แตกใบอ่อน : เตะหมูเข้าปากหมา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/287722

807934531

แตกใบอ่อน : เตะหมูเข้าปากหมา

วันพฤหัสบดี ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ต้องยอมรับตรงๆว่า นับวันนโยบายของรัฐบาลชักจะดูทะแม่งๆ มากขึ้นทุกที

โดยเฉพาะนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ที่ดูเหมือนต้องการสร้างปัญหา มากกว่าแก้ปัญหา ไล่มาตั้งแต่กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา หรืออย่างล่าสุดกับมติของ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม2560 ที่มีพี่ใหญ่ “บูรพาพยัคฆ์” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และมี “บิ๊กเต่า” พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธาน ซึ่งผลการประชุมวันนั้นพอจะสรุปเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า มีมติสำคัญๆ อยู่อย่างน้อย 2 ประเด็น คือ

1.การเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ยุบ “องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” หรือ กอสส.

2.การเสนอให้ยกเลิกระบบการตรวจสอบและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เรื่อง โครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ (EHIA)

ผมไม่ทราบว่า ในระหว่างการประชุม มีใครได้ให้ข้อมูลกับ 2 รัฐมนตรี คือ “บิ๊กป้อม” กับ “บิ๊กเต่า” บ้างหรือไม่ว่า การที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติลักษณะนี้ออกมา จะทำให้เกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าง โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง “ความไว้ใจ” ระหว่างประชาชนกับรัฐในการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการตัดกลไกทั้ง 2 อย่างนี้ทิ้งไป ย่อมเท่ากับเป็นการตัดกระบวนการตรวจสอบติดตามโครงการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนออกไปอย่างสิ้นเชิง

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การนำพาประเทศไทยให้ถอยหลังลงคลองกลับไปสู่ความไร้ธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมในการดำเนินโครงการต่างๆ นั่นเอง

ต้องไม่ลืมนะครับว่า อดีตที่ผ่านมาข้อมูลผลกระทบโครงการต่างๆ โดยเฉพาะรายงานการศึกษา EIA และ EHIA แทบจะเป็นเหมือนกับ “ของสูง”
สำหรับประชาชน เพราะแทบไม่เคยมีใครสามารถเข้าถึงได้ ใครมันจะโกง จะปั้นข้อมูลเท็จยังไงมันก็ทำได้ ส่งผลให้ที่ผ่านมามีโครงการหลายอย่างมากมายที่ดำเนินการไปแล้ว แทนที่จะได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายกลับสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างหนักหน่วงและรุนแรง

จนกระทั่งรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งได้กำหนดกฎเหล็กให้มีการทำรายงานและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งให้มี กอสส. คอยตรวจทานข้อมูลเหล่านั้น นั่นแหละสถานการณ์ของชาวบ้านและชุมชนถึงดีขึ้น เพราะถ้าใครมั่วทำข้อมูลรายงานการศึกษามา ก็เป็นได้ถูกตีตกไม่ผ่านความเห็นชอบทุกครั้ง

ไอ้ที่เคยทำๆแล้วผ่านฉลุยเหมือนที่เคยเป็นมา ก็เลยผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ

ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงมีความพยายามจาก “มือที่มองไม่เห็น” มาโดยตลอดที่จะยุบ กอสส. และล้มระบบการตรวจสอบและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากโครงการต่างๆ เพื่อทำให้วังวนเดิมก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านและประชาชนแน่นอน

บรรทัดนี้จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งบิ๊กป้อม และบิ๊กเต่า ให้รีบหาทางทบทวนมติดังกล่าวเสียแต่เนิ่นๆ

ต้องระวังให้ดีครับ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็น “เตะหมูเข้าปากหมา”ไปเสียเปล่าๆ

ซึ่งคนที่ต้องรับตราบาปนี้ไปก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็คณะรัฐมนตรีที่นั่งหน้าสลอนในรัฐบาลนั่นแหละที่จะโดน

มะลิลา

Leave a comment