ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/287516

ส่องเกษตร : โครงการ 9101 ความหวังพลิกฟื้นเกษตรกรไทย
“โครงการ 9101 กับความหวังพลิกฟื้นฐานะเกษตรกรไทย”
บทความกองบรรณาธิการเรื่อง“พลิกฐานะเกษตรกรไทย”กล่าวถึงโครงการ 9101 นโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีเป้าหมายพลิกฟื้นฐานะเกษตรกรไทยให้พ้นความยากจน ไม่ว่าชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หรือชาวประมง โดยเน้นกิจกรรม 8 สาขาด้วยกันนั้น
อยากเรียนว่า ผมหวังเช่นเดียวกับท่านบรรณาธิการ เพราะเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ใช้งบประมาณมากกว่า 22,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกตำบลของประเทศ รวมทั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.) อีก 882 ศูนย์…แต่เมื่อได้รู้เห็นวิธีการปฏิบัติในพื้นที่ที่ผมมีโอกาสสัมผัสด้วยตนเอง ขอรวบรวมปัญหาที่พบหลายประการ ดังนี้
ก.เป็นโครงการที่เร่งรัด มีเวลาดำเนินการสั้นมาก สำหรับโครงการใหญ่ งบฯมาก เกี่ยวข้องกับเกษตรกรมากที่ต้องทำความเข้าใจนโยบายและวิธีปฏิบัติให้ผู้เข้าร่วม ซึ่งมีเป้าหมายเกษตรกรชุมชนละ 500 คน
ข.ภายใต้เวลาที่สั้น ทำให้การรวบรวมสมาชิกแต่ละชุมชนไม่ผ่านกระบวนการที่ให้เกษตรกรได้เข้าใจหลักการและเป้าหมาย ส่วนใหญ่กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.หรือส่วนราชการจะรวบรวมคนเอง ซึ่งได้ผู้เข้าร่วมที่ใกล้ชิดกลุ่มคนเหล่านี้ และเป็นกลุ่มที่มักได้รับประโยชน์จากโครงการรัฐมาตลอด
ค.โครงการ 9101 จัดสรรงบฯให้ชุมชนละ 2.5 ล้านบาท มีเงื่อนไขต้องจ่ายเป็นค่าแรงให้ผู้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณ ที่เหลือใช้สนับสนุนกิจกรรมหรือโครงการที่นำเสนอโดยการทำประชาคมของชุมชน
ง.แต่ด้วยเวลาที่สั้นกระชั้นชิด กิจกรรมที่เสนอโดยชุมชน ส่วนใหญ่ไม่ผ่านขั้นตอนการทำประชาคม โครงการส่วนใหญ่เกิดจากข้อเสนอผู้นำชุมชนร่วมกับข้าราชการ ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาคมชุมชน
จ.ดังนั้นกิจกรรมส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องทำปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งทำได้ง่าย แต่กิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายกระทรวงฯ เช่น การจัดการฟาร์มการจัดการศัตรูพืช การแปรรูป การปศุสัตว์ขนาดเล็กและการประมง มีจำนวนน้อยมาก เพราะทำได้ยากและต้องใช้เวลา
ฉ.โครงการ 9101 ที่ประสบความสำเร็จน่าจะมีเพียงประการเดียวคือ การอัดฉีดเงินลงไปในชนบทที่จ่ายเป็นค่าจ้างแรงงานแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ แต่ด้านความยั่งยืนของกิจกรรมตามนโยบายคงจะไม่เกิดขึ้น
จากปัญหาที่ผมรวบรวมมานี้ ความหวังที่โครงการนี้“พลิกฐานะเกษตรกรไทย”ให้พ้นความยากจนอย่างยั่งยืน ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ เพราะจะไม่มีความยั่งยืนที่ก่อรายได้ให้กิจกรรมดำเนินการได้ตลอดไป เพราะเมื่อจ่ายค่าจ้างแรงงานให้เกษตรกร เบิกจ้างงบฯทำกิจกรรมหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบลง “จ่ายเงินครบก็จบกัน”
ผมเคยคิดว่าถ้ามีงบฯมากขนาดนี้ น่าจะดำเนินการตามแนวพระราชดำริจัดทำโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ทุกตำบล ตำบลละ 1 แปลงแปลงละประมาณ 20 ไร่ จะได้ตัวอย่างโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทุกตำบลทั่วประเทศ โดยงบฯ 2.5 ล้านบาทต่อ 1 แปลง สามารถเบิกจ่ายตามวัตถุประสงค์กระทรวงเกษตรฯ คือ
1.เป็นค่าจ้างแรงงานเกษตรกร ไม่ต่ำกว่า 50% หรือไม่ต่ำกว่า 1.25 ล้านบาท
2.เป็นค่าปัจจัยการทำกิจกรรมแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ คือ แบ่งพื้นที่ 20 ไร่เป็นแหล่งน้ำ 30% นาข้าว 30% แปลงเกษตรผสมผสาน 30% เช่น ปลูกพืชผัก ปลูกไม้ผล ร่วมกับเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู และเลี้ยงปลาในแหล่งน้ำที่พัฒนาขึ้น อีก 10% เป็นที่อยู่อาศัย ทำกิจกรรมรอบๆ ที่อยู่อาศัยในลักษณะเกษตรผสมผสาน ซึ่งหมายความว่างบฯกิจกรรมใช้จ้างเครื่องจักรกลมาขุดสระน้ำ ส่วนการเตรียมพื้นที่แปลงนา พื้นที่ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ก็จ่ายเป็นค่าจ้างแรงเกษตรกรที่ร่วม ซึ่งอาจเบิกจ่ายตามช่วงเวลาที่มาทำงาน และงบฯอีกส่วนใช้ซื้อปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์ข้าว พันธุ์ผัก พันธุ์ไม้ผล พันธุ์เป็ด-ไก่ พันธุ์หมูและพันธุ์ปลา สุดท้ายอาจกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่าจ้างเกษตรกรที่จะดูแลพื้นที่และกิจกรรมในโครงการนี้ตลอดไป เมื่อมีผลผลิตขึ้น อาจแบ่งปันบริโภคภายในชุมชน เหลือก็ขายเป็นรายได้ นำมาเป็นค่าใช้จ่ายดูแลโครงการ โดยไม่ต้องอาศัยงบฯจากรัฐบาลอีกต่อไป
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมได้พิจารณาว่าแปลงตัวอย่างโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ รัชกาลที่ 9 จะอยู่ในทุกตำบลทั่วประเทศ กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกรและชุมชนได้น้อมนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่การเกษตรของตนต่อไป ซึ่งจะเกิดความยั่งยืนและน่าจะพลิกฟื้นฐานะของเกษตรกรได้ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะเกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
ผมได้รับจดหมายที่บรรณาธิการ“แนวหน้า” ส่งต่อมา เป็นจดหมายของคุณอนันต์ ดาโลดม แสดงความคิดเห็นต่อบทบรรณาธิการเรื่อง “พลิกฐานะเกษตรกรไทย” ตั้งหัวเรื่องว่า“โครงการ 9101 กับความหวังพลิกฟื้นฐานะเกษตรกรไทย”…คุณอนันต์เป็นลูกหม้อกระทรวงเกษตรฯ ผ่านตำแหน่งใหญ่มาหลายกรม แม้เกษียณแล้ว ก็ยังห่วงใยภาคการเกษตร ข้อคิดความเห็นมีสาระประโยชน์ควรต่อการรับฟัง ผมจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ โดยขอตัดทอนให้พอเหมาะกับเนื้อที่คอลัมน์ ครับ…
อนันต์ ดาโลดม
นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย