ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/308597

แตกใบอ่อน : การตลาดช่วยชาวนา
ช่วงนี้เวลาไปไหนมาไหน ถ้าลองสังเกตดูกันดีๆ จะเห็นหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรชุมชนต่างๆ พากันออกมาจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “เทศกาลข้าวใหม่” กันอย่างคึกคักแทบจะทั่วทุกมุมเมือง เช่นใน กทม. ตั้งแต่วันที่ 15-20 ธันวาคมนี้ กรมการข้าว ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็จะร่วมกันจัดงานขึ้นที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
เห็นแล้วก็รู้สึกอดปลื้มใจและดีใจไม่ได้ เพราะงานอย่างนี้ไม่ได้มีความหมายแค่เพียงเป็นการรื้อฟื้น “วัฒนธรรมข้าวใหม่” เพื่อต้อนรับฤดูเก็บเกี่ยวของไทยเราให้กลับมาอีกครั้ง แต่ยังถือเป็นการเปิดช่องทางการตลาดให้กับชาวนาไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย
โอกาสนี้จึงอยากขอช่วยประชาสัมพันธ์ครับ ถ้าใครมีเวลา มีโอกาส ผ่านไปเจอการจัดกิจกรรมเทศกาลข้าวใหม่ที่ไหน อยากขอให้ลองแวะเข้าไปเยี่ยมไปชมดู จะได้ช่วยกันอุดหนุนชาวนา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม ผมมีโอกาสได้แวะไป “เทศกาลข้าวใหม่ 4 ภาค” ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเขาจัดขึ้น ถึงแม้จะงานไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีชาวนา เกษตรกร ชุมชน รวมทั้งผู้ประกอบการแปรรูปอาหารรายย่อย นำของมาออกร้านกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะข้าวพันธุ์พื้นเมือง เช่น ข้าวสันป่าตอง ข้าวหอมนิล หอมจำปา เหนียวลาย มะลิดำ ที่ชาวบ้านเพิ่งเก็บเกี่ยวมา ก็นำมาวางขาย นำมาหุงให้ชิมกันอย่างคึกคัก ไปแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ
พูดถึงข้าวและการทำตลาดให้กับชาวนา ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เมื่อสักประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีน้องๆ มาขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ www.farmjingjai.com ของโครงการ “ฟาร์มจริงใจ” แต่ด้วยจังหวะและโอกาสไม่เอื้ออำนวยก็เลยทำให้ยังไม่ได้นำมาเขียน วันนี้เลยอยากใช้โอกาสนี้ช่วยประชาสัมพันธ์
โครงการ “ฟาร์มจริงใจ” เป็นการรวมตัวของกลุ่มชาวนาที่มีพื้นฐานชุมชนเข้มแข็ง เปิดให้ผู้บริโภคสั่งข้าวสารปลอดสารเคมีโดยตรงจากชาวนาได้ผ่านเว็บไซต์ www.farmjingjai.com ภายใต้แนวคิด “ซื้อข้าวชาวนาปลอดสารเคมี ส่งเสริมสุขภาพดี เกษตรยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ ขายข้าวไม่ได้ราคา และการถูกกดราคาจากกลุ่มพ่อค้าคนกลาง โดยมี บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ช่วยสนับสนุนเรื่องการพัฒนาเว็บไซต์พร้อมเครื่องมือและช่องทางด้านไอทีต่างๆ โดยไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับชาวนา
ขณะที่กระบวนการซื้อขาย คือ ให้ผู้บริโภคสั่งซื้อข้าว “ล่วงหน้า” แบบรายเดือนหรือที่เรียกกันว่า “พรีออเดอร์” ผ่านเว็บไซต์ www.farmjingjai.com โดยระบบจะรวบรวมยอดการสั่งซื้อส่งให้กับชาวนา ทำให้ทราบยอดที่แน่นอน ช่วยให้ชาวนาเข้าถึงและสามารถจำหน่ายข้าวได้โดยตรงแก่ผู้บริโภค มีรายได้อย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาของชาวนาอย่างยั่งยืน โดยชาวนาสามารถขายตรงสู่ผู้บริโภคทำให้ได้กำไรจากการขายมากขึ้น
ปัจจุบัน มีกลุ่มชุมชนเข้มแข็งเข้าร่วมโครงการ “ฟาร์มจริงใจ” จำนวน 3 ชุมชนใน 2 จังหวัด ได้แก่ กลุ่มชาวนาหมู่บ้านคุ้มยโสธร จังหวัดยโสธร กลุ่มอีสานพอเพียง และกลุ่มชาวนาตำบลกระเบื้อง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งข้าวที่ได้จากโครงการทั้งหมดเป็นข้าวปลอดสาร ไม่ผ่านการรมยา และจะสีข้าวเมื่อได้รับออเดอร์จากผู้บริโภคเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับข้าวสารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง สดใหม่ และปลอดภัยจากสารพิษ
ไหนๆ ก็ไหนๆ นอกจากเว็บไซต์ “ฟาร์มจริงใจ” แล้ว ก็อยากจะขอใช้โอกาสนี้แนะนำช่องทางตลาดในระบบ “ออนไลน์” อื่นๆ ในลักษณะเดียวกันบ้าง เช่น “โครงการผูกปิ่นโตข้าว” ให้เข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/pookpintokao/ หรือเว็บไซต์ http://pookpintokao.com/ ซึ่งโครงการนี้มีลักษณะเดียวกับ “ฟาร์มจริงใจ” และมีตัวเลือกเรื่องพันธุ์ข้าวและกลุ่มชาวนาค่อนข้างมากสักหน่อย เพราะเห็นทำกันมานานแล้ว
อีกแห่งหนึ่ง คือ “ธรรมธุรกิจ” ซึ่งเน้นขายข้าวกล้องและโดยเฉพาะ “ข้าวสันป่าตอง” ซึ่งรับประกันได้ถึงความอร่อย ไปดูได้ที่ http://www.thamturakit.com/th/ หรือเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/Thamturakit/ ซึ่งไม่ได้มีแค่เรื่องข้าวเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมการเปิดอบรมในรายวิชาที่น่าสนใจ เช่น กสิกรรมธรรมชาติ เศรษฐกิจพอเพียง การพึ่งตน การเก็บเมล็ดพันธุ์และบ้านดิน รวมทั้งมีตลาดนัดธรรมชาติอีกด้วย ลองเข้าไปดูกันนะครับ น่าสนใจทีเดียว
หรือถ้าท่านผู้อ่านสะดวกที่ไหน ก็ไปช่วยกันอุดหนุนที่นั่น
คนไทยไม่ช่วยชาวนาไทย ก็ไม่รู้จะให้ใครมาช่วยอีกแล้วล่ะครับ
มะลิลา