ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘พระแก้วมรกตน้อย’ ภูมิราชสิริสักการะแห่งพระนคร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/283278

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘พระแก้วมรกตน้อย’ ภูมิราชสิริสักการะแห่งพระนคร

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘พระแก้วมรกตน้อย’ ภูมิราชสิริสักการะแห่งพระนคร

วันอาทิตย์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

สมเด็จพระสังฆราชทรงนำการสวดมนต์

ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อวันพฤหัสบดีที่27 กรกฎาคม 2560 เวลา 17.00 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิตที่ผ่านมานั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) เป็นประธานสงฆ์ร่วมกับพระสงฆ์ 241 รูป ได้นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ให้กับประชาชนแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาทรงออกแบบภาพปกหนังสือสวดมนต์และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย) ประดิษฐานเป็นประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลในวาระสำคัญนี้เป็นครั้งแรก

พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย)องค์นี้ได้สถาปนาขึ้นด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชดำริว่า “พระราชวังสวนดุสิตเป็นพระราชวังอันสำคัญ เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) อีกแห่งหนึ่ง สมควรจะมีเจดียฐานอันประเสริฐ ไว้เป็นที่ทรงกระทำสักการบูชา เช่นพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งประดิษฐานอยู่ใน พระบรมมหาราชวัง ให้เป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติคุณแห่งพระองค์ (รัชกาลที่ 5)ผู้เป็นพระพุทธศาสนูปถัมภกอันยิ่ง” อีกทั้งจะได้สถาปนาเจดียฐานคือพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น “เพื่อเป็นราชสิริได้ทรงสักการบูชาแลเป็นศรีแห่งพระนคร อีกทั้งประชาชนในพระราชอาณาจักรทั่วไป” เสียพร้อมกันด้วย


เจ้าฟ้าจักรพงษ์ และรัชกาลที่ 5

ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ไปว่าจ้างห้างคาร์ล ฟาแบร์เช่ (Carl Fabergé) ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย สลักพระพุทธรูปด้วยหยกสีเขียว แต่เมื่อเจียระไนแล้วเกิดการชำรุดขึ้น จึงต้องหาหยกก้อนใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ในเวลานั้น มาสลักเป็นพระพุทธรูปตามตัวอย่างที่พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ส่งไปเป็นต้นแบบ

เมื่อสลักแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2457 ก็เกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 ขึ้นในยุโรป แต่ด้วยพุทธานุภาพของพระพุทธรูป จึงดลบันดาลให้เรือเดินทาง มาถึงกรุงเทพมหานครได้โดยสวัสดิภาพ ในปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้สมโภชพระพุทธรูปและถวายพระราชพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับ ถวายพระนามพระพุทธรูปว่า “พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย)” พระพุทธรูปหยกองค์นี้มีพระเศียรคล้ายกับพระพุทธสิหิงค์ คือมีพระศกเป็นขมวดใหญ่ มีพระเมาลีทรงสูง และรัศมีเป็นดอกบัวตูมแต่พระวรกายและจีวรห่มดองแบบพระภิกษุมหานิกายสลักให้ดูเป็นธรรมชาติ ประทับเหนือเกสรบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย โดยเฉพาะส่วนที่เป็นพิเศษของพระพุทธรูปองค์นี้ก็คือใต้ฐานองค์พระ มีชื่อห้างฟาแบร์เช่สลักไว้ อันถือได้ว่าพระแก้วมรกตน้อยองค์นี้เป็นพระพุทธรูปองค์แรกของไทยที่มีชื่อผู้สร้างและปีการสร้างตามธรรมเนียมของการสร้างงานศิลปะแบบตะวันตก นับว่าเป็นแบบอย่างที่แสดงถึงค่านิยมศิลปะตะวันตกที่ได้สร้างสรรค์ในงานศิลปะอย่างไทยที่ดงามที่สุด และการอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีในวันมหามงคลจึงเป็นมหามงคลยิ่ง อันเป็นภูมิราชสิริแห่งการสักการบูชา เพื่อเป็น ศรีแห่งพระนครและอาณาประชาราษฎร์ขึ้นอีกวาระหนึ่ง


ชื่อผู้สร้างและปีที่สถาปนา


พระแก้วมรกตน้อย


พระแก้วมรกตน้อย สร้างด้วยหยกเขียว


อัญเชิญพระแก้วมรกตน้อย


อัญเชิญสู่มณฑลพิธี

Leave a comment