แตกใบอ่อน : เสือข้ามห้วย-เสือลำบาก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/282841

807934531

แตกใบอ่อน : เสือข้ามห้วย-เสือลำบาก

วันพฤหัสบดี ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่ประการใดกับข่าวการถูกเด้งออกจากเก้าอี้ปลัดกระทรวงเกษตรฯของ “ธีรภัทร ประยูรสิทธิ”ไปนั่งตบยุงอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพราะความจริงก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาเป็นระยะอยู่แล้วว่าแกจะถูกเขี่ยออกจากเก้าอี้ ซึ่งถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะตั้งแต่เมื่อคราวโยกย้ายเมื่อปลายปีก่อนแล้วที่มีข่าวลักษณะนี้หลุดออกมา

ส่วนสาเหตุก็อย่างที่ทราบกันตั้งแต่ปีมะโว้ คือ ปลัดกับรัฐมนตรีทำงานไม่เข้าขากัน โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีนายใหญ่กระทรวงเกษตรฯ มองว่า ปลัดธีรภัทรทำงานไม่เข้าเป้า ผลงานไม่เข้าตาเพราะสั่งงานใครไม่ได้ ลูกน้องไม่เชื่อฟังซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปลัดธีรภัทรแกไม่ใช่ “ลูกหม้อ” ของกระทรวงเกษตรฯ แต่เป็นที่รัฐมนตรีฉัตรชัยนี่แหละที่ไปลากแกมาจากเก้าอี้ “อธิบดีกรมป่าไม้”

การเป็นเสือ “ข้ามห้วย” มากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนี่แหละที่ก่อปัญหาให้กับปลัดธีรภัทร เพราะอย่างแรก กระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงที่ค่อนข้างใหญ่ มีขอบเขตภารกิจที่ค่อนข้างกว้างขวาง และที่สำคัญ คือ “ขาใหญ่” ค่อนข้างเยอะ

ดังนั้นการที่อยู่ๆ ไปเอาคนจากข้างนอกที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจหรืออาจจะเรียกได้ว่ายังมีความ “อาวุโส” และ “บารมี” ไม่มากพอมาทำงานแบบปลัดธีรภัทร พอมาเจออธิบดีหรือข้าราชการระดับเขี้ยวลากดินหน่อย คุณธีรภัทรเองก็แทบจะกลายเป็นง่อย สั่งงานใครไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นพอรัฐมนตรีมอบหมายงานอะไรลงมา ก็กลายเป็นงานไม่เดินไปเสียอย่างนั้น

ในขณะที่เนื้องานของกระทรวงเกษตรฯเอง ยิ่งนับวันก็ยิ่งต้องอาศัยกระบวนการขับเคลื่อนเชิงรุกมากขึ้นไปเรื่อยๆ และมีภารกิจสำคัญให้ต้องขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อเกิดช่องว่างระหว่างปลัดกับผู้บริหารคนอื่นๆ และปลัดกับรัฐมนตรี สุดท้ายปลัดธีรภัทรก็เลยต้องตายอย่างเขียด

จาก “เสือข้ามห้วย” ก็ต้องกลายเป็น “เสือลำบาก” เป็นผู้รับบาป-รับกรรมไปคนเดียว

สิ่งที่ต้องจับตากันต่อหลังจากนี้ คือ แล้วใครที่จะได้ขึ้นมาเป็นปลัดคนต่อไปซึ่งตามข่าวที่ออกมาก็มีรายชื่อ “แคนดินเดต”อยู่แค่เพียง 2 คน คือ รองปลัดฯ“เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ” กับ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร “สมชาย ชาญณรงค์กุล”

2 คนนี้จะว่าไปก็มีชื่อเป็นแคนดิเดตมานานตั้งแต่มีข่าวปลดปลัดธีรภัทรในช่วงแรกๆ เพราะได้ทั้งความอาวุโส ความสามารถด้านบริหาร รวมทั้งเป็นคนของกระทรวงเกษตรฯ จึงทำให้ได้ใจคนในองค์กรมากทั้งคู่ โดยแต่เดิมชื่อที่มาแรงเป็นพิเศษ คือ รองปลัดเลิศวิโรจน์ เพราะมีข่าวว่าแกทำงานถูกอกถูกใจและ “เข้าตา” ท่านนายกฯ“ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อย่างหนัก จนถูกหยิบยกไปพูดถึงบ่อยครั้ง เช่น ผลงานเรื่องแผนการทำเกษตรเหมาะสมกับสภาพดินและน้ำ (Agri Map) นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีความใกล้ชิดกับสายทหาร โดยจุดอ่อนเดียวที่มีก็น่าจะมีเพียงเรื่องความเชี่ยวชาญสายงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ เนื่องจากรองปลัดเลิศวิโรจน์ เป็นสายตรงทำงานอยู่ใน “กรมชลประทาน” เป็นหลัก กระทั่งได้ขึ้นเป็นอธิบดีจนครบวาระ 4 ปีถึงได้ย้ายออกมาเป็นรองปลัดฯ

ขณะที่ อธิบดีสมชาย แม้แต่เดิมจะมีภาษีน้อยกว่า แต่ระยะหลังถือว่ามาแรง เพราะเป็น “คีย์แมน” สำคัญที่คอยขับเคลื่อน “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ของกระทรวงเกษตรฯ และสำคัญไม่แพ้งาน “เกษตรแปลงใหญ่” เลยทีเดียว ซึ่งอธิบดีสมชายก็สามารถทำได้ค่อนข้างเข้าตารัฐมนตรี นอกจากนี้หากจะดูเรื่องความกว้างขวางในเนื้องานของกระทรวงเกษตรฯ ตัวของอธิบดีสมชายก็ต้องถือว่าครบเครื่องไม่เบา เพราะเคยผ่านงานทั้งรองปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ก่อนจะมานั่งในเก้าอี้อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

ดังนั้นถ้าเป็นมวย สำหรับ 2 คนนี้ก็ต้องถือว่าเป็นมวยถูกคู่ แต่สุดท้ายก็ต้องมาดูกันว่าใครจะเฉือนใคร หรือจะมี“ตาอยู่” โผล่มาจากไหนอีกหรือไม่ คงไม่นานก็น่าจะได้รู้กัน

มะลิลา

Leave a comment