ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/290457

รายงานพิเศษ : พด.ร่วมบูรณาการ‘แปลงใหญ่’สตูล เน้นปรับปรุงดิน-หนุนปัจจัยผลิตลดต้นทุน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางแนวทางการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปภาคการเกษตรไทยร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ครบวงจร มีการนำนวัตกรรมแบบอัจฉริยะมาใช้ตั้งแต่การผลิต การแปรรูป และการตลาด ยกระดับมูลค่าด้วยคุณภาพมาตรฐานสินค้าการเกษตร ประหยัดทรัพยากรน้ำ มีการใช้พื้นที่การเกษตรให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อสนองนโยบายประชารัฐ โดยแนวคิดการยกกระดาษ A4 ให้ทุกหน่วยงานทำงานแบบบูรณาการสามารถทำงานขับเคลื่อนร่วมกัน
โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2560 เป็นอีกหนึ่งแนวคิดบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มการผลิตเพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากรในการผลิต และการใช้เครื่องมือ เครื่องจักรทางการเกษตรร่วมกัน ช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชน ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมาย 1,000 แปลง (พืช สัตว์ ประมง) ในพื้นที่ 77 จังหวัด
นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าว ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดินให้การสนับสนุนกิจกรรมปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อผลิตพืชแต่ละชนิด 910 แปลง (ยกเว้นแปลงสัตว์-ประมง) ซึ่งเป็นแปลงนาข้าว 519 แปลง 68 จังหวัด พืชไร่ 150 แปลง 40 จังหวัด ไม้ผลไม้ยืนต้น รวม 174 แปลง 51 จังหวัด และพืชผัก 67 แปลง 52 จังหวัด ตัวอย่างเช่น พื้นที่โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ (ข้าวครบวงจร) จังหวัดสตูล ซึ่งเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินและหมอดินอาสาได้ลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับสภาพดิน การวิเคราะห์ค่าดิน ซึ่งพบว่า สภาพดินในจังหวัดสตูลส่วนใหญ่มีสภาพเป็นกรดสูง เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้ามาช่วยเหลือและแก้ไขโดยสนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านต่างๆ เช่น โดโลไมท์ เพื่อลดความเป็นกรดของดิน จากนั้นจึงแนะนำให้เกษตรกรเพิ่มธาตุอาหารในดิน โดยการปลูกพืชปุ๋ยสดอย่างปอเทือง และทำการไถกลบ เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน การใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดิน อย่างเช่น สารเร่ง ซุปเปอร์ พด. 1 เพื่อผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ การผลิตน้ำหมักชีวภาพด้วยสารเร่ง ซุปเปอร์พด. 2 จากเศษวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนและไร่นา รวมถึงการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการไถกลบตอซัง แทนการเผาตอซังหลังการเก็บเกี่ยว
ด้าน นายมงคล ทองจิบ ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสตูล กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินสตูลให้ความสำคัญในการดำเนินนโยบายในการให้คำแนะนำและมอบองค์ความรู้ ด้านการพัฒนาที่ดินพื้นที่นาร้างอย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำแก่เกษตรกรให้สามารถดำเนินการได้เอง รวมถึงปัจจัยการผลิตเพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้มีคุณภาพ เพิ่มผลผลิตที่ดีให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ที่ผ่านมาพบว่า ผลตอบรับจากเกษตรกรเป็นที่น่าพอใจมาก เพราะการปฏิบัติตามคำแนะนำของเกษตรกรในการปรับปรุงบำรุงดิน การใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพได้ช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรได้อย่างเห็นผล ผลผลิตที่เกิดขึ้นมีความปลอดภัยไร้สารเคมีและมีตลาดรองรับที่แน่นอน และที่สำคัญคือการที่เกษตรกรมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชนได้อย่างยั่งยืนแท้จริง
ขณะที่ นายสมชาย เหมาะแหล่ หมอดินประจำตำบลกำแพง อ.ละงู จังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาตนในฐานะหมอดินอาสาได้เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการรวมกลุ่มเพื่อพลิกฟื้นพื้นที่นาร้าง ให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอีกครั้ง โดยเฉพาะการรวมกลุ่มกันเพื่อปลูกข้าวพันธุ์ “อัลฮัมดุลิลละห์”และ“พันธุ์สปอร์ต” ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองที่นิยมบริโภคกันทั่วไปในพื้นที่ภาคใต้ การให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เอง การใช้โดโลไมท์ การปลูกพืชปุ๋ยสด การไถกลบตอซัง การใส่น้ำหมักลงไปในแปลงนาก่อนการปลูกข้าว เพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะต่อการปลูกข้าว จะเห็นได้ว่าสภาพดินในพื้นที่นาร้างกลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น มีระบบนิเวศดีขึ้น เพราะในแปลงนามีไส้เดือนมาอยู่อาศัย สังเกตได้จากมูลไส้เดือนเกิดขึ้น มีสัตว์น้ำขนาดเล็กมาอาศัยอยู่อย่างเช่น ปลา ปู ที่สำคัญการปฏิบัติตามคำแนะนำและการใช้ผลิตภัณฑ์ของกรมพัฒนาที่ดิน ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้จากเดิม 5,000-6,000 บาทต่อไร่ เหลือเพียงประมาณ 3,200 บาทต่อไร่ เนื่องจากการลดใช้ปุ๋ยและสารเคมีในแปลงนา ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ การรวมกลุ่มทำเกษตรแปลงใหญ่ ยังสามารถสร้างรายได้ จากการปลูกพืชผักใช้น้ำน้อยและเหมาะสมกับพื้นที่อย่างเช่น ข้าวโพด ต้นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ตามคันนา และทางกลุ่มได้จัดส่งผลผลิตไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า เช่น แม็คโคร สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอีกช่องทางด้วย
