ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/282659

ส่องเกษตร : กาฬสินธุ์ต้นแบบนำร่องเมืองข้าว(จบ)
รายงานของสปท.-สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่อง “นำร่องเมืองข้าว : จังหวัดกาฬสินธุ์..Rice City Pilot Project : Kalasin Province” ฉบับสรุปสำหรับผู้บริหาร ที่รัฐบาล คสช.โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานได้รับลูกนำไปผลักดันแล้ว มาว่ากันต่อตอนสุดท้ายเลยครับ….
………………………………………..
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
องค์ประกอบของการเป็นเมืองข้าว
1) การขับเคลื่อนโซ่แห่งคุณค่าข้าวทั้งเกษตรกรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง 2) ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวครบวงจร 3) ส่งเสริมการผลิตข้าวแปลงใหญ่เชิงอุตสาหกรรมด้วยการสนับสนุนมาตรการทางการคลัง 4) การใช้แนวทางสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงโอกาสเพิ่มรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ5) การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการส่งเสริมอัตลักษณ์จังหวัด (Provincial Brand) 6) ศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายข้าวเชิงพาณิชย์ทั้งภายในและการส่งออก (ต้นแบบของประเทศ) 7) ศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสัมฤทธิผลของโครงการ 8) การขับเคลื่อนเชื่อมโยงไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันข้าวอย่างยั่งยืน
จากองค์ประกอบข้างต้นแนวทางการแก้ปัญหาข้าวในรูปของเมืองข้าวนำร่องโดยใช้จังหวัดนำร่องและขับเคลื่อน ด้วย “เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมต่อเนื่องข้าวครบวงจร” จากการศึกษาพบว่า “จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความเหมาะสมเป็นเมืองข้าวนำร่องของประเทศ” เนื่องจากศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งอยู่ตรงศูนย์กลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแหล่งน้ำและระบบชลประทานตลอดปีจากเขื่อนลำปาวซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี นอกจากนี้ด้านโลจิสติกส์สามารถเชื่อมโยงกับระบบรางคู่ผ่านชุมทางจิระ (จังหวัดขอนแก่น) ซึ่งในอนาคตจะมีศูนย์รวบรวมตู้สินค้า (ICD) เพื่อให้เกิดการขนส่งทางรางสู่ท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากนี้ทางจังหวัดเสนอพื้นที่ 1,500 ไร่ เป็นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นพื้นที่ติดถนนไฮเวย์ เส้นทางอีสต์เวสต์คอริดอร์ส ซึ่งมีเอกชนพร้อมที่จะลงทุน
แนวทางการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดเมืองนำร่องในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาครัฐและเอกชน มีความพร้อม โดยมีการตั้งคณะ
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์จังหวัด ขณะเดียวกันภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดและหอการค้าจังหวัด มีความกระตือรือร้นต้องการขับเคลื่อนและพร้อมที่จะให้เกิดการลงทุน โดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจจัดทำรายงานการศึกษาฯ เพื่อที่จังหวัดจะได้นำไปต่อยอดให้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0และให้มีมติคณะรัฐมนตรีสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเป็นเขตส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ด้านมาตรการทางการคลังขอให้มีการพิจารณากิจการที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ เช่น การผลิตข้าวแปลงใหญ่เชิงอุตสาหกรรม โรงสีไฮเทค อุตสาหกรรมและนวัตกรรมการแปรรูปข้าว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าว เช่น โรงงานผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมผลิตปุ๋ย ปัจจัยการผลิต ฯลฯ โดยให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเทียบเท่าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
อย่างไรก็ดี หากจะปฏิรูปชาวนาและคุณภาพชีวิตที่ดีจะต้องขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นเกษตรกรรมที่ใช้นวัตกรรมให้เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าข้าว ด้วยการพัฒนาให้เกิดเป็นเมืองข้าวนำร่องของประเทศ และนำผลที่ได้ทั้งความสัมฤทธิผลหรือความล้มเหลวไปสังเคราะห์ต่อยอดปรับปรุงเพื่อนำไปใช้พัฒนาในพื้นที่อื่นของประเทศ เพื่อให้เป็นการปฏิรูปข้าวทั้งโครงสร้างและยกระดับรายได้คุณภาพชีวิต และปัญหาความเหลื่อมล้ำของเกษตรกรชาวนาได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ข้อจำกัดของการศึกษา รายงานการศึกษานี้เป็นการศึกษาเฉพาะเมืองข้าวนำร่อง ไม่ใช่ศึกษาข้าวทั้งระบบ เป็นการศึกษาด้วยข้อมูลทุติยภูมิและการได้ข้อมูลจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ซึ่งแต่ละหน่วยงานให้ข้อมูลเป็นส่วนๆ ทำให้ยากต่อการเชื่อมโยง อีกทั้งด้วยข้อจำกัดทั้งเรื่องของเวลา และด้านเทคนิค ทำให้ไม่สามารถสอบถามข้อมูลที่ต้องการได้จากหน่วยงานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึงเรื่องที่ศึกษา เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลค่อนข้างจำกัด”
……………………………….
ทั้งหมดนี้คือบทสรุปผลศึกษาของสปท.ที่กำลังถูกนำไปผลักดันเป็นรูปธรรม ซึ่งก็ต้องตามดูต่อไปว่าจะประสบผลสำเร็จเพียงใด แต่ก็ต้องให้กำลังใจเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาข้าวอย่างยั่งยืนและเพื่อเกษตรกรชาวนาของไทยเรา
สาโรช บุญแสง