บิ๊กฉัตรสั่ง14จังหวัดภาคใต้รับมือน้ำท่วมปลายเดือนธ.ค.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/302037

บิ๊กฉัตรสั่ง14จังหวัดภาคใต้รับมือน้ำท่วมปลายเดือนธ.ค.

บิ๊กฉัตรสั่ง14จังหวัดภาคใต้รับมือน้ำท่วมปลายเดือนธ.ค.

วันพุธ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 19.01 น.

รมว.เกษตรฯ ฟิตจัดสั่งอธิบดีกรมชลฯเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม 14 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงปลายธันวาฯ จะมีฝนตกหนัก ขณะที่ “สมเกียรติ” เด้งรับลูกสั่งย้ายเครื่องมือลงพื้นที่จุดเสี่ยง 14 จังหวัด มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

8 พ.ย.60 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งกรมชลประทาน ประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา จิสด้า สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงมหาดไทย เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนภาคใต้ 14 จังหวัด ในจุดเสี่ยงน้ำท่วม ที่เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝนก็มีพายุเข้าแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดปัญหามากช่วงปลายปีเดือน ธ.ค.ส่วนในวันนี้ยังถือว่ายังไม่เข้าหน้าฝนภาคใต้เต็มตัว ขอให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และให้อธิบดีกรมชลประทาน ไปตรวจประสิทธิภาพดูความแข็งแรงของ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ทุกแห่ง การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กำหนดพื้นที่เสี่ยง ป้องกันความเดือดร้อนประชาชน

ด้าน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์พายุเข้าภาคใต้ ในช่วงวันที่ 2 – 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ฝนตกกระจาย เน้นหนักทางฝั่งตะวันออก จ.นครศรีธรรมราช 440 มม.สุราษฐ์ธานี  300 มม.แต่ไม่ตกแช่ จึงยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยได้สั่งการติดตามเตรียมพร้อมไว้แล้วตั้งแต่วัน 14 ต.ค.กำหนดเสี่ยง นำบทเรียนน้ำท่วม ปลาย – ต้นปีที่แล้วมาป้องกัน โดยย้ายเครื่องมือลงพื้นที่ จุดเสี่ยง 14 จังหวัด มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

เช่น จ. เพชรบุรี พื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเพชร จ.ประจวบในเขตเทศบาลอ.หัวหิน อ.บางสะพาน จ.ชุมพร พื้นที่ อ.เมือง อ.สวี อ.หลังสวน ในเขตอ.เมือง จ.ระนอง จ.นครศรีธรรมราช อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี อ.พิปูน อ.ฉวาง อ.เมือง และลุ่มน้ำปากพนัง อ.ทุ่งสง อ.ชะอวด จ.สุราษฐ์ธานี อ.เมือง อ.เคียนซ่า อ.พระแสง อ.พุนพิน อ.ไชยา อ.กาญจนดิษฐ์ อ.นาเดิม อ.เวียงสังข์ จ.พัทลุง จ.สงขลา บริเวณรอบทะเลสาบสงขลา จ.ปัตตานี ชุมชนฝั่งลุ่มน้ำปัตาตานี เทศบาลเมืองปัตตานี จ.ยะลา ชุมชนลุ่มน้ำสายบุรี ชุมชนเทศบาลยะลา จ.นราธิวาส เทศบาลเมือง สุไงโกลก

ในขณะนี้พายุยังเข้าอยู่แนว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจะออกจากไทยไปประเทศเมียนมา เช้าพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ยังทำให้มีปริมาณฝนที่ อ.แม่ลำพึง บ้านกรูด  มากกว่า120 มม.ซึ่งยังตกอยู่ มีน้ำไหลท่วมถนนเพชรเกษม สูง 15 – 20 ซม.ระยะทางยาว 100 เมตร ถึง อ.ทับสะแก ได้เตรียมพร่องน้ำ 3 อ่าง ที่มีปัญหาท่วมหนัก อ.บางสะพาน คราวที่แล้ว มีการปรับปรุงเพิ่มทางระบายน้ำล้น ที่อ่างโปร่งสามสิบ วังน้ำเขียว ในตอนนี้ยังมีปริมาณน้ำต่ำกว่า 1 ล้าน ลบ.ม.ได้ตั้งกาลักน้ำไว้เพิ่มระบายน้ำหากมีน้ำมากว่าสปรินเวย์ ป้องกันไม่ให้เกิดท่วม รพ.บางสะพาน และชุมชน พร้อมตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ สูบทันทีเมื่อเกิดฝนตก ทำให้น้ำในแม่น้ำบางสะพาน มีระดับไม่สูง ยังปกติเร่งแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ กว่า 111 แห่งภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาตอม่อสะพานทางรถไฟ โดยกระทรวงคมนาคม กำลังแก้ไข

ทั้งนี้ โครงการบรรเทาอุทกภัยบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ขุดลอกคลองระบายน้ำทะเล ไปได้ 14.5 กม.ตอนปลายจากทั้งหมด 19 กม.ถ้าน้ำมารอบนี้สามารถใช้ได้และกำลังขุดคลองอ้อมเมืองเส้นใหม่ ปีหน้าดำเนินการต่อ ในส่วนโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช ขุดลอกคลองหัวตรุษ ยังไม่เสร็จ แต่ก็เป็นเส้นเชื่อมต่อการระบายน้ำลงทะเลได้ ส่วนโครงการขุดคลองผันน้ำอ้อมเมือง ครม.อนุมัติงบมา 9 พันล้านบาท กำลังอยู่ในช่วงชี้แจงประชาชนในพื้นที่คัดค้านโครงการ

สำหรับ จ. ชุมพร โครงขุดคลองอ้อมเมือง อยู่ระหว่างดำเนินการ และ จ.ปัตตานี ได้ขุดคลองระบายน้ำถึงทะเลแล้ว รวมทั้งจ.สงขลา อ.หาดใหญ่ คลองระบายน้ำอ้อมเมือง ร.1สามารถนี้ใช้ได้แล้ว 80% รับน้ำเข้า1.8 พันลบ.ม.ต่อวินาที ช่วงฝนตกมีสถานีสูบน้ำออกทะเล ลงคลองอู่ตะเภา ผ่านตัวเมือง รับน้ำได้  1,465ลบ.ม.ต่อวินาที ถือว่าช่วย อ.หาดใหญ่ ไม่เกิดน้ำท่วมเหมือนที่ผ่านมา

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ได้เดินหน้าแผนระบายน้ำเจ้าพระยาตอนล่างแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ผ่านแนว คลองมหาสวัสดิ์ คลองทวีวัฒนา ออกคลองพระราม 5 ลงสู่แก้มลิงสนามไชย แนวชายทะเล จ.สมุทรสาคร มีแผนเจาะอุโมงค์รอดใต้คลองช่วงปลายคลองทวีวัฒนา วงเงินกว่า 4 – 5 พันล้านบาท 1 แห่ง โดยกรมชลฯรับผิดชอบ และอุโมงค์ ของ กทม.รับผิดชอบ 2 พันล้านบาท 1 แห่ง โดยนำเข้าขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.) ต่อไป

ทั้งนี้ ภายในเดือนนี้ เตรียมจะเสนอโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง เข้าขอผลสรุปใน กนช. 3 โครงการหลัก ที่กระทรวงเกษตรฯกรมชลประทาน และนักวิชาการ เห็นด้วยให้เดินหน้า คือ โครงการชุดคลองผันน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจาก ครม.สัญจร ได้เห็นในหลักการแล้ว โดยขณะนี้กำลังสำรวจความเห็นประชาชนในเรื่องการใช้ที่ดิน ที่ต้องจบภายใน 8 เดือน และออกแบบไปด้วย 1 ปี คาดว่าปลายปี 62 จะก่อสร้างได้ พร้อมกับแผนขับเคลื่อนโครงการขยายคลองชัยนาท – ป่าสัก วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท และโครงการขุดคลอง ป่าสัก-อ่าวไทย ด้านจ.สมุทรปราการ

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ว่า จากที่ปริมาณน้ำน้ำสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ต.ค.และไม่มีฝนตกต่อเนื่องมา ได้ปรับลดมาเป็นลำดับการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดลง 650 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน 14 จุด ลดลง 1 เมตร จากเมื่อวานลดลงอีก 22 ซม.แต่ยกเว้นพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลงได้ช้าวันละ 10 ซม.ปริมาณน้ำท่วมยังสูงกว่าตลิ่ง 1.57 เมตร ขณะนี้กรมชลฯ ได้ปรับแผนระบายน้ำจากแก้มลิง 13 ทุ่ง ออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น โดยใช้ลำน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน รวมทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เริ่มทะยอยปล่อยน้ำแล้ววันละ 1 – 3 ล้าน ลบ.ม.เพื่อรักษาระบบนิเวศ

อธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ได้เร่งระบายน้ำในทุ่งต่างๆ โดยทุ่งแรก คือ ทุ่งบางระกำ ภายในเดือน พ.ย.นี้ จะระบายออกเกือบหมด เหลือไว้ 100 ล้าน ลบ.ม.ไว้ใช้เพาะปลูกพืชช่วงฤดูแล้ง ส่วนทุ่งเจ้าพระยาตอนล่าง ฝั่งตะวันออก ลดปริมาณลงมาให้ได้ภายในวันที่ 10 ธ.ค.และทุ่งฝั่งตะวันตก จะลดกลางเดือน ธ.ค.และคงเหลือน้ำไว้ในทุ่งบางส่วนด้วยเพื่อให้เกษตรกรทำนาปรัง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคอีสาน ได้มีเป้าหมายลดระดับน้ำท้ายเขื่อนอุลบรัตน์จาก 28 ล้านต่อวัน เหลือ 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จะส่งผลให้แม่น้ำพอง จ.ข่อนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำชี – มูล มีปริมารณระดับลดลงปลายเดือน พ.ย.นี้

Leave a comment