ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/301780

ส่องเกษตร : เก้าอี้รมว.เกษตรฯกับ‘เพื่อนซี้’
มีความแน่ชัดเป็นอย่างยิ่งว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเป็น“ครม.ประยุทธ์ 5”กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ไม่เพียงเพราะปัจจัยจากการลาออกยกทีมของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ซึ่งทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง แต่ยังเป็นเพราะในช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาล คสช. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่ง“ปั๊ม”ผลงานออกมาให้เข้าตาประชาชน ก่อนที่จะถึงเวลา“คืนอำนาจ” จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตามโรดแมปในปลายปีหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียอมรับเป็นนัยว่า จะมีการปรับครม.ภายในปีนี้ (ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึง 2 เดือน) ขณะเดียวกันยังแสดงท่าทีเห็นด้วยตรงกันกับพี่ใหญ่ คสช.อย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมว่า ปรับครม.ครั้งนี้ คงจะลดสัดส่วนรัฐมนตรีที่เป็นทหารลง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า น่าจะเป็นการ“ปรับใหญ่” ดึงพันธมิตรทางการเมือง และมืออาชีพผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาเสริม เพื่อเร่งผลงานดึง“คะแนนนิยม”ที่ถดถอยลงไปอย่างมาก โดยล่าสุดผลสำรวจซูเปอร์โพลล์พบว่า แม้แต่ตัวนายกฯบิ๊กตู่ที่เคยได้รับคะแนนนิยมจากการสำรวจหนก่อนถึง 78.4 คะแนน ตอนนี้ก็ยังถูก“ฉุด”คะแนนลงมาเหลือแค่ 52.0
ทำให้นักวิเคราะห์ของสื่อต่างๆพากันกางรายชื่อรัฐมนตรี”ทหาร”ที่เหลืออยู่ในครม.ปัจจุบัน 10 คน (จากเดิม 11 คน ตัดพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ที่เพิ่งลาออกจากรมว.แรงงาน) ออกมาชำแหละ แยกแยะว่า ใครบ้างที่น่าจะอยู่ในข่ายถูก “ลดสัดส่วน” ต้องถูกปรับพ้นจากตำแหน่ง
ผลปรากฏว่า นักวิเคราะห์หลายสำนักพากันชี้นิ้วตรงกันไปที่“บิ๊กฉัตร”พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาเป็นอันดับแรกๆ เลยทีเดียว
เหตุผลสำคัญก็เพราะเป็น“บิ๊กฉัตร”อยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด เพื่อกระชับการทำงานให้ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาผลงานด้านเศรษฐกิจ ยังคงเป็นประเด็นถูกตำหนิติเตียน วิพากษ์วิจารณ์เชิงลบ ได้รับคะแนนนิยมต่ำสุดจากผลสำรวจโพลล์ต่างๆอยู่เป็นประจำ โดยกระทรวงเกษตรฯที่ดูแลเกษตรกรคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังคงมีปัญหาที่แก้ไม่ตกมากมาย ทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำไม่ว่าข้าว,ยางพารา,ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ ทำให้ทั้งกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ตกเป็นเป้าโจมตีร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีปัญหาประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ความรวดเร็วในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนทั้งประเทศ ซึ่งถูกตั้งคำถามอยู่มาก
แม้เก้าอี้รมว.เกษตรฯของพล.อ.ฉัตรชัยจะเป็นเป้าเพ่งเล็งทุกครั้งที่มีกระแสข่าวปรับครม.ไม่เพียงเรื่อง“ผลงาน”แต่เป็นเพราะความ“ไม่เข้าขา”กับหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่างรองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ด้วย แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา“บิ๊กฉัตร”ก็ยังเหนียวแน่น รอดพ้นจากการถูก“ปรับออก”ท่ามกลางข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า เพราะเป็น“เพื่อนซี้”เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 และจปร.รุ่น 23 กับนายกฯบิ๊กตู่
เพียงแต่ครั้งนี้ กระแสค่อนข้างรุนแรงหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง เพื่อให้การทำงานทีมเศรษฐกิจรัฐบาลมี“เอกภาพ”ที่จะ“ปั๊มผลงาน”ได้เต็มที่ยิ่งขึ้น รวมถึงการอัดฉีดนโยบายเศรษฐกิจเรียกคะแนนนิยมให้รัฐบาล คสช.และ“บิ๊กตู่” เพื่อปูทางสู่โหมด“เลือกตั้ง” ที่คาดหวังจำได้สืบต่ออำนาจ โดยผ่านการสนับสนุนของพรรคการเมืองและกลุ่มพันธมิตรต่างๆ
ไม่เพียงเท่านั้น“บิ๊กฉัตร”ยังตกเป็นเป้า ถูกการเมืองฝ่ายต่างๆ ทั้งขั้วตรงกันข้ามและแม้แต่พรรคการเมืองที่น่าจะเป็นพันธมิตรในอนาคต วิพากษ์วิจารณ์กดดันนายกฯบิ๊กตู่ถึงเรื่องการปรับ ครม.หนนี้ ว่า จะคำนึงถึงประสิทธิภาพหรือจะเอาแต่ความเป็น“เพื่อน”
เก้าอี้รมว.เกษตรฯของพล.อ.ฉัตรชัยในเที่ยวนี้ จึงสั่นคลอนเป็นอย่างยิ่ง จนเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ล่าสุดเหมือนกับจะ“ปลง”ว่าอาจจะต้องหลุดจากตำแหน่ง โดยต่อคำถามที่ว่า ถ้าโดนปรับออกจะเสียใจหรือไม่ บิ๊กฉัตรตอบทันทีว่า“ผมเป็นทหาร พร้อมที่จะทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ถ้าท่านไม่มอบหมาย เราก็กลับ…..ผมก็อยากพักจะตายไป อยากพักนานแล้ว…”
พล.อ.ฉัตรชัยจะได้พักจากภารกิจการเป็นรมว.เกษตรฯหรือไม่ หรือยังต้องเหนื่อยต่อในเก้าอี้เดิม หรือแม้กระทั่งย้ายสลับเก้าอี้ไปอยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่กระทรวงเศรษฐกิจ ก็อยู่ที่เพื่อนซี้อย่างนายกฯบิ๊กตู่ ซึ่งคงจะให้คำตอบในอีกไม่ช้าแน่นอน
สาโรช บุญแสง