ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/296879
x
ลดระบายเขื่อนลุ่มน้ำชี บรรเทาน้ำท่วมอีสาน-กักน้ำรับมือแล้งปีหน้า
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้แหล่งกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำชีทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก เนื่องจากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม มีพายุดีเปรสชั่นหลายลูกพัดผ่าน ทำให้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำโดยกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนให้ได้มากที่สุด และชะลอการระบายเพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่บ้าง แต่คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติก่อนสิ้นเดือนตุลาคมแน่นอน
สำหรับปริมาณน้ำล่าสุดของเขื่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ในลุ่มน้ำชีทั้ง 3 แห่ง คือ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำ 1,992 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 439 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำในอ่าง 1,689 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีก 291 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำในอ่าง 136 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีก 27 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งกรมชลประทาน และ กฟผ.จะบริหารจัดการน้ำทั้งการระบายและการกักเก็บน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับใช่ในกิจกรรมต่างๆ ในช่วงฤดูแล้งปี 2561 ด้วย
“โดยเฉพาะที่เขื่อนลำปาว กรมชลประทานจะเก็บน้ำไว้ในเขื่อนมากขึ้น เพื่อให้มีปริมาณน้ำต้นทุนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งปีหน้าอย่างพอเพียง และยังเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมทางตอนล่างของลุ่มน้ำชี ในพื้นที่ อำเภอจังหาร อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด และอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นที่ลุ่มน้ำระบายน้ำได้ช้า โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ลดการระบายน้ำเขื่อนลำปาวลงให้น้อยที่สุด” ดร.สมเกียรติกล่าว
นอกจากนี้ยังได้ให้เร่งระดมส่งเครื่องสูบน้ำช่วยพื้นที่ชุมชนเมืองขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ และร้อยเอ็ด พร้อมจัดทำแผนที่ทางน้ำสาธารณะ เพื่อเตรียมปรับการบริหารจัดการน้ำหลากในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามในการเร่งระบายน้ำนั้น ให้คำนึงถึงการวางแผนการปลูกพืชในฤดูแล้งช่วงปลายปีนี้ด้วย โดยจะต้องจัดสรรน้ำให้กับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบของน้ำท่วมเป็นอันดับแรก