…นอกจากงานบริหาร ก็แบ่งเวลาไปเป็นวิทยากร เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้องๆ รุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นตัวแทนประกันฯมืออาชีพ เรียกว่า การเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯก็ถือว่าเป็นการตอบแทนอาชีพที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ได้…

เมื่อพูดถึง “คนขายประกัน” หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน” หลายคนคงเบือนหน้าหนีและมีภาพจำต่อคนทำอาชีพนี้ที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับตัวแทนประกันมืออาชีพฯ อันอันต้นๆ ของวงการ บงกช บวรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และ

นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน วาระปี พ.ศ.2560-2562

บงกช เข้าสู่เส้นทางนักขายประกันตั้งแต่ปี 2532 ด้วยเหตุผลที่ต้องการหาความมั่นคงให้กับชีวิต เธอจึงลาออกจากการเป็นพนักงานธนาคารมาเป็นตัวแทนประกันฯ อย่างเต็มตัว และทำงานด้วยความมุ่งมั่น

“ขายประกันในสมัยนั้นยากมากกว่าจะได้ลูกค้า เพราะในยุคนั้นคนไทยยังไม่ค่อยเข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของการทำประกันชีวิตมากนัก อีกทั้งอาจจะเคยเจอตัวแทนประกันที่ไม่มีความรับผิดชอบ ทำงานช่วงแรกเราต้องเดินไปหาไปทำความรู้จักกับลูกค้า ต้องใช้ความอดทน เจอลูกค้าปฎิเสธไม่เว้นแต่ละวัน แต่หัวหน้างานเขาจะบอกเสมอว่าลูกค้าปฏิเสธคือความสำเร็จ จะเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ได้ฝึกฝนตัวเอง ไม่มีใครหรอกที่จะปิดการขายได้ภายในวันเดียว ดิฉันก็พยายามมาเรื่อยๆไปพบ ไปคุยกับเป้าหมายจนเกิดความไว้วางใจในที่สุดก็ขายได้ จากตอนแรกที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอย่างน้อยเรามีรายได้เดือนสองหมื่นบาทก็พอใจแล้ว แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันมากกว่าที่เราหวังไว้ ก็เลยอยู่ในอาชีพนี้มาจนถึงทุกวันนี้”

กว่า 20 ปีกับอาชีพนี้ เริ่มจากการเป็นตัวแทนประกันฯ ตัวเล็กๆ ก้าวสู่เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง ทำให้เธอมองเห็นปัญหาและจุดบอดของคนอาชีพนี้ที่ควรได้รับการดูแลแก้ไข บงกช จึงได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมอาชีพให้นั่งเก้าอี้ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน วาระปี พ.ศ.2560-2562 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“สมาคมฯ นี้ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่เราต้องการยกระดับมาตรฐานของสมาชิกตัวแทนประกันฯ ด้วยการส่งเสริมความรู้ความสามารถ พัฒนาทักษะในด้านต่างๆให้แก่สมาชิก การเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือสมาชิกสมาคม โดยมีการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภคให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตและการออม การเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ ตรงนี้ ดิฉันก็ยังคงดำเนินกิจกรรมสมาคมให้เป็นไปตามนโยบาย และสานต่อนโยบายหรืองานของอดีตนายกสมาคมฯท่านก่อนๆ ที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย เช่น ตอนนี้เรากำลังเจรจากับรัฐบาลอยู่ในเรื่องการลดหย่อนภาษีของอาชีพตัวแทนประกัน เพราะว่าตัวแทนประกันที่มีรายได้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องแก้ไขเพื่อช่วยเหลือตัวแทนประกันฯ ทั่วประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะให้ความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร และเพิ่มจำนวนสมาชิก ปัจจุบันมีตัวแทนประกันฯทั่วประเทศประมาณ 4 แสนคน แต่สมาคมฯ มีสมาชิกประมาณสองหมื่นคนเท่านั้น”

ในฐานะ “ตัวแทนประกันฯ มืออาชีพ” เป็นทั้งผู้บริหารและนายกสมาคมตัวแทนประกันฯ บงกช อยากเห็นธุรกิจประกันในบ้านเราเติบโตขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญอยู่ที่“ผู้บริโภค”

“คนไทยยังเห็นความสำคัญของการทำประกันน้อยมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ปานกลางลงไป แต่เรื่องการทำประกันเป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อย เพราะการทำประกันคือการออมรูปแบบหนึ่ง ที่จะช่วยคุณแบ่งเบาภาระที่ไม่คาดคิดได้มาก ตัวอย่างเช่น ประกันชีวิต ถ้าคุณเจ็บป่วยขึ้นมา เงินเก็บก็ไม่พอ แต่กรมธรรม์จะช่วยคุณได้ในเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือจะเป็นหลักประกันให้กับคนที่อยู่ข้างหลังได้ แต่หลายคนจะให้เหตุผลว่าหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินจะจ่ายค่าเบี้ย ซึ่งจริงๆ แล้ว รูปแบบการทำประกันปัจจุบันมีให้เลือกมากมายที่เหมาะกับรายได้ของแต่ละคน ตรงนี้ดิฉันเองก็พยายามที่จะบอกน้องๆ ตัวแทนประกันฯ ว่า หน้าที่ของเราคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่เหมาะกับลูกค้า ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับลูกค้ามากที่สุด”

สำหรับการจะเป็นตัวแทนประกันที่ประสบความสำเร็จในการขายได้นั้น บงกช แบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังว่า

“ดิฉันไม่เคยมองว่าคนนั้นคนนี้คือลูกค้า แต่คิดว่าเขาคือเพื่อนที่เราอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้ การออกไปหาลูกค้าคือการไปหาเพื่อน วันนี้อาจจะปิดการขายไม่ได้ไม่เป็นไร ไปบ่อยๆ ไปคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้างเพื่อสร้างความคุ้นเคย และทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อเขาเชื่อใจไว้วางใจเราการขายก็เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญคือบริการหลังการขาย ดิฉันรู้ว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยอยากซื้อประกันก็เพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับตัวแทน ตรงนี้ดิฉันก็เน้นย้ำกับน้องๆ รุ่นใหม่ว่า บริการหลังการขายเป็นหัวใจสำคัญมากนะ ลูกค้ามีปัญหาอะไรเราต้องไปช่วยดูแลแก้ไข การเคลมประกันต่างๆ ต้องรวดเร็วและมีความเรียบร้อยถ้าตัวแทนประกันฯ ทำได้แบบนี้ มันจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับอาชีพของเรา และทำให้เรายืนอยู่ในอาชีพนี้ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง”

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าเธอผู้บริหารนั่งเก้าอี้ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และนายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินแต่ทุกวันนี้ บงกช ก็ยังทำหน้าที่ “ตัวแทนประกันฯ” อยู่เช่นเดิม

“หลายคนถามว่าเป็นระดับผู้บริหารแล้วทำไมยังขายอีก ที่ยังทำอยู่เพราะลูกค้าที่ดูแลคือลูกค้าเก่าที่ดูแลกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วตั้งแต่รุ่นแม่จนถึงรุ่นหลาน ก็เลยทิ้งกันไม่ได้ ถึงแม้ทุกวันนี้จะไม่ต้องไปเคาะประตูบ้านใครแล้วก็ตาม ลูกค้าใหม่ที่เข้ามาก็เป็นการแนะนำกันมาให้เราเข้าไปดูแล อีกอย่างคือเราก็ยังสนุกกับการทำงานอยู่ อย่างที่บอกว่าการไปหาลูกค้าคือไปหาเพื่อน แต่ทั้งหมดวันนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เราเหมือนคนในครอบครัวเขาไปแล้ว นอกจากงานบริหาร ก็แบ่งเวลาไปเป็นวิทยากร เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้องๆ รุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นตัวแทนประกันฯ มืออาชีพ เรียกว่า การเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯก็ถือว่าเป็นการตอบแทนอาชีพที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ได้”