ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/290054

รายงานพิเศษ : สร้างผู้นำสหกรณ์ต้นแบบ สู่‘Young Smart Cooperative Directors’
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายที่จะพัฒนาเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer เป็นเพื่อนคู่คิดเพื่อให้เกษตรกรไทยมีความพร้อม ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร สอดคล้องกับวิถีชีวิต และลักษณะการประกอบอาชีพของแต่ละบุคคล มีการให้ความสำคัญในการใช้องค์ความรู้ และข้อมูลในการตัดสินใจ มีการนำเทคโนโลยี ภูมิปัญญา และวิธีการปฏิบัติที่ดีมาใช้ หรือพัฒนา โดยตระหนักถึงคุณภาพและปริมาณความต้องการของตลาด รวมถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เล็งเห็นว่าการที่จะทำให้สมาชิกสหกรณ์ที่เป็นเกษตรกรเกิดความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดการรวมกลุ่มช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามวิธีการสหกรณ์ มีความรู้ในด้านต่างๆ ที่เหมาะสม อาทิ ความรู้ในเรื่องการเกษตรที่ตนทำอยู่ มีข้อมูลที่จะใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการผลิตและการตลาด รวมทั้งมีความตระหนักถึงคุณภาพของสินค้าเกษตรที่ตนผลิตและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้า และท้ายที่สุดมีความภูมิใจในอาชีพเกษตร สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ไปยังสมาชิกเกษตรกรรายอื่นได้
นายกัณวีย์ บุญญพันธุ์ ผู้อำนวยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กรมส่งสริมสหกรณ์ จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาเกษตรกรสู่เกษตรกรปราดเปรื่อง ซึ่งจะเกิดผลดีอย่างมากกับสมาชิกสหกรณ์การเกษตร โดยมีแนวความคิดในการสร้างผู้นำต้นแบบรุ่นใหม่ในสหกรณ์ภาคการเกษตรให้ได้รับการสนับสนุนเป็น Young Smart Cooperative Directors ควบคู่สู่วิถีการเป็น Smart Farmer ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป สำหรับบุคลากรสำคัญในสหกรณ์การเกษตรที่จะขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวในสหกรณ์คือคณะกรรมการดำเนินการ ประธานกลุ่ม เลขานุการกลุ่มและสมาชิกชั้นนำของสหกรณ์ โดยเฉพาะที่ยังมีอายุไม่มากนักจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตร และเป็นผู้ที่จะได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากสมาชิกรุ่นก่อน ตลอดจนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและสามารถขยายผลไปสู่สมาชิกรายอื่นต่อไป
ดังนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงมีแนวคิดในการสร้างผู้นำต้นแบบรุ่นใหม่ในสหกรณ์เพื่อเป็น Young Smart Cooperative Directors ได้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมสหกรณ์ 20 ปี ที่จะพัฒนากลุ่มสมาชิกสหกรณ์ต้นแบบ และการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ (Smart Leadership Development) เพื่อให้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการสหกรณ์ บนพื้นฐานการทำเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง และในด้านยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ภายใต้การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในสหกรณ์ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาผู้นำต้นแบบรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างและพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์นำมาใช้ในการดำเนินงานสหกรณ์ ตลอดจนยุทธศาสตร์การสร้างความยั่งยืนด้วยภูมิปัญญาสหกรณ์ ซึ่งผู้นำสหกรณ์รุ่นใหม่นี้จะเป็นผู้ที่ได้รับการปลูกฝังให้มีแนวคิดด้านการดำเนินงานที่ดีภายใต้ระบบสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำสหกรณ์ที่มีคุณภาพ Smart Cooperative Directors สำหรับการพัฒนาผู้นำสหกรณ์ยังเป็นการสนับสนุนการเป็น Smart Farmer อันจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศด้วย
กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “โครงการสร้างผู้นำต้นแบบสู่ Young Smart Cooperative Diirectors” เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาผู้นำต้นแบบรุ่นใหม่ในสหกรณ์ ให้สามารถเป็นสมาชิกชั้นนำ ประธานกลุ่ม เลขานุการกลุ่ม ตลอดจนคณะกรรมการสหกรณ์ที่เข้าใจในระบบสหกรณ์ สามารถเป็นผู้นำต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียง มีความรู้ด้านนวัตกรรมเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ตลอดจนสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืนต่อไป โดยกลุ่มเป้าหมาย เป็นบุคลากรสหกรณ์ที่เป็นคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ประธานกลุ่ม/เลขานุการกลุ่ม/สมาชิกสหกรณ์ชั้นนำในสหกรณ์ภาคการเกษตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี และเป็นผู้ที่ทำการเกษตรตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ และมีความพร้อมสามารถเป็นผู้ถ่ายทอดขยายผลความสำเร็จสู่สมาชิกสหกรณ์รายอื่นได้ โดยเนื้อหาการอบรมจะเกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำสหกรณ์รุ่นใหม่ การสร้างความมั่นคงทางอาชีพของเกษตรกร และแนวทางการพัฒนาความเข้มแข็งของสหกรณ์ เมื่อผ่านการอบรมแล้วผู้เข้ารับการอบรมจะต้องนำองค์ความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดต่อ และขยายผลไปยังสมาชิกสหกรณ์คนอื่นๆ
“กรมส่งเสริมสหกรณ์ คาดหวังว่า โครงการนี้จะทำให้เกิดผู้นำสหกรณ์ต้นแบบรุ่นใหม่ที่มีองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพ และสร้างความมั่นคงทางอาชีพตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถถ่ายทอดขยายผลความสำเร็จสู่สมาชิก และเป็นผู้นำที่มีแนวคิด มีองค์ความรู้ มีคุณธรรมในการบริหารงานสหกรณ์ตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์เข้มแข็งสามารถสร้างความมั่นคงทางอาชีพและการดำรงชีวิตของสมาชิกได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนต่อไป” นายกัณวีย์ กล่าวทิ้งท้าย
จังหวัดสระแก้วเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับการจัดแปลงที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก. ตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 36/2559 โดยนำมาพัฒนาพื้นที่ให้มีความพร้อมสำหรับทำกินและพักอาศัย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน การยึดคืนพื้นที่ ปรับพื้นที่/ก่อสร้างถนน สำรวจตรวจสอบความเหมาะสมของที่ดินในการทำการเกษตรโดยใช้ Agri-Map การพัฒนาแหล่งน้ำ สนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ ส่งเสริมอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ระหว่างรอการเลี้ยงโคเนื้อ ส่งเสริมการรวมกลุ่มจัดตั้งสหกรณ์ สนับสนุนแหล่งน้ำบาดาล ก่อสร้างที่พักอาศัย คัดเลือกเกษตรกร และอำนวยความสะดวกไฟฟ้า/น้ำประปา นับเป็นการทำงานเชิงบูรณาการอย่างแท้จริง และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบเอกสารที่ดิน ส.ป.ก. ที่ยึดคืนตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 36/2559
ซึ่งได้นำมาจัดสรรให้เกษตรที่ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จำนวน 303 ราย 3,342 ไร่ 10 แปลง โดยมอบให้แก่ประธานสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินอำเภอโคกสูง อรัญประเทศ วัฒนานคร และวังน้ำเย็น รวมทั้งสิ้น 4 สหกรณ์ พร้อมมอบบ้านจำลองและ ปัจจัยการผลิตให้แก่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์อำเภอโคกสูง จำนวน 4 ราย ซึ่งในส่วนของกรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินสระแก้วได้ร่วมวางแผนดำเนินการใช้ข้อมูลแผนที่Agri-Map ตรวจสอบความเหมาะสมของดินและให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิต (เมล็ดพันธุ์ปอเทือง) สำหรับมอบให้แก่กลุ่มสมาชิกสหกรณ์นำไปปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน ณ พื้นที่หมู่ที่ 14 ตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
จากมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรมพัฒนาที่ดินได้มีร่วมวางแผนดำเนินการ โดยใช้ข้อมูลแผนที่ทรัพยากรดินและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์สภาพดินปัญหาต่างๆ และวางแนวทางการจัดการพื้นที่เพื่อการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ใช้แผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) เป็นเครื่องมือบริหารจัดการจัดทำข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับการวางแผนและประเมินผลการปรับเปลี่ยนกิจกรรมการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม (N) โดยนำข้อมูลขอบเขตแปลงที่ยึดคืนจาก ส.ป.ก. ใช้ในการวางแผนข้อมูลดินและแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดิน
พร้อมด้วยคำแนะนำเบื้องต้น และจัดส่งให้ ส.ป.ก. จังหวัด ไปร่วมประชุมพิจารณาแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินกับ คทช. จังหวัด พร้อมส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. ให้มีความรู้ความเข้าใจและทำการเก็บตัวอย่างดินเพื่อการตรวจวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และเห็นความสำคัญของตรวจวิเคราะห์ดินก่อนการเพาะปลูกพืช เพื่อให้ทราบว่าในดินมีธาตุอาหารสำคัญอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกพืช จะต้องทำการปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการใดให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืช เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรรายย่อยได้ลดต้นทุนการผลิต โดยกรมพัฒนาที่ดินจะให้การสนับสนุนเกษตรกรด้านปัจจัยการผลิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านองค์ความรู้การพัฒนาที่ดิน เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดชนิดต่างๆ เช่น ปอเทือง ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า โสนแอพฟริกัน ถั่วมะแฮะ และอื่นๆ สำหรับปลูกเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน วัสดุปูน เช่น โดโลไมท์ ปูนมาร์ล ปูนหินฝุ่นบด เพื่อการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยว-ดินกรด ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพจุลินทรีย์ สารเร่ง พด. ชนิดต่างๆ เพื่อใช้ช่วยลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต รวมทั้งการแจกจ่ายพันธุ์กล้าหญ้าแฝกสำหรับปลูกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมต่อไป