ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/287722

แตกใบอ่อน : เตะหมูเข้าปากหมา
ต้องยอมรับตรงๆว่า นับวันนโยบายของรัฐบาลชักจะดูทะแม่งๆ มากขึ้นทุกที
โดยเฉพาะนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ที่ดูเหมือนต้องการสร้างปัญหา มากกว่าแก้ปัญหา ไล่มาตั้งแต่กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา หรืออย่างล่าสุดกับมติของ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม2560 ที่มีพี่ใหญ่ “บูรพาพยัคฆ์” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และมี “บิ๊กเต่า” พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธาน ซึ่งผลการประชุมวันนั้นพอจะสรุปเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า มีมติสำคัญๆ อยู่อย่างน้อย 2 ประเด็น คือ
1.การเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ยุบ “องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” หรือ กอสส.
2.การเสนอให้ยกเลิกระบบการตรวจสอบและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เรื่อง โครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (EHIA)
ผมไม่ทราบว่า ในระหว่างการประชุม มีใครได้ให้ข้อมูลกับ 2 รัฐมนตรี คือ “บิ๊กป้อม” กับ “บิ๊กเต่า” บ้างหรือไม่ว่า การที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติลักษณะนี้ออกมา จะทำให้เกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าง โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง “ความไว้ใจ” ระหว่างประชาชนกับรัฐในการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการตัดกลไกทั้ง 2 อย่างนี้ทิ้งไป ย่อมเท่ากับเป็นการตัดกระบวนการตรวจสอบติดตามโครงการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนออกไปอย่างสิ้นเชิง
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การนำพาประเทศไทยให้ถอยหลังลงคลองกลับไปสู่ความไร้ธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมในการดำเนินโครงการต่างๆ นั่นเอง
ต้องไม่ลืมนะครับว่า อดีตที่ผ่านมาข้อมูลผลกระทบโครงการต่างๆ โดยเฉพาะรายงานการศึกษา EIA และ EHIA แทบจะเป็นเหมือนกับ “ของสูง”
สำหรับประชาชน เพราะแทบไม่เคยมีใครสามารถเข้าถึงได้ ใครมันจะโกง จะปั้นข้อมูลเท็จยังไงมันก็ทำได้ ส่งผลให้ที่ผ่านมามีโครงการหลายอย่างมากมายที่ดำเนินการไปแล้ว แทนที่จะได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายกลับสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างหนักหน่วงและรุนแรง
จนกระทั่งรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งได้กำหนดกฎเหล็กให้มีการทำรายงานและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งให้มี กอสส. คอยตรวจทานข้อมูลเหล่านั้น นั่นแหละสถานการณ์ของชาวบ้านและชุมชนถึงดีขึ้น เพราะถ้าใครมั่วทำข้อมูลรายงานการศึกษามา ก็เป็นได้ถูกตีตกไม่ผ่านความเห็นชอบทุกครั้ง
ไอ้ที่เคยทำๆแล้วผ่านฉลุยเหมือนที่เคยเป็นมา ก็เลยผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ
ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงมีความพยายามจาก “มือที่มองไม่เห็น” มาโดยตลอดที่จะยุบ กอสส. และล้มระบบการตรวจสอบและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากโครงการต่างๆ เพื่อทำให้วังวนเดิมก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านและประชาชนแน่นอน
บรรทัดนี้จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งบิ๊กป้อม และบิ๊กเต่า ให้รีบหาทางทบทวนมติดังกล่าวเสียแต่เนิ่นๆ
ต้องระวังให้ดีครับ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็น “เตะหมูเข้าปากหมา”ไปเสียเปล่าๆ
ซึ่งคนที่ต้องรับตราบาปนี้ไปก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็คณะรัฐมนตรีที่นั่งหน้าสลอนในรัฐบาลนั่นแหละที่จะโดน
มะลิลา