แตกใบอ่อน : พลังงานลม..พลังงานล้ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/303388

807934531

แตกใบอ่อน : พลังงานลม..พลังงานล้ม

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครทันสังเกตบ้างหรือไม่ว่า มีข่าวเล็กๆ เกี่ยวกับวงการพลังงานบ้านเรา ที่กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นไปปรากฏอยู่ตามสื่อหลายแห่งทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ผลที่ตามมาต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่นอน เพราะดันไปเกี่ยวข้องกับอนาคตของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” กลุ่มธุรกิจพลังงานลมรายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด เข้าใจว่าน่าจะอยู่ในระหว่างการแต่งตัวเพื่อเตรียมเข้า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ” ในเร็วๆ นี้

ข่าวที่ว่าก็คือกรณี คณะอนุญาโตตุลาการของหอการค้านานาชาติ (ICC) มีคำสั่งห้ามไม่ให้จำหน่ายจ่ายโอนหุ้นจำนวนร้อยละ 59.4 ของหุ้นทั้งหมดในวินด์ เอนเนอร์ยี่ตามข่าว เขาบอกว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่าง บริษัทซิมโฟนี พาร์ทเนอร์ส ลิมิเต็ด (SPL) บริษัท เน็กซ์ โกลบอล อินเวสเม้นท์ส ลิมิเต็ด (NGI) และบริษัทไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ส ลิมิเต็ด (DLV) กับ บริษัทผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ประกอบด้วย บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด (KPNEH) และ บริษัทฟูลเลอร์ตัน เบย์ อินเวสต์เม้นท์ ลิมิเต็ด (Fullerton)

โดยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ก็เป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการที่ “ณพ ณรงค์เดช” ได้เข้าไปซื้อกิจการ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด (KPNET) หรือชื่อเดิมว่า บริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (REC) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จำนวนร้อยละ 59.4 ของ วินด์ เอนเนอร์ยี่ แต่กลับมีการชำระค่าหุ้นไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ก็เลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา กระทั่งอนุญาโตตุลาการจึงมีคำสั่งคุ้มครองโดยห้ามการจำหน่ายจ่ายโอนดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขเยียวยาได้ในอนาคต รวมทั้งเป็นหลักประกันการชำระเงินตามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่สื่อต่างประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง “ไฟแนนเชียล ไทมส์” ฉบับวันที่ 8 พฤศจิกายน ก็มีการรายงานทำนองว่า คำสั่งของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในเรื่องนี้ ไม่ได้เพียงแค่เป็นการห้ามจำหน่ายจ่ายโอหุ้นจำนวน 59.4% ของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” จนกว่าจะมีคำชี้ขาดในข้อพิพาทออกมาก่อนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการห้ามทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับหุ้นจำนวนนี้ เช่น เอาไปค้ำประกันเงินลงทุน หรืออื่นๆ รวมทั้งบริษัทคู่กรณีของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ยังได้ประกาศให้รางวัลตอบแทนสำหรับผู้ที่มอบหลักฐานการ
กระทำที่ขัดต่อคำสั่งดังกล่าว เป็นเงินถึง 10 ล้านบาท

ตรงนี้แหละครับที่อาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าไล่อ่านตามตัวอักษรดีๆ ก็จะเท่ากับว่านี่ไม่ได้เป็นการอ้างคำสั่งอนุญาโตตุลาการฯเพื่อ “แช่แข็ง” หุ้นเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินคดีกับบุคคลใดๆ ก็ตามที่จะเข้าไปทำธุรกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ซึ่งแน่นอนว่า อาจสะเทือนต่อแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่”
เอง

เรื่องนี้ นาทีนี้ แม้ยังไม่ทราบว่า ตกลงใครถูกใครผิด ทุกอย่างมีเบื้องหลังเบื้องลึกยังไง เนื่องจากข้อเท็จจริงลึกๆ ก็คงมีแต่คู่กรณี 2 ฝ่ายเท่านั้นที่รู้ดี แต่บอกตรงๆ ครับว่า เรื่องนี้น่าจะไม่จบง่ายๆ และท่าทาง 2 ฝ่ายคงจะต้องต่อสู้กันไปอีกยาว ซึ่งก็น่าเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้อนาคตของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ต้องเจอกับเรื่องติดๆ ขัดๆ ไม่หยุด ก้าวไปไหนไม่ได้เสียที และการสะดุดหยุดชะงักของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำให้วงการพลังงานทางเลือกในบ้านเราก้าวไปข้างหน้าได้ช้าลงไปเรื่อยๆ …ก่อนหน้านี้เมื่อตอนต้นปี กลุ่มบริษัทด้านพลังงานลมก็จุกกันไปครั้งหนึ่งแล้วจากกรณีใช้ที่ดิน ส.ป.ก.

ก็ได้แต่เอาใจช่วยนะครับ เพราะไม่อยากให้พลังงานลมต้องมาจบด้วยการกลายเป็น “พลังงานล้ม” ไป

มันน่าเสียดายครับ

มะลิลา

Leave a comment