รักษ์เกษตร : การปลูกพืชใช้น้ำน้อยทนแล้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/299059

รักษ์เกษตร : การปลูกพืชใช้น้ำน้อยทนแล้ง

รักษ์เกษตร : การปลูกพืชใช้น้ำน้อยทนแล้ง

วันอังคาร ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

คำตอบ สถานการณ์ภัยแล้ง มีรุนแรงมากขึ้นทุกปี ปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชีย ทำให้ปริมาณน้ำฝนมีน้อย การเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในเขื่อนมีจำนวนน้อย การเตรียมมือรับกับสถานการณ์ภัยแล้งจึงต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่มีผลกระทบโดยตรง

วิธีหนึ่งที่จะรับมือกับภัยแล้ง ก็คือ การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและพืชทนแล้ง ที่มีระยะเวลาการเก็บเกี่ยวสั้น  ได้แก่

การปลูกถั่วเขียว ยังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยฤดูที่เริ่มปลูก ได้แก่ หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เนื่องจากในช่วงระยะเวลานั้น เนื้อดินยังมีความชุ่มชื้นจากน้ำอยู่พอสมควร จึงสามารถปลูกได้ ในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวค่อนข้างสั้น ประมาณ 60-70 วันเท่านั้น และยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ส่วนในภาคอีสานและภาคเหนือ ควรให้พ้นฤดูหนาวไปก่อน จึงควรลงมือปลูกได้ในเดือนกุมภาพันธ์ เพราะจะทำให้ถั่วเขียวเจริญเติบโตได้ดี และจะได้ผลผลิตงอกงาม

การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นพืชที่ทนแล้งได้ดีมาก อายุเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 110-120 วัน แต่ในระยะแรกที่ปลูกข้าวโพดไม่ควรให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะช่วงการผสมเกสร หากขาดน้ำในช่วงนี้ อาจทำให้เมล็ดข้าวโพดเติบโตได้ไม่ดี กลายเป็นเมล็ดลีบแบน ไม่สวยงาม ทำให้ได้ราคาไม่ดี

การปลูกพืชสวนครัว เป็นที่กินก็ได้ขายก็ดี เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น หอม กระเทียม ผักต่างๆ วิธีปลูกคือ ฟางที่เหลือจากการทำนาในฤดูทำนา อย่าเผาทิ้ง สามารถนำมาใช้คลุมต้นหอมกระเทียมได้ จะช่วยลดการระเหยของน้ำ และช่วยไม่ให้พืชที่ปลูกโดนแสงแดดจนมากเกินไป เป็นวิธีการรักษาความชื้นในดินที่ดี

การปลูกมะละกอ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพภูมิอากาศ ดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขัง ใช้ผลบริโภคทั้งผลดิบและผลสุก นอกจากการนำมะละกอไปรับประทานสดแล้ว ยังสามารถนำไปปรุงอาหาร หรือนำไปหมักเนื้อให้นุ่มได้อีกด้วย เพราะในมะละกอมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งเรียกว่า พาเพน ซึ่งสามารถนำเอนไซม์ชนิดนี้ ไปใส่ในผงหมักเนื้อสำเร็จรูป บางครั้งนำไปทำเป็นยาช่วยย่อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยก็ได้

การปลูกงาดำ เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย และสามารถทนแล้งได้ดี มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างต่ำ แต่ให้ราคาขายที่ค่อนข้างเหมาะกับการทำการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง งายังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และมีวิตามินบีมาก

การปลูกข้าวฟ่างหวาน ปลูกเพื่อผลิตเอทานอล เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พันธุ์ข้าวฟ่างลูกผสมสีแดง ส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกตามหลังข้าวโพดในเขตการปลูกข้าวโพดจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และเพชรบูรณ์ ตามระบบการจำหน่ายเมล็ดพันธ์ และการรับซื้อผลผลิตกลับคืน เป็นพืชที่มีความไวต่อช่วงแสง เหมาะสำหรับปลูกในปลายฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน

ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ ปริมาณน้ำค่อนข้างมีจำนวนมาก แต่ในหลายพื้นที่ก็ยังคงขาดน้ำอยู่ ดังนั้น การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและทนแล้ง จึงมีความสำคัญมาก และเป็นแนวทางเลือกที่ดี ที่เกษตรกรควรเตรียมการรับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้น นะครับ

นาย รัตวิ

Leave a comment