โครงการ9101ฯขยับใกล้เป้าหมาย ชุมชนทั่วปท.ตื่นตัวพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/286122

โครงการ9101ฯขยับใกล้เป้าหมาย ชุมชนทั่วปท.ตื่นตัวพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม

โครงการ9101ฯขยับใกล้เป้าหมาย ชุมชนทั่วปท.ตื่นตัวพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม

วันอังคาร ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานหลักดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้โครงการมีความคืบหน้ากว่า 50% และสามารถเบิกง่ายงบประมาณบางส่วนเข้าสู่ชุมชนไปแล้วกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนค่าแรงคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จได้ภายในเดือนสิงหาคม ส่วนค่าจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็เบิกจ่ายไปแล้วเช่นกันกว่า 80% โดยรวมการดำเนินงานในโครงการ 9101 มีความคืบหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 75% มีการดำเนินงานครบทั้ง 8 กิจกรรม ซึ่งก็มีหลายโครงการที่แล้วเสร็จบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าการดำเนินงานในโครงการจะสามารถเสร็จสิ้นเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ภายในเดือนกันยายนอย่างแน่นอน

สำหรับสัดส่วนการดำเนินงานในโครงการทั้งสิ้น 24,160 โครงการ ที่มีการดำเนินงาน ประกอบด้วย โครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ 35% โครงการปลูกพืช 20% โครงการเกี่ยวกับเลี้ยงสัตว์และประมง 10% อีก 5% เป็นเรื่องของการถนอมอาหารและฟาร์มชุมชน โดยทุกโครงการที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความสมัครใจและความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัดส่วนของโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่มีตัวเลขความต้องการสูงกว่าโครงการอื่นๆ สืบเนื่องมาจากเกษตรกรไทยต้องการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์เพื่อผลิตพืชผลทางการเกษตรให้มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม พร้อมกับลดต้นทุนการผลิตด้วยการลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง ซึ่งในระยะยาวก็จะทำให้ภาคการเกษตรของประเทศสามารถพัฒนา พึ่งพาตนเองได้ รวมถึงสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ทำให้การประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่มีความยั่งยืนและมั่นคง

นางวัชรีพร โอฬารกนก ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลดำเนินงานจนถึงขณะนี้ เบื้องต้นสามารถประเมินผลในเชิงบวกได้ว่า เกษตรกรทุกชุมชนมีความตื่นตัวที่จะพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรกรรม มีความรักสามัคคีเกิดขึ้นในชุมชน เกิดการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน และสามารถที่จะดำเนินงานต่างๆ ในลักษณะกลุ่มที่มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับชุมชนให้เกิดการหมุนเวียนและมีสภาพคล่องส่งผลให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

Leave a comment