ส่องเกษตร : ศาสตร์พระราชา..ต้องทำให้จริง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/300371

449007

ส่องเกษตร : ศาสตร์พระราชา..ต้องทำให้จริง

วันพุธ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ประเทศไทย“ออกทุกข์”แล้ว หลังจากผ่านงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม ด้วยความยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่จะติดตรึงตาตรึงใจของคนไทยในยุคสมัยนี้ไปตลอดชีวิตอย่างที่ไม่มีวันลืมเลือนได้

“ความยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ”ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงแต่จากภาพรวมของงานพระราชพิธี แต่ที่สำคัญก็คือ การหลอมรวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ ที่ร่วมกันออกมาแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายอย่างมืดฟ้ามัวดิน ไม่ว่าบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงหรือในทุกจังหวัด ในทุกพื้นที่ซึ่งจัดให้เป็นสถานที่ของการวางดอกไม้จันทน์ โดยมิได้ย่อท้อต่อความลำบากตรากตรำ ทั้งจากการที่ต้องยืนต่อคิวยาวนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนถึงข้ามวันข้ามคืน(สำหรับผู้ที่ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง) ท่ามกลางสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน แดดร้อนจัดสลับฝนฟ้ากระหน่ำหนัก

เป็นภาพ“ยิ่งใหญ่”ที่สะท้อนถึงความจงรักภักดีอย่างสุดหัวใจ ที่พสกนิกรชาวไทยถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มหาราชแท้จริง “ผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ตลอดรัชสมัยแห่งการครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปี

บรรทัดนี้ขอตอกย้ำต่อทุกดวงใจไทยทั้งราษฎรทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารชาติบ้านเมืองที่ประกาศความจงรักภักดี จะไม่มีวันลืมเลือนพระองค์ท่าน และจะเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานตลอดไป…ก็จะต้องลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงจัง

ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนามรัฐบาลออกมากล่าวขอบคุณประชาชนที่ร่วมแรงร่วมใจทำให้งานพระราชพิธีสำคัญนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยความยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก และย้ำว่า ต่อแต่นี้ไปขอให้คนไทยร่วมกับสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง น้อมนำศาสตร์พระราชาเป็นแนวทางพัฒนาประเทศ

“พระบรมราโชวาท ศาสตร์พระราชาและคำสอนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ยังคงดำเนินการต่อไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นความทรงจำยิ่งใหญ่ ที่จะสืบสานเจริญรอยพระยุคลบาท อันจะเป็นพระบรมราชานุสรณ์ สนองพระมหากรุณาธิคุณเป็นมงคลแก่ตน และเป็นพลังของแผ่นดินอย่างยั่งยืน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าวไว้ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลของท่านเองด้วย ที่จะต้องปฏิบัติตามศาสตร์พระราชาอย่างจริงจัง เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับประชาชน ไม่ให้ถูกใครปรามาสได้ว่า “อย่าดีแต่พูด”

เสร็จจากช่วงเวลาแห่งงานพระราชพิธีสำคัญแล้ว กระแสข่าวทุกด้านกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม กลับมาเป็นประเด็นสำคัญเรื่องแรกที่พล.อ.ประยุทธ์เดินหน้าให้ความช่วยเหลือ โดยลงไปดูพื้นที่ด้วยตัวเองที่จ.อ่างทองเมื่อวันวานและจะไปขอนแก่นเป็นคิวต่อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องเหมาะสมอย่ายิ่งที่รัฐบาลต้องใส่ใจ เร่งช่วยเหลืออย่างจริงจัง ให้ทันการณ์ โดยเฉพาะหลายๆจังหวัดที่เต็มใจเป็นพื้นที่รับน้ำแทนกรุงเทพฯในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพได้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ภาวะน้ำท่วมปีนี้ รุนแรงไม่น้อย จากการที่มีน้ำฝนปริมาณสูงมากๆ…สูงในระดับใกล้เคียงกับปี 2554 เลยทีเดียว ทำให้โลกสังคมออนไลน์ช่วงที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวลือกันเป็นระยะๆให้ชวนผวาว่า จะเกิด“มหาอุทกภัย”ซ้ำรอยปี 2554 แบบยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่ก็เป็นความโชคดี ที่ก่อนหน้านี้ เราเผชิญวิกฤติภัยแล้งมาก่อน จนน้ำในเขื่อนต่างๆมีปริมาณต่ำมาก จึงมีส่วนที่รองรับน้ำฝนไปได้มหาศาล ที่สำคัญต้องยอมรับว่า การบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการวางแผนระบายน้ำช่วงวิกฤติที่น้ำเต็มเขื่อนต่างๆ ถือว่ามีประสิทธิภาพดีกว่ายุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งจุดนี้ดูจะเป็นเรื่องที่แกนนำรัฐบาล คสช.มั่นใจ จนพูดได้ว่า จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่แบบยุคยิ่งลักษณ์แน่!

การบริหารจัดการระบายน้ำได้ดีขึ้น ด้านหนึ่งคงเพราะเคยมีบทเรียนเลวร้ายปี 2554 ทำให้เพิ่มการระมัดระวังมากขึ้น อีกด้านก็ต้องยอมรับว่า เมื่อไม่มีประเด็นการเมืองหวังคะแนนนิยม หรือหวังใช้เรื่อง “น้ำ” เป็นเครื่องมือหาเสียง จึงทำให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องสามารถระบายน้ำตามหลักวิชาการได้มากขึ้น

นี่เป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆที่อยากฝากไว้ เมื่อถึงยุครัฐบาลจากการเลือกตั้งอีกครั้ง อย่าได้คิดเรื่องการบริหาร “น้ำ”แบบการเมืองอย่างเด็ดขาด

สาโรช บุญแสง

Leave a comment