ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/280852

สัตว์เลี้ยงกับโรคไต (ตอนที่ 2)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้พูดกันถึงอาการและสาเหตุของโรคไตกันไปแล้ว ซึ่งสาเหตุของโรคไตวายนั้น คือการได้รับสารพิษ สารเคมีในอาหาร หรือการได้รับยาบางชนิดในปริมาณสูงเป็นเวลานาน ได้แก่ ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม ที่ใช้รักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังและหู เป็นต้น ยาในกลุ่มลดอักเสบที่ไม่ไช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Antiinflammatory Drugs) หรือ NSIADs ซึ่งใช้รักษาโรคกระดูก ข้อ และเป็นยาลดปวด ซึ่งเป็นอันตรายถ้าให้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ โดยเฉพาะให้ในสัตว์อายุมาก
ไตวายเรื้อรังส่วนใหญ่มักเกิดในสุนัขอายุมาก สัตว์มีสภาวะร่างกายที่เสื่อมถอยลง ส่วนใหญ่พบในสุนัขที่ได้รับอาหารซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ แทบจะตลอดชีวิต เช่น ตับไก่ย่าง (ตับช่วยบำรุงเลือดก็จริง แต่ก็เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ขจัดสารตกค้างและเป็นที่สะสมสารพิษในร่างกายไก่ ประกอบกับการปรุงรสที่เค็มและเข้มข้นจากผู้ปรุง) และในแมวที่กิน ปลาทูเข่ง (เป็นปลาทูที่ถูกต้มในน้ำเกลือแล้วเอามาวางเรียงใส่เข่งขายตามท้องตลาด) เป็นประจำทุกมื้อติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเกลือและสารตกค้างที่ทำให้เกิดภาวะไตวายได้สูงมาก
อาการของสัตว์ที่มีปัญหาเรื่องไตที่เราสังเกตได้ ที่ได้เกริ่นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็คือ สัตว์จะซึม เบื่ออาหาร ร่างกายทรุดโทรม ผิวหนังเหี่ยวขาดความยืดหยุ่นเนื่องจากภาวะแห้งน้ำ (dehydration) ขนแห้งหยาบน้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว มีกลิ่นปาก อาเจียน และอาจเกิดการชักได้

การตรวจวินิจฉัย
ในการตรวจวินิจฉัยนั้น นอกจากสัตวแพทย์จะสอบถามจากประวัติ และอาการแล้ว การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ รวมถึงการทำอัลตราซาวนด์ จะเป็นการช่วยยืนยันสภาพความผิดปกติของไตได้เป็นอย่างดีครับ การตรวจดูค่าทางเคมีของเลือดตัวหลักๆ ได้แก่การตรวจดูค่า Creatinineและ BUN
Creatinine เป็นของเสียที่เกิดจากกล้ามเนื้อ สารนี้จะเกิดขึ้นทุกวัน และมีค่าคงที่ เท่าๆ กันทุกวัน ซึ่ง creatinine นี้ จะถูกกรองที่ไตและขับออกทางปัสสาวะ แต่ถ้าไตทำงานผิดปกติ หรือเสื่อมลง จะทำให้การกำจัดสาร Creatinine จะลดลง ดังนั้น ค่า Creatinineในกระแสเลือดจะสูงกว่าปกติ (ค่าปกติในสุนัขประมาณ 0.5-1.4มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในแมวประมาณ 0.7-1.8 มิลลิกรัม/เดซิลิตร)
BUN มาจากคำว่า “Blood Urea Nitrogen” ซึ่งมีความหมายว่า ไนโตรเจนจากสารยูเรียที่มีอยู่ในกระแสเลือด ยูเรีย (urea) เป็นสารประกอบของของเสีย ซึ่งเป็นผลิตผลสุดท้ายจากการย่อยสลายโปรตีนโดยตับ เบื้องต้นของเสียจะอยู่ในรูปของแอมโมเนีย (NH3) และสร้างเป็นสารยูเรีย เพื่อขับออกมาโดยไตในรูปของน้ำปัสสาวะ น้ำปัสสาวะจึงมีกลิ่นเหมือนแอมโมเนีย ดังนั้นหากกินเนื้อสัตว์มากๆ ปัสสาวะก็มียูเรียมาก ไตก็จะทำงานหนัก หากไตทำหน้าที่บกพร่อง หรือทำงานหนัก สารยูเรีย และไนโตรเจน ก็จะค้างอยู่ในกระแสเลือด เมื่อตรวจเลือดจะพบว่า ค่า BUN สูงกว่าปกติ(ค่าปกติในสุนัขประมาณ 7-25 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในแมวประมาณ18-33 มิลลิกรัม/เดซิลิตร) ซึ่งก็หมายถึงการทำงานของไตลดลง
นอกจากนี้ การตรวจปัสสาวะและการตรวจค่าเลือดอื่นๆ เช่นเม็ดเลือดสมบูรณ์ และระดับโพแทสเซียมในเลือดก็จะช่วยให้การประเมินได้ผลที่แน่นอนขึ้นครับ
โรคไตในสุนัขและแมวยังไม่จบแค่นี้ สัปดาห์หน้าเรามาคุยถึงเรื่องวิธีการรักษาและการป้องกันโรคนี้กันครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย