ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/280713

‘ครูหนิง-รจเรข’ และ ‘ครูเจี๊ยบ-สวิตตา’ แห่ง ‘เดอะฮับ สายเด็ก’ ผู้ดูแลเด็กด้อยโอกาส
ปัญหาเด็กและเยาวชนนับเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่มากในสังคมไทย ศูนย์เดอะฮับ สายเด็ก จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ ให้มีที่กิน ที่พักอาศัย พร้อมมีครูและเจ้าหน้าที่คอยดูแลเป็นอย่างดี รายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” พาไปพูดคุยกับ “ครูเจี๊ยบ-สวิตตา ศรีบุญนาค” และ “ครูหนิง-รจเรข ขาวงาม” พร้อมด้วย “น้องส้ม” เยาวชนที่ได้รับความช่วยเหลือจาก เดอะฮับ สายเด็ก
ครูหนิง-รจเรข ขาวงาม เล่าว่า “เดอะฮับ สายเด็ก เราช่วยเหลือเด็กที่ได้รับปัญหาต่างๆ เด็กที่มาอยู่ที่นี่จะเป็นเด็กที่มีปัญหาเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศ การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เรื่องของปัญหาครอบครัว และก็การหลุดออกมาจากระบบการศึกษาคือไม่ได้เรียนหนังสือ เด็กที่นี่ถามว่ามีผู้หญิงหรือผู้ชายมากกว่า ก็พอๆ กันนะคะ ช่วงเดือนนี้ถ้าเข้าออกช่วยเหลือกันอยู่ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 30 กว่าคน
ปัญหาเด็กที่เราเจออยู่ทุกวันนี้ ถามว่าอะไรคือ สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเหล่านี้ต้องมาพึ่งบริการที่นี่ ถ้าครูหนิงมองจะมองจากจุดเริ่มต้น ก็คือปัญหาในครอบครัว เพราะว่าด้วยจากเศรษฐกิจในครอบครัวของเขา ก็คือพ่อแม่หาเช้ากินค่ำ เวลาที่จะอบรมหรือว่าให้ความดูแลน้องๆ เหล่านี้ก็ขาดหายไปเลย

เด็กที่เราช่วยเหลือ ก็คือมันเป็นกระบวนการค่ะตรงนี้สิ่งที่เราทำเราไม่ได้คาดหวังผล 100%ในการที่น้องจะกลับไปสู่ครอบครัวอย่างเด็กปกติทั่วไปแต่อย่างน้อยเราได้ทำแล้ว เราได้ทำสิ่งที่เราควรจะทำ อย่างเช่น น้องเขาขาดความอบอุ่นในครอบครัวเราถึงแม้ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เราก็ให้ความรักความอบอุ่น เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ดูแลเอาใจใส่ ให้การศึกษาด้วยสิ่งที่เขาขาดไป เราก็พยายามเติมให้เขา
ในมุมมองตรงนี้ เราก็อยากให้สังคมเปิดกว้าง ในลักษณะว่าถ้ามีกลุ่มนักศึกษา ก็สามารถเข้ามาทำกิจกรรมตรงนี้ได้ แล้วก็ในอนาคตหน่วยงานต่างๆ เขาเข้าใจเด็กมากขึ้น เขาก็จะสามารถเปิดรับเด็กกลุ่มที่อยู่กับเราที่อยู่ในภาวะที่เขาได้เจอความบอบช้ำมา จะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าเด็กตรงนี้เขาต้องการอะไร บางทีเขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่สังคมเข้าใจ
ด้าน ครูเจี๊ยบ-สวิตตา ศรีบุญนาค บอกว่า“เด็กที่อยู่ที่นี่ถามว่าเราให้การดูแลเขาอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะมีพวกปัจจัยสี่ อาหาร แล้วก็ที่นอนที่พัก เพราะเด็กเร่รอนส่วนใหญ่เขาจะขาดที่พักและอาหาร เราก็ส่งเสริมโดยการศึกษา และพัฒนาด้านอาชีพด้วย แล้วก็ทักษะการดำรงชีวิต เพราะเด็กเขาจะขาดทักษะด้านนี้อย่างมาก เด็กที่อยู่ที่นี่อายุน้อยสุดถ้าในชุมชนก็ตั้งแต่ 2 ขวบ หรือว่าตั้งแต่แรกเกิดก็มี เราสนับสนุนทางด้านนมด้วยค่ะ เป็นเด็กในชุมชน บางส่วนก็อยู่กับแม่เขา เราสนับสนุนเรื่องนมผง อายุเยอะสุดที่เราดูแลอยู่ ก็น่าจะอยู่ประมาณใกล้ๆ เลข 40 ค่ะ แต่น้องจะมีปัญหาทางด้านสมอง
ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นปัญหาที่มาจากความรุนแรงในครอบครัว อย่างเช่น น้องบางคน สาเหตุการเร่ร่อน คือพ่อกับแม่เขาใช้ความรุนแรงกับลูก โดยการตีลูก ไม่เข้าใจในช่วงที่ลูกเข้าสู่วัยรุ่น น้องก็เลยเร่ร่อนออกมา บางทีเด็กๆ เราเคยเข้าไปสอนในโรงเรียนแล้วก็รณรงค์ด้วย มันจะมีปัญหาเรื่องเด็กที่เขาแบบมีพฤติกรรมที่จะออกนอกระบบ คือเขาไม่สามารถจะอยู่ในระบบได้ แต่ระบบการศึกษาไทย เน้นเรื่องคะแนน แล้วเด็กบางคนไอคิวของเขาจะต่ำกว่าเพื่อน คือสมองไม่พร้อมที่จะรับรู้เรื่องการเรียน น่าจะมีทางเลือกอื่นให้เขา เราก็เลยเลือกที่จะให้เขาเรียน กศน. เพื่อสนับสนุนให้เขามีวุฒิด้วย
แล้วทางมูลนิธิเรา ก็เป็นที่ปรึกษาให้กับเด็ก แล้วก็เสริมเรื่องของจริยธรรมลงไปด้วย จริยธรรมก็อย่างเช่น น้องบางคนเขาเคยเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่ศูนย์ฯ เขาเคยปล้น เคยใช้ความรุนแรง เคยก่อคดีอาชญากรรมมาบ้าง เราก็เลยสอนเขาให้เขาเป็นคนดีขึ้นมา สาเหตุที่เขาทำก็คือ ปัจจัยสี่ที่เป็นส่วนสำคัญ คือเขารู้สึกหิวแล้วเขาไม่มีเงิน ก็เลยต้องไปลักขโมย วิ่งราวเรื่องของอาหาร เรื่องของที่พัก ทางศูนย์เราก็เลยจัดตั้งทั้งอาหารและที่พักให้เขา มันก็จะลดปัญหาตัวนี้ลงไปได้เยอะเลยค่ะ เราอยากให้คนทั่วไปเปิดโอกาสให้น้องๆ ด้วย เราอย่าไปมองเขาแล้วตีตราว่าเขาเป็นเด็กไม่ดี เด็กเหลือขอ ควรจะให้โอกาสเขา มองเขาเหมือนเขาเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนเรา”

สุดท้าย “น้องส้ม” ที่อยู่ในความดูแลของ เดอะฮับ สายเด็ก เล่าว่า“หนูอยู่ที่นี่มาประมาณ 6 เดือนแล้ว หนูมาจากคลองตัน ตอนแรกหนูจะมาเที่ยวหาเพื่อนเฉยๆ มีพี่ที่รู้จักกันมาอยู่ที่นี่ สุดท้ายที่มาอยู่ตรงนี้เพราะครูเขาเรียกขึ้นมาคุยว่าอยากให้ช่วยเหลืออะไรมั้ย แล้วก็มาที่นี่ค่ะ อยู่ที่นี่หนูก็ทำงานขายน้ำปั่นบนรถฟู้ดทรัค แล้วก็เรียนหนังสือไปด้วย ตอนนี้เรียนอยู่ม.3 ค่ะ
พ่อกับแม่หนูแยกทางกัน ตอนนี้ก็เจอพ่อค่ะ พ่อก็ไม่ได้บอกว่าให้กลับไปอยู่ด้วยกัน ปัญหาที่ทำให้เด็กมาอยู่ที่นี่นอกจากจะไม่ได้รับความอบอุ่นจากที่บ้าน ถูกกระทำด้วยความรุนแรงแล้ว หนูก็คิดว่ามีสาเหตุอื่นนะคะ อย่างเด็กที่เรียนหนังสือตามโรงเรียน เขาก็ออกมามีชีวิตอย่างพวกหนูได้นะคะ เพราะว่าตามเพื่อน หรือบางคนพ่อแม่ก็อยากจะให้เรียนอย่างเดียว บางคนก็จะเครียดๆ มันก็เบื่อ เหมือนกับโดนบังคับให้เรียนหนังสือเลยไม่อยากอยู่บ้าน ก็เลยออกมาอยู่ตรงนี้
ในฐานะที่หนูเคยอยู่ในสภาพปัญหาเหล่านี้มาก่อน มันก็อยู่ทั้งตัวพ่อแม่และตัวเด็กเหมือนกัน อย่างครอบครัวบางคนเขาเอาใจใส่ลูกดี มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกขาด แต่บางคนเขาก็ไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว หรือจากพ่อแม่เขาไม่ได้ให้มันก็มีส่วน
ครูหนิงทิ้งท้ายว่า “สำหรับคนที่อยากให้สนับสนุนน้องๆ เหล่านี้ หรืออยากจะช่วย The Hub สายเด็ก ก็ติดต่อมาได้ที่ มูลนิธิ สายเด็ก 1387”
เรื่องราวดีๆ ที่ครบครันทั้งสาระและบันเทิงแบบนี้ มีให้ชมในรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน”ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง TNN2 (และช่อง 784 ทางดิจิตัลทีวี) หรือ True Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่ youtube ผู้หญิงแนวหน้า byคุณแหน