ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/307634

เลาะรั้วเกษตร : จากพ่อเมือง ถึงเจ้ากระทรวงเกษตร
นโยบาย “3 ต.” คือ ต่อ เติม แต่งที่รมว.เกษตรและสหกรณ์ “กฤษฎาบุญราช” มอบให้กับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ดูจะไม่เข้มงวดจนสร้างความอึดอัดให้กับผู้ปฏิบัติ แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนจนน่าวางใจ
ทั้งนี้มีคำอธิบายว่า “ต่อ” คือ การสานต่อนโยบายเดิมที่ดีอยู่แล้ว “เติม” คือ การเพิ่มรายละเอียดให้โครงการเดิมที่ยังไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และ “แต่ง” คือ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในโครงการเดิมที่ไปต่อไม่ได้ หรือควรจะปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้น
สิ่งที่ท่านว่ามาดูจะเป็นภาพรวมๆ ที่ยังไม่ตั้งธงอะไรมากมายนัก เหมือนธรรมเนียมของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ย้ายไปจังหวัดใหม่ก็ต้องพูดเหมารวมไว้ก่อน ขอเวลาศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน จึงจะฟันธงว่าจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร
การบอกว่า การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรฯจะต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่เกษตรกร ทุกโครงการต้องสามารถจับต้องได้ การดำเนินงานต้องผนึกกำลังในระดับจังหวัด โดยส่งเสริมการปฏิบัติงานของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯในระดับพื้นที่ทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด โดยปรับโครงสร้างการทำงานให้สามารถบูรณาการทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง
ประโยคสุดท้ายนี่แหละ งานใหญ่….การปรับโครงสร้างการทำงานให้บูรณาการกันนั้นระยะเวลาเพียงปีเดียว หรือปีเศษ ที่รัฐบาลชุดนี้จะได้อยู่ คงไม่เพียงพอต่อการปรับโครงสร้างการทำงาน ดูอย่าง Single Command สมัยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่ว่าแน่ๆ ก็ยังไปไม่ถึงไหน สุดท้ายก็ต่างคนต่างทำไปตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน จะมีที่ประสบความสำเร็จอยู่บ้างก็คงน้อยเต็มที
ข่าวว่านายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ให้เวลา 3 เดือน สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ รัฐมนตรี กฤษฎา บุญราช จึงได้รัฐมนตรีช่วยว่าการ มาช่วยอีก 2 ท่าน คือ “ลักษณ์ วัจนานวัช” อดีตผู้จัดการ ธ.ก.ส. และ “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” ผู้นำด้านการทำเกษตรอินทรีย์ และเศรษฐกิจพอเพียง ก็หวังว่าทั้ง 2 ท่านซึ่งสัมผัสกับแวดวงเกษตรมาพอสมควร จะเข้าใจงานของ
กระทรวงเกษตรฯ และช่วยท่านรัฐมนตรีว่าการได้มากกว่ารัฐมนตรีช่วยที่มาจากกระทรวงพาณิชย์คนที่ผ่านมา
ราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำที่เป็นเผือกร้อน สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯคนใหม่ คือ ราคายางพารา ที่ท่านประกาศว่าจะไม่ขายยางในสต๊อก 1 แสนตัน แต่จะผลักดันนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ส่วนราชการต่างๆ ใช้ยางพาราในโครงการต่างๆ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ถ้าจำกันได้ สมัยที่ พล.อ.ฉัตรชัย เป็นรัฐมนตรีเกษตรฯใหม่ๆ ก็เคยมีนโยบายแบบนี้มาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะดึงปริมาณยางพาราออกจากสต๊อกได้มากนัก เพราะการทำโครงการต่างๆ ต้องใช้งบประมาณ มีข้อจำกัด กฎระเบียบต่างๆ มากมาย
มาคราวนี้ก็ต้องรอดูฝีมืออดีตพ่อเมือง อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จับพลัดจับผลูมาเป็นเจ้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูบ้าง ว่าจะผลักดันแนวนโยบายนี้ได้ประสบผลสำเร็จหรือไม่
ว่าแต่…..คุยกับคนในการยางแห่งประเทศไทย ให้เข้าใจกันก่อน….ก่อนลุยแก้ปัญหาราคายาง
เอาใจช่วย…..สู้ๆ…ครับท่าน
“แว่นขยาย”