รักษ์เกษตร : วิธีการปลูกพืชอินทรีย์ ข้อควรปฏิบัติและข้อห้าม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/282441

x

รักษ์เกษตร : วิธีการปลูกพืชอินทรีย์ ข้อควรปฏิบัติและข้อห้าม

วันอังคาร ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

คำถาม ขอทราบความรู้ความเข้าใจเรื่องพืชอินทรีย์ มีวิธีการปฏิบัติอย่างไรบ้างครับ

อนุภาพ สองสามนาม

อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

คำตอบ พืชอินทรีย์ หมายถึง พืช ผลผลิต และผลิตภัณฑ์จากพืช ที่ได้จากการผลิต โดยใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช่พืชที่มีการตัดต่อสารพันธุกรรม มีการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะแก่สิ่งแวดล้อม

การเลือกพื้นที่ปลูก

– พื้นที่ ต้องเป็นพื้นที่ ที่ไม่เคยปลูกพืชที่ใช้สารเคมีมาก่อน หากเป็นพื้นที่เคยปลูกพืช โดยใช้สารเคมี ใช้ระยะเวลาปรับเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 1 ปี สำหรับพืชล้มลุก และ3 ปี สำหรับไม้ยืนต้น ให้ห่างจากถนน โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล และที่ทิ้งขยะ มีแหล่งน้ำที่จะต้องเป็นน้ำสะอาด ไม่มีสารเคมีเจือปน

– ดิน ต้องมีความอุดมสมบูรณ์สูง ถึงปานกลาง ถ้าสภาพที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ควรปรับปรุงดินด้วยวัสดุธรรมชาติ

การวางแผนการจัดการ หลักการสำคัญคือ ต้องวางแนวป้องกันสารปนเปื้อน ที่ปะปนมาทางดิน น้ำ และอากาศ โดยใช้วิธีปลูกพืชเป็นแนวกันชน เช่น ไผ่ กล้วย ไม้ยืนต้นต่างๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ให้ทำคันดินล้อมรอบ และยกแปลงปลูกให้สูง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่มาทางน้ำ วางระบบการใช้ การเก็บรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ และการขนส่งให้ถูกต้องด้วย

การจัดการดิน ต้องปรับปรุงบำรุงดิน โดยปลูกพืชหมุนเวียน ไม่เผาตอซัง ทำระบบเกษตรผสมผสาน ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และพืชตระกูลถั่ว ให้ใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ไม่มีการปนเปื้อนของสารต้องห้าม เช่น น้ำหมักที่ได้จากหมักปลา หอยเชอรี่ ปุ๋ยชีวภาพที่ผ่านการรับรอง ไม่ให้ใช้ปุ๋ยเคมีโดยเด็ดขาด

การเลือกพันธุ์ ต้องเลือกพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับสภาพดิน สภาพอากาศ มีความต้านทานต่อโรค และแมลงศัตรูพืช โดยไม่ใช้พันธุ์ที่ได้จากการตัดต่อพันธุกรรม หรือผ่านการอาบรังสี และเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ควรมาจากระบบการผลิตแบบอินทรีย์เท่านั้น

การจัดการศัตรูพืช ให้ใช้พันธุ์พืชที่มีความต้านทานต่อโรคสูง มีการปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อตัดวงจรชีวิตของศัตรูพืช จัดระบบแบบเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยทำระบบฟาร์มแบบผสมผสาน ไร่นาสวนผสมเพื่อให้เกิดระบบการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน หรือใช้วิธีกล เช่นไฟล่อ และกับดักกาวเหนียว หรือปลูกพืชไล่แมลงเช่น ตะไคร้หอม ดาวเรือง หรือใช้สารสกัดจากสมุนไพร เช่น สะเดา ข่า ตะไคร้ แทนสารเคมี

สารและวัสดุ ที่ได้อนุญาตให้ใช้ในการผลิตพืชอินทรีย์ ได้แก่

-ปุ๋ยอินทรีย์ ที่ผลิตจากวัสดุในฟาร์ม เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เศษวัสดุเหลือใช้ในฟาร์ม และปุ๋ยคอก อาหารที่ใช้เลี้ยง ต้องไม่เป็นพืชที่ได้จากการตัดต่อพันธุกรรม ไม่มีการใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ถ้าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากวัสดุนอกฟาร์ม ต้องผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ และปุ๋ยชีวภาพ ที่ผ่านการรับรอง

-ขุยอินทรีย์ สิ่งขับถ่ายจากไส้เดือนดินและแมลง ดินพรุ ที่ไม่ได้เติมสารสังเคราะห์ และดินอินทรีย์ ที่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ

-หิน และแร่ธรรมชาติ เช่น หินบด หินฟอสเฟต หินปูนบด ยิบซั่ม หินโพแทส แมกนีเซียมซัลเฟต แร่เฟลด์ แร่ดินเหนียว แร่เพอร์ไลท์ และแคลเซียมซิลิเกต

-สารอนินทรีย์ เช่น แคลเซียมจากสาหร่าย เปลือกหอย เปลือกไข่บด กระดูกป่นและเลือดแห้ง เกลือสินเธาว์ กำมะถัน โบแรกซ์และธาตุอาหารเสริมที่ผ่านการรับรอง

-สารใช้ควบคุมโรค ได้แก่ กำมะถัน พืชสมุนไพร และสารสกัดจากสมุนไพร ส่วนสารควบคุมแมลง ได้แก่ พืช หรือสารสกัดจากพืชสมุนไพร สารสกัดสะเดา สารโรตีโนน สารไพเรทริน จากธรรมชาติ จุลินทรีย์ปฏิปักษ์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน น้ำสบู่ สารทำหมันแมลง กับดักกาวเหนียว และกับดักแสงไฟ

สารและวัสดุที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตพืชอินทรีย์ ได้แก่ กากตะกอนโสโครก ปุ๋ยแร่ธาตุ สารพ่นใบ สารปรับปรุงบำรุงดิน หรือสารเร่งการเจริญเติบโตปุ๋ยเทศบาล หรือปุ๋ยหมักจากขยะในเมืองพวกจุลินทรีย์ต่างๆ และผลผลิตจากจุลินทรีย์ ซึ่งมีการเปลี่ยนพันธุกรรม โดยวิธีการตัดต่อพันธุกรรม เหล่านี้ ห้ามใช้โดยเด็ดขาด

นาย รัตวิ

Leave a comment