ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/308399

กฤษฎาชง3มาตรการตั้งเป้าดันราคายาง65บาทต่อกก.
กฤษฎาขอครม.อนุมัติงบกลางรับซื้อยางจากเกษตรกรสวนยาง 12,240 ล้านบาท นำยางไปใช้หน่วยงานรัฐ 2 แสนตัน พร้อมกรอบวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการซื้อยางแห้ง 20,000 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 กยท.เทงบ 6,790 ล้านบาท ลดพื้นปลูกยาง 400,000 ไร่ ชี้ดันราคายางขึ้นที่เป้าหมาย 65 บาทต่อกก.
12 ธ.ค.60 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราครบวงจร ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะราคายางตกต่ำแก่เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ใน 3 มาตรการ ตามข้อสั่งการของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.60 ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ดำเนินการเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูดซับปริมาณผลผลิตยางในระบบ ลดปริมาณ การผลิต และเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงโดยเร่งด่วน ภายใน ระยะเวลา 1 สัปดาห์
1.โครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เป้าหมาย 2 แสนตัน โดยกยท.เปิดจุดรับซื้อจากเกษตรกรขึ้นทะเบียนกับ กยท.วงเงิน 12,240 ล้านบาท ใช้จ่ายจากงบกลางรายการเงินสารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็น ปี 2561 เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ โดยส่งมอบให้หน่วยงานภาครัฐนาไปใช้ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ลดผลกระทบที่ส่งผลต่อราคายางพาราภายในประเทศ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้กำหนดเป้าหมายนำยางไปใช้หน่วยงานราชการ จำนวน ประมาณ 200,000 ตัน หรือตามจำนวนที่แต่ละหน่วยงานภาครัฐแจ้งความประสงค์ เช่น ถนนลาดยางมะตอย ผสมยางพาราชนิดผสมร้อน (Para Asphaltic Concrete) ชั้นพื้นทางของถนน (Based) Para rubber polymer soil cement ยางปูพื้นแบบ Block สนามฟุตซอล หรือ สนามเด็กเล่น ยางปูสระน้า และอื่นๆ จากการสำรวจหน่วยงานรัฐเบื้องต้น ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ พบว่า เป้าหมายการใช้ยางในปี 2561 แบ่งเป็น น้ายางข้น 107,431 และยางแห้ง 64,484.14 ตัน
ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานขอรับงบประมาณ จากการจัดสรร หรือปรับงบประมาณเพื่อจัดซื้อจัดจ้างต่อไป ระยะเวลาดาเนินการ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 – ธันวาคม 2561 ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 – ธันวาคม 2562 โดยการรับซื้อยางจากภาคเกษตรกรนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 – 30 เมษายน 2561 ซึ่งการบริหารจัดการโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 – ธันวาคม 2561 โดยรับซื้อยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ความชื้นไม่เกินร้อยละ 3 ตามมาตรฐานที่ กยท.กำหนด น้ำยางสด มีปริมาณเนื้อยางแห้ง (DRC) ไม่ต่ากว่าร้อยละ 28 และไม่มีสิ่งปลอมปน ยางก้อนถ้วย มีปริมาณเนื้อยางแห้ง (DRC) ไม่ต่ากว่าร้อยละ 60 ตามมาตรฐานที่ กยท.กำหนด และยางชนิดอื่นที่ กยท.กำหนด โดยดาเนินการรับซื้อยางตามคุณภาพที่เกษตรกรชาวสวนยางนามาขายในราคาที่เปลี่ยนแปลงไป ตามสถานการณ์ตลาด ซึ่งเป็นธรรมแก่เกษตรกรชาวสวนยาง โดยตามประกาศราคากลาง ที่ กยท.กำหนด มีจุดรับซื้อยาง ตลาดยาง กยท.และตลาดเครือข่ายตลาดยาง กยท.ตลาดกลางยางพารา จำนวน 6 ตลาด (สงขลา ยะลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ หนองคาย) และตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพารา ที่ กยท.กำหนด
2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) เป้าหมายดูดซับยางออกจากระบบประมาณร้อยละ 11 ของผลผลิตยางแห้ง 350,000 ตัน จากผลผลิต ทั้งปีประมาณ 3,200,000 ตัน (ส่วนเนื้อยางแห้ง) ราคายางเป้าหมาย 65 บาท/กิโลกรัม (ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 เป็นราคาประกาศของตลาด กลางยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย) วงเงินด่าเนินการ 20,000 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี (ไม่เกิน 600 ล้านบาท) ด่าเนินโครงการ เดือนมกราคม 2561 ถึง เดือนธันวาคม 2562 ระยะเวลาในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 2 ปี
3.โครงการควบคุมปริมาณผลผลิต มีปรับเป้าหมายการลดพื้นที่เป็นลดพื้นที่ปลูกยางปีละ 200,000 ไร่ และลดพื้นที่ปลูกยางแบบถาวร โดยการโค่นและ ปลูกแทนด้วยพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ ตามความเหมาะสมกับพื้นที่ ปีละ 200,000 ไร่ เพื่อลดความเสี่ยงในการ และลดปริมาณผลผลิตของหน่วยงานภาครัฐที่มีสวนยาง หน่วยงานภาครัฐที่มีสวนยาง ประมาณ 100,000 ไร่ ลดปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดได้ 6,780 ตันต่อสามเดือน โดยเป้าหมาย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) มีเนื้อที่สวนยางประมาณ 89,000 ไร่ กรมวิชาการเกษตรประมาณ 2,000 ไร่ และ กยท.เนื้อที่เปิดกรีดจำนวน 30,111 ไร่ รวมเนื้อที่ 121,111 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่หยุดกรีด 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2561) สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยาง เข้าโครงการลดพื้นที่ปลูกยางแบบถาวร จำนวน 200,00 ไร่ใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนา ของ กยท.เป็นเงิน 3,287.28 ล้านบาท ลดพื้นที่ปลูกยางแบบชั่วคราว จำนวน 200,000 ไร่ ใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนายางพาราของ กยท.เป็นเงิน 3,200 ล้านบาท และลดปริมาณผลผลิตของหน่วยงานภาครัฐที่มีสวนยาง รวมเนื้อที่ 121,111 ไร่ ซึ่งมี พื้นที่หยุดกรีด 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2561) ใช้งบกลางของรัฐบาล จำนวน 303 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์ยางพาราทั่วโลกช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อราคา (ปี 2555 – 2559) เนื้อที่ปลูกยางพาราของโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศผู้ปลูกยางพาราที่สาคัญของโลก ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และไทย มีพื้นที่ปลูกยางเพิ่มขึ้นจาก 68.45 ล้านไร่ ในปี 2555 เป็น 71.30 ล้านไร่ ในปี 2559 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.02 ต่อปี สำหรับผลผลิตยางพาราของโลกเพิ่มขึ้นจาก 11.66 ล้านตัน ในปี 2555 เป็น 12.40 ล้านตัน ในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.09 ต่อปี