ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/294527

เร่งปรับโครงข่ายระบบชลประทาน แก้ปัญหาน้ำ9จังหวัดฝั่งตะวันตก‘เจ้าพระยา-ท่าจีน’
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทาน ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน เพื่อแก้ปัญหานํ้าท่วมและน้ำแล้งซํ้าซากในพื้นที่ระหว่างแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลอง โดยแบ่งเป็นพื้นที่ตอนบนของฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าท่าจีนตั้งแต่เขื่อนเจ้าพระยาถึงคลองท่าผา-บางแก้ว และพื้นที่ตอนล่างของฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าท่าจีนตั้งแต่ใต้คลองท่าผา-บางแก้ว ถึงทะเล ครอบคลุม 9 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
สำหรับพื้นที่ตอนบนของฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าท่าจีน เป็นการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทาน เพราะส่วนใหญ่ใช้งานมานานแล้ว มีสภาพทรุดโทรม โดยจะทำการปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษากําแพงแสน และโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษาดอนเจดีย์ หลังจากนั้นถึงจะทยอยปรับโครงการชลประทานที่เหลือ
ส่วนพื้นที่ตอนล่างของฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน เป็นการศึกษาความเหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกสู่ทะเลและใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำนอง เนื่องจากระบบคลองเดิมมีสภาพตื้นเขินและมีการก่อสร้างบุกรุกเข้าไปในลำน้ำทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำต่ำ จึงประสบปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปีในช่วงฤดูนํ้าหลาก นอกจากนี้ตั้งแต่คลองสุนัขหอนจนถึงทะเลจะมีปัญหาคุณภาพน้ำ และการรุกลํ้าของนํ้าเค็มจากทะเล ซึ่งการศึกษาพบว่าจะต้องดำเนินงานสำคัญๆ ดังนี้
1.งานปรับปรุงและขุดลอกคลอง เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ 68 คลอง โดยจะปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานระบายน้ำลงสู่ทะเล ร่วมกับการระบายน้ำลงสู่แม่นํ้าท่าจีน โดยผ่านทางคลองหนองนกไข่ คลองดําเนินสะดวก และคลองสุนัขหอน 2.งานปรับปรุงและก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ เป็นงานปรับปรุง ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำทั้งในช่วงฤดูน้ำหลาก และฤดูน้ำแล้ง มีทั้งหมด 76 แห่ง โดยเป็นอาคารที่ก่อสร้างใหม่ 17 แห่ง และ 3.งานคันควบคุมน้ำทะเล พบว่าแนวทางที่เหมาะสมที่สุดคือ ตามแนวถนนเอกชัย-พระราม 2 เป็นการใช้แนวคันควบคุมน้ำทะเลแนวคันเดิม ร่วมกับถนนเพื่อลดปัญหาผลกระทบด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม สามารถเพิ่มพื้นที่ป้องกันได้ประมาณ 48,000 ไร่ โดยเริ่มต้นจากบริเวณ ปตร.บางนกแขวก ไปสิ้นสุดที่ ปตร.บางยาง รวมความยาวแนวคัน ควบคุมนํ้าทะเลทั้งหมดประมาณ 62 กม.