ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/296007

รายงานพิเศษ : ‘ข้าวโครงการบางระกำโมเดล 60’เชื่อมโยงตลาดด้วยกลไกสหกรณ์ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้เกษตรกรในพื้นที่
“โครงการบางระกำโมเดล 60” จัดทำขึ้นเพื่อต้องการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปของเกษตรกรในพื้นที่โครงการ โดยมีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอ ในจังหวัดพิษณุโลก คือ อำเภอพรหมพิราม อำเภอบางระกำ อำเภอเมือง อำเภอวัดโบสถ์ และพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัย บางส่วน มีพื้นที่ รวม 265,041 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมซ้ำซากของลุ่มน้ำยม-ลุ่มน้ำน่าน เกษตรกรในพื้นที่ประกอบอาชีพทำนา โดยพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมนำมาใช้ทำการเพาะปลูก คือ สายพันธุ์พิษณุโลก 2 กข.61 และ กข.41 เป็นข้าวอายุสั้น มีความต้านทานโรคแมลง เป็นพันธุ์ข้าวที่มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่เพาะปลูกและให้ผลผลิตต่อไร่สูง
นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา ได้มีการขับเคลื่อนแผนบูรณาการทำงานร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ตามแนวทางประชารัฐ เพื่อร่วมกันวางแผนบริหารจัดการน้ำและปรับแผนการเพาะปลูกข้าวนาปีให้เร็วขึ้น จากเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันที่ 1 เมษายน เพื่อให้เกษตรกรทำการเพาะปลูก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม ก่อนฤดูน้ำหลาก โดยใช้พื้นที่นาหลังการเก็บเกี่ยวเป็นแหล่งรองรับน้ำหลากและหน่วงน้ำให้กับพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนทุ่งนาสีเขียว เป็นทุ่งน้ำสีขาว ลดน้ำท่วมข้าว เพิ่มน้ำสร้างปลา” เพราะเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จะทำให้เกษตรกรชาวนา มีอาชีพเสริมจากการจับปลาขาย รวมกลุ่มกันแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลา เพื่อนำมาจำหน่ายทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้มีการบูรณาการงานร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดพิษณุโลก ในการส่งเสริมสนับสนุนแผนการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการนำร่อง “การแปรรูปผลผลิตข้าว” จากเกษตรกรในพื้นที่บางระกำโมเดล จัดจำหน่ายเป็นข้าวสารเพื่อการบริโภค โดยมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อประชุมหารือกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนร่วมกัน โดยมีข้อสรุปเบื้องต้น คือ ใช้กลไกสหกรณ์มาเชื่อมโยงระบบตลาดข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนให้สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด และสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด ดำเนินการรวบรวมและรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกในราคานำตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่ม
นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้ดำเนินการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกในพื้นที่บางระกำโมเดล ซึ่งสหกรณ์ รับซื้อผลผลิตในราคานำตลาด สูงกว่าตันละ 100-200 บาท โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ จากเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ มาเป็นทุนหมุนเวียนให้สหกรณ์ใช้ดำเนินการรวบรวมรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกร นอกจากนี้ สหกรณ์ ยังได้รับสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนจากโครงการต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาลผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับขั้นตอนการแปรรูปข้าว สหกรณ์ ได้ทำการส่งมอบข้าวเปลือกพันธุ์พิษณุโลก 2 จำนวน 4 ตัน และข้าวเปลือกพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 4.61 ตัน ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาพิษณุโลก ทำการแปรรูปข้าว เพื่อผลิตเป็นข้าวสารจำหน่าย ถุงละ 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 28 บาท ภายใต้แบรนด์ “ข้าวโครงการบางระกำโมเดล 60” ซึ่งมีปริมาณผลผลิตข้าวสาร 3,690 กิโลกรัม ข้าวสารที่บรรจุใส่ถุง 1 กิโลกรัม ประกอบด้วย ข้าวพิษณุโลก 2 ผสมกับข้าวหอมมะลิ ในอัตราส่วน 50 : 50 เหมาะสำหรับที่จะนำไปบริโภคในครัวเรือน
ด้านกลไกตลาดได้มีการเชื่อมโยงกับสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ระดับจังหวัด และระดับภาค โดยทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาพิษณุโลก ได้ทำการส่งมอบ “ข้าวโครงการบางระกำโมเดล 60” ในลอตแรก จำนวน 3,690 ถุง ให้กับสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด ทำหน้าที่เป็นผู้แทนจัดจำหน่าย เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ “ข้าวโครงการบางระกำโมเดล 60” ให้แก่บุคลากรภาครัฐและประชาชนทั่วไปบริโภคข้าวในราคายุติธรรม ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่บางระกำโมเดล ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปของเกษตรกรในพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อข้าวสาร “ข้าวโครงการบางระกำโมเดล 60” ได้ที่สหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 890/16 ถนนบรมไตรโลกนารถ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ติดต่อฝ่ายการตลาด โทร. 0-5525-8449