เดินหน้าลดพื้นที่ปลูกข้าว‘นาปี’ เกษตรฯสั่งลุยพัฒนาพันธุ์ข้าวนิ่มส่งออกตีตลาดจีน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/308428

เดินหน้าลดพื้นที่ปลูกข้าว‘นาปี’ เกษตรฯสั่งลุยพัฒนาพันธุ์ข้าวนิ่มส่งออกตีตลาดจีน

เดินหน้าลดพื้นที่ปลูกข้าว‘นาปี’ เกษตรฯสั่งลุยพัฒนาพันธุ์ข้าวนิ่มส่งออกตีตลาดจีน

วันพุธ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกล่าวถึงการดำเนินงานในเรื่องข้าวครบวงจรว่า ประเทศไทยมีเกษตรกร 3.7 ล้านครัวเรือน ปลูกข้าวนาปี 59 ล้านไร่ และมีบางส่วนได้รับความเสียหายจากอุทกภัย กระทรวงเกษตรฯ จึงเข้าไปสำรวจความเสียหายและเยียวยา โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีการเจรจาส่งข้อมูลเพื่อให้บริษัทประกันวินาศภัยเข้าไปจ่ายเงินชดเชยให้กับพี่น้องเกษตรกร คาดว่าจะมีข้าวเปลือกนาปีไม่เกิน 23 ล้านตัน โดยแปรออกมาเป็นข้าวสารจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านตัน การบริโภคในประเทศอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านตันข้าวสาร ฉะนั้นจะเหลือส่งออกประมาณ 4 ล้านตัน คณะทำงานด้านต่างๆ จึงได้มีการวางแผนในการส่งเสริมหรือควบคุมเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทานว่าเกษตรกรจะทำนาปรังได้จำนวนกี่ไร่ถึงจะเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีศักยภาพการทำนาปรังถึง 12 ล้านไร่ แต่ถ้าทำทั้งหมดจะเกิดปัญหา Over supply ได้ จึงได้มีการคำนวณออกมาว่าอยากให้เกษตรกรทำนาปรังไม่เกิน 10 ล้านไร่ จึงจะได้ข้าวประมาณ 5 -6 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งจะใกล้เคียงขีดความสามารถในการส่งออกข้าวของประเทศไทย ทำให้ไม่กดดันไปที่ราคาสำหรับพื้นที่ที่เหลืออีก 2 ล้านไร่ กระทรวงเกษตรฯมีนโยบายในการลงไปดูแลพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกร โดยใช้เครื่องมือ Agri-map เข้าไปตรวจดูพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว ให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่น

ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวได้รายงานว่าปัจจุบันประเทศจีนเปลี่ยนพฤติกรรมในการนำเข้าข้าว โดยสนใจซื้อข้าวพื้นนิ่ม จึงมอบให้กรมการข้าวเร่งพัฒนาพันธุ์ เพราะมีความต้องการสูงมากถึงประมาณ 7 ล้านตัน ซึ่งปัจจุบันประเทศจีนเลือกที่จะไปซื้อที่เวียดนาม

นอกจากนี้ รัฐบาลมีโครงการที่จะดูแลในเรื่องการตลาดรองรับ โดยเฉพาะในช่วงที่มีข้าวเปลือกจำนวนมาก เช่น ให้ ธ.ก.ส. เข้าไปเสริมสภาพคล่องในระบบสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้มีกำลังในการไปซื้อข้าวในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว โครงการดูแลผู้ประกอบการให้มีเม็ดเงินในการซื้อข้าวเข้ามาเก็บ โดยทางรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม โครงการชะลอการขายข้าวให้เกษตรกร หรือสหกรณ์เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาให้ตันละ 1,500 บาท เป็นต้น อีกทั้งยังมีโครงการชดเชยลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือก มีวงเงินประมาณ 48,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. โดยฐานข้อมูลจะมาจากกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ในเรื่องของการขึ้นทะเบียน และต้องเป็นเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการน้ำท่วม การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินกว่า 40,000 ล้านบาท ที่ฐานรากของระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ในเรื่องของราคาก็เป็นไปตามกลไกตลาด ราคาข้าวหอมมะลิมีราคา 13,000 – 14,000 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานี ประมาณ 9,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 7,500- 8,000 บาท ทำให้เกษตรกรมีความพึงพอใจ เกษตรกรรายใดมียุ้งฉาง หรือสหกรณ์ไหนมีพื้นที่จัดเก็บ อาจจะใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการชะลอการขาย จะได้รับการสนับสนุนในด้านเงินทุนในค่าเก็บรักษาด้วย

สำหรับสิ่งที่ต้องจับตามองคือข้าวเปลือกเหนียว จากการที่มีราคาดีมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีเกษตรบางรายหันไปปลูกข้าวเหนียวแทน ในประเภทข้าวเหนียวที่เป็นต้นเตี้ย จึงคิดว่าจะดำเนินการแก้ไขต่อไป จึงได้มอบหมายกรมการข้าวไปดูในรายละเอียด ซึ่งจะแก้ไขไปตามสถานการณ์ที่เป็นจริง อยู่บนพื้นที่ฐานที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมกับภาครัฐด้วย

Leave a comment