ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/308425

ส่องเกษตร : บูรณาการให้จริง…อย่าให้เสียของอีก
ก็มีความคึกคักน่าดูทีเดียว สำหรับ“ครม.ประยุทธ์ 5” ที่กำลังเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะในส่วนของภาคการเกษตร เน้นหนักเรื่องของการแก้ไขปัญหาพืชผลที่มีราคาตกต่ำ จนเดือดร้อนกันมาอย่างยาวนาน ภายใต้เป้าหมายเฉพาะหน้าภายใน 3 เดือน ที่จะต้องเห็นผลในทิศทางที่ดีขึ้น
งานนี้ไม่เพียงทีม 3 รัฐมนตรีใหม่ของกระทรวงเกษตรฯทั้ง 1 รมว.อย่างกฤษฎา บุญราช กับ 2 รมช.อย่าง ลักษณ์ วจนานวัช กับ“อาจารย์ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลยกำธร ที่เปิดตัวให้ความหวังกับเกษตรกรได้ดีพอสมควร ในการเข้าทำงานวันแรกที่กระทรวงเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน จนผมเองก็แอบคาดหวังไว้ว่า จะทำงานออกมาได้ดีจนเป็น“ดรีมทีม”ด้วย
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การลงมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของรองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ,รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง ทั้งด้านการผลิตและการตลาด ให้เกิดประสิทธิภาพในการยกระดับราคาสินค้าการเกษตรและสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น
ทั้งนี้เป็นการสนองตามพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ให้ดูแลประชาชนโดยเฉพาะคนจนผู้มีรายได้น้อย 30 ล้านคน ขณะเดียวกันก็เป็นไปตามแนวทางที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า ปีหน้างานสำคัญลำดับแรกคือการช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับล่างให้เข้มแข็ง โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานบูรณาการกันอย่างใกล้ชิด และต้องไม่อยู่แค่การผลิตสินค้ากับการตลาด แต่ต้องทำให้คนในพื้นที่และชุมชนเข้มแข็ง ด้วยการเชื่อมโยงให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย เป็นต้น
รองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวยืนยันว่า จะได้เห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการยกระดับราคาสินค้าการเกษตรให้ดีขึ้นทั้งยางพารา ข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง และพืชอื่นๆ โดยจะไม่โยนหรือชี้นิ้วว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
“สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนที่สุดคือ การจัดทำข้อมูลเกษตรกรให้ถูกต้อง ชัดเจน อัพเดทตลอดเวลา ทำให้เป็นระบบบิ๊กดาต้า ซึ่งนายกฯได้สั่งการมาหลายครั้ง ให้แชร์ข้อมูลเกษตรกันทุกกระทรวง หากกั๊กข้อมูลกัน จะทำให้เกิดปัญหาในการจัดการ ราคาตลาดโลกไม่ดี ก็ยังปลูกกันมาก ก็เป็นปัญหา ตอนนี้ต้องทำกันใหม่ ทำข้อมูลมั่วกันไว้ ก็ต้องเลิก รัฐบาลนี้อยู่อีกแค่ 1 ปี ต้องใช้เวลาที่เหลือประสานงานกัน ต้องการอะไรให้บอกครม.ทุกอย่างต้องมาปรับแก้เชิงโครงสร้างที่เป็นปัญหาต่อภาคเกษตรมาตลอด”
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง กับเรื่องการทำงานที่ต้องบูรณาการกันให้ได้อย่างจริงจัง เพราะลำพังกระทรวงเกษตรฯคงไม่สามารถที่จะแก้ไขเรื่องของภาคเกษตรได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่อง“ราคาพืชผล”ที่ขึ้นอยู่กับกลไกการตลาดเป็นสำคัญด้วย ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การทำงานประสานกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยให้ราคาพืชผลการเกษตรเป็นไปด้วยดีนั้น ค่อนข้างจะมีปัญหามาตลอด จนทำให้หลายๆครั้งที่ผ่านมา นโยบายที่ออกจากกระทรวงพาณิชย์ เช่น การนำเข้าพืชผลที่ผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ กลับกลายเป็นการสร้างความเสียหายให้กับราคาพืชผลชนิดนั้นของเกษตรกรในประเทศเองอยู่เสมอๆ ซึ่งยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การออกนโยบายนั้นเพื่อผลประโยชน์ใคร? หากจะบูรณาการกันต่อไป ก็ขอให้มีเจตจำนงการทำงานเพื่อเกษตรกรเป็นหลักด้วย
และผมก็เห็นด้วยกับรองนายกฯสมคิดอีกเช่นกันถึงปัญหาใหญ่เรื่องของข้อมูลการเกษตรที่ควรจะต้อง “ถูกต้อง ชัดเจน อัพเดทอยู่ตลอดเวลา และแชร์ข้อมูลกันในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” แต่ที่ผ่านมา หาเป็นเช่นนั้นไม่ ไม่เพียงข้อมูลที่สับสน ทำกันมั่วซั่ว ต่างคนต่างทำ กั๊กข้อมูลกัน ฯลฯ ล้วนแต่นำไปสู่การแก้ไขที่ไม่ต้องจุด และยังออกนโยบายที่ผิดพลาดสร้างความเสียหายซ้ำเติมเกษตรกรมาไม่รู้มากมายมหาศาลขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม ทั้งการทำงานแบบบูรณาการและเรื่องของข้อมูล“บิ๊กดาต้า” ล้วนมีการเอ่ยอ้างถึงกันมาอยู่เสมอ แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยทำได้จริงจังอย่างมีประสิทธิภาพ จนแก้ไขปัญหาให้ภาคเกษตรกรได้สัมฤทธิผล ฉะนั้นหนนี้เมื่อทีมครม.เศรษฐกิจประยุทธ์ 5ที่ผ่านการกระชับอำนาจ ตามที่นายกฯบิ๊กตู่ มอบให้กับรองนายกฯสมคิดอย่างเต็มที่แล้ว ก็หวังว่า จะทำให้เห็นได้จริงๆจังๆเสียที
กรุณาอย่าให้“เสียของ”เด็ดขาด
สาโรช บุญแสง