตอบแทนสังคม นั่นคือ โครงการ “สัตวแพทย์ จุฬาฯติดปีก” ซึ่งได้ดำเนินการติดต่อกันมา 6 ปีแล้วครับ
โดยเมื่อวันที่ 12-14 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ผม (ในฐานะหัวหน้าโครงการ) และทีมคณาจารย์ สัตวแพทย์ นิสิต และบุคลากรจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกหน่วยกิจกรรมจิตอาสา ปฏิบัติการ “ทำหมัน ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิ กำจัดเห็บหมัดและป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ให้กับสุนัขและแมว” ในชุมชนบ้านเพ และเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ปีนี้มีท่านคณบดี ศ.นสพ.ดร.รุ่งโรจน์ธนาวงษ์นุเวช และรองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ รศ.สพญ.ดร.เกวลีฉัตรดรงค์ ร่วมออกหน่วยด้วยครับ
งานนี้ ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน โดยจัดออกหน่วยเป็น 2 จุด คือที่บนฝั่ง (หอประชุมโรงเรียนวัดเภตราสุขารมย์ ตำบลเพ) และที่เกาะเสม็ด (อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด) ทางทีมงานต้องขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสถานที่ที่ใช้ได้จำลองเป็นห้องผ่าตัดแบบประยุกต์และคลินิกเคลื่อนที่สำหรับดำเนินโครงการด้วยครับ

โครงการสัตวแพทย์ จุฬาฯ ติดปีกของเรา ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก หนังสือพิมพ์แนวหน้า และเครือ SCG นอกจากนี้ได้รับการสนับสนุนเรื่องยาและเวชภัณฑ์สำหรับการทำหมันและวัคซีนจากพันธมิตรหลายบริษัท รวมถึงเซเลบฯจากทีมสิงห์ออลสตาร์ที่นำโดยคุณเอ็กซ์และคุณจอห์นด้วยครับ
และที่ผมจะลืมกล่าวถึงไม่ได้เลย นั่นคือ “บ้านสับปะรด” ในเครือ “เสม็ดรีสอร์ท” ที่ให้ความสะดวกสบายเรื่องที่พักและอาหาร
การกินแสนอร่อย และการบริการที่แสนอบอุ่นจากทีมพนักงานที่แสนน่ารักทุกคน งานนี้ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษ สำหรับผู้จัดการ
สาวสวย “คุณใหม่” กัตติกมาส ศิริโยธา ที่ช่วยดูแลและการประสานงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับเทศบาลตำบลบ้านเพ โรงเรียนวัดเภตราสุขารมย์ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งทำให้งานผ่านไปได้อย่างคล่องตัวทีเดียวครับ
งานนี้ แม้สุนัขและแมว “ไม่เสร็จทุกราย” (ตามสโลแกน เสม็ด-เสร็จทุกราย) แต่ก็ได้รับการทำหมันเพื่อ “ชะลอ” อัตราการเพิ่มของประชากรสัตว์จรจัดไปได้อย่างน้อยอีก 50 ตัว และได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ฉีดยากำจัดเห็บ-หมัด รวมถึงรับบริการไปกว่า 100 ตัว
จำนวนสัตว์ ที่เข้ารับการทำหมันน้อยลงกว่าปีก่อนๆ นั้น น่าจะสื่อให้เห็นว่าการควบคุมจำนวนประชากรสุนัขจรจัดนั้นประสบความสำเร็จและไปในทิศทางที่เราตั้งความหวังไว้ จากการที่ทำมาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปีแล้ว
ในส่วนของเกาะเสม็ดนั้น เนื่องจากสภาพความเป็นเกาะที่มีทะเลล้อมรอบ การควบคุมไม่ให้มีการเพิ่มขึ้นของประชากรสุนัขและแมวจรจัด (ตามทฤษฎี) นั้น ทำได้ไม่ยากนัก โดย 2 ช่องทางหลักคือ

1.การร่วมมือกัน “ไม่” นำสุนัขจากเขตฝั่งเข้ามาเพิ่มที่เกาะเสม็ด และ
2.การ “ทำหมัน” สุนัขและแมวที่อยู่บนเกาะ เพื่อให้ไม่มีการขยายพันธุ์กันเองต่อไป แล้วรอให้จำนวนลงไปตามอายุขัยของเขาเอง
ดังนั้นคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และเสม็ดรีสอร์ท เราจึงได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องทุกปี (ปีนี้ก็เป็นปีที่ 5 แล้ว) ซึ่งเรา
คาดหวังว่า “เกาะเสม็ด” จะเป็น “เกาะแรก” ที่สามารถควบคุมจำนวนสุนัขจรจัดไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ (โดยไม่ใช้วิธีการกำจัดหรือการฆ่า) รวมถึงจะเป็นสถานที่แรกในประเทศไทยที่ “ปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า” ก่อนปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ.2563) ดังนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะ “กำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี ค.ศ. 2020” และเพื่อให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า” ตามพระปณิธาน “ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี” อีกด้วยครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย