ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/282845

รายงานพิเศษ : ‘มูฮัมหมัดฮากิมลูปูซี’ ยุวเกษตรกรต้นแบบชายแดนภาคใต้
ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายในการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนายุวเกษตรกรโดยให้มีการรวมตัวกันของเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 10-25 ปี ที่มีความสนใจในด้านการเกษตร จัดตั้งเป็นกลุ่มยุวเกษตรกรเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะอาชีพการเกษตร ทักษะการดำเนินการชีวิตในสังคมโดยเน้นวิธีการเรียนรู้จากประสบการณ์และปฏิบัติจริง (Learning by doing)
ให้สมาชิกยุวเกษตรกรมีความสามารถและมีความพร้อมในการสืบทอดอาชีพการเกษตรโดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดให้มีการประกวดกลุ่มสมาชิกและที่ปรึกษายุวเกษตรกรทุกปี ทั้งระดับจังหวัด เขต และประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้ขวัญกำลังใจแก่กลุ่ม สมาชิก และที่ปรึกษายุวเกษตรกรที่มีผลงานดีเด่น สำหรับเขตภาคใต้ตอนล่าง ในปัจจุบันมีกลุ่มยุวเกษตรกรจำนวน 486 กลุ่ม จำนวนสมาชิก 9,720 คนและในปี 2559 นายมูฮัมหมัดฮากิม ลูปูซีสมาชิกยุวเกษตรกรของกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนดารุลรอห์มาฮ์ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1ระดับประเทศ
นายไพศาล สังข์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดให้มีการประกวดกลุ่มสมาชิกและที่ปรึกษายุวเกษตรกรเป็นประจำทุกปีเพื่อส่งเสริมและสร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มยุวเกษตรกรที่มีผลงานดีเด่น และสำหรับในเขตภาคใต้ตอนล่างนั้นนายมูฮัมหมัดฮากิม ลูปูซี ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1ระดับประเทศ โดยนายมูฮัมหมัดฮากิม ลูปูซี เกิดในครอบครัวที่พ่อแม่ทำการเกษตรมีเพียงบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ติดกับญาติพี่น้อง สังเกตเห็นว่าพ่อแม่มีความสุขกับการปลูกพืชผักต่างๆ และสมาชิกในครอบครัวได้รับประทานผักสดทุกวัน เลยรู้สึกสนุกอยากช่วยพ่อแม่ทำกิจกรรมในยามว่างจากเลิกเรียนและวันหยุด ประกอบกับเมื่อได้เข้ามาเรียนรู้อย่างจริงจังในกลุ่มยุวเกษตรกร ทำให้ตนเองเกิดความชำนาญและมีรายได้ จึงได้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและตั้งใจ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนและหน่วยงานจัดขึ้น ด้วยความเป็นผู้นำ ตั้งใจ ขยัน หมั่นเพียรและมีความรับผิดชอบ จึงทำให้ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มยุวเกษตรกรปัจจุบันนายมูฮัมหมัดฮากิม เป็นยุวเกษตรกรต้นแบบและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนอื่นๆในโรงเรียนและหมู่บ้านใกล้เคียง และบ้านที่อยู่อาศัยเป็นที่ศึกษาดูงานให้กับบุคคลทั่วไป โดยได้ปฏิบัติงานตามกระบวนการดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกร เช่น การเปิดประชุมสภายุวเกษตรกร, การส่งเสริมกิจกรรมทางการเกษตรต่างๆ และยังกำหนดให้มีการประชุมเดือนละครั้ง เพื่อให้การประชุมเป็นเวทีของการแลกเปลี่ยนการดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกร การสรุปผลการดำเนินงานและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการดำเนินงาน

นอกจากนี้ ยังมีการขยายผลออกไปที่บ้านของสมาชิกและนักเรียนในโรงเรียน เช่นการส่งเสริมการปลูกผักสวนครัว การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลาดุก จากการดำเนินงานของกลุ่มยังมีชุมชนและโรงเรียนต่างๆให้ความสนใจมาเรียนรู้และศึกษาดูงาน ในฐานะประธานกลุ่มยุวเกษตรกร ได้พยายามพัฒนาตนเอง และศึกษาหาความรู้สม่ำเสมอเพื่อพัฒนางานของกลุ่ม คอยติดตามดูแลสมาชิกที่ได้มอบหมายให้รับผิดชอบกิจกรรมให้ปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดปัญหาก็จะพยายามหาแนวทางแก้ไข โดยขอคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา คณะอาจารย์อยู่เสมอ
กิจกรรมในกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนดารุลรอห์มาฮ์ ประกอบด้วยกิจกรรมด้านพืช ได้แก่ ปลูกปาล์มน้ำมัน พืชผัก มะนาวปล้องบ่อซีเมนต์ กิจกรรมโรงเพาะชำ เพาะเห็ด ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงเป็ดเทศ ด้านประมง ได้แก่ เลี้ยงปลาดุก โดยนายมูฮัมหมัดฮากิมได้รับมอบหมายให้ดูแลสวนปาล์มน้ำมันไม้ผลในแปลงเกษตร เช่น กล้วย เงาะ มะละกอ ไผ่หวาน มันสำปะหลัง เป็นวิทยากรบรรยายความรู้เรื่อง การผลิตเชื้อราไตรโครเดอร์มา การเลี้ยงเป็ด ไก่ การผลิตปุ๋ยใช้เองและการแปรรูปด้านการเกษตร เช่น มันสำปะหลังทรงเครื่อง น้ำตะไคร้ ชาใบหม่อน ปลาดุกแดดเดียว และเห็ดสวรรค์ ส่วนองค์ความรู้โดดเด่นที่มีคือการเพาะเห็ดแบบครบวงจร สามารถผลิตวัตถุดิบในการเพาะเห็ด ทำก้อนเชื้อเห็ดและออกแบบเตานึ่งก้อนเห็ด
ปัจจุบัน นายมูฮัมหมัดฮากิม ได้เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่สมาชิกทั้งในโรงเรียน ชุมชน และผู้มาศึกษาดูงาน ทำให้ยุวเกษตรกรและตนเองมีรายได้จากกิจกรรมการเพาะเห็ดส่วนก้อนเชื้อที่ผลิตได้ส่งขายให้กับสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งสามารถผลิตก้อนเชื้อได้ 800 ก้อนต่อเดือนสำหรับกิจกรรมด้านการเกษตรของครัวเรือน มี 2 จุด คือ จุดที่ 1 ทำร่วมกับบิดา พืชผักที่ปลูกได้แก่ มะเขือชนิดต่างๆ พริก และไม้ผลบริเวณรอบๆบ้านและจุดที่ 2 เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบคนเดียว โดยปลูกพริกขี้หนู ตะไคร้ มะเขือเทศราชินี ผักกาดเขียว ผักบุ้ง ข่า ผักชีฝรั่ง ลองกอง กล้วย เงาะมังคุดและละไม สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเดือนละไม่ต่ำกว่า3,000 บาท โดยนายมูฮัมหมัดฮากิม ลูปูซี ใช้หลักแนวคิดที่ว่า “การเกษตรไม่ใช่อาชีพที่ด้อยค่า ล้าหลังและการจับจอบขุดดินเพียงอย่างเดียวแต่สามารถใช้ความรู้เทคนิคเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตได้”ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพการเกษตรสามารถเป็นแบบอย่างให้เยาวชนและเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
