ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/310914

รักษ์เกษตร : โสนแอฟริกัน ทางเลือกปลูกพืชบำรุงดิน ‘ประมง’เร่งถ่ายทอดองค์ความรู้การเพาะเลี้ยงตลอดสายการผลิต
คำถาม ผมอยากจะปลูกโสนแอฟริกัน เพื่อทำปุ๋ยพืชสดครับ ขอทราบวิธีการปลูกด้วยครับ
อนุกูล วงษ์รัศมี
อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา
คำตอบ โสนแอฟริกัน เป็นพืชที่ไถกลบแล้วเป็นปุ๋ยพืชสด เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่นาที่ลุ่ม เพราะทนน้ำได้ดี ทนดินเค็ม ช่วยแก้ไขดินเค็มได้ดีมาก รากมีปมเป็นจำนวนมาก จึงสามารถตรึงไนโตรเจนในอากาศได้ดี ส่วนลำต้น มีลักษณะนิ่มเปราะ ทำให้ย่อยสลายได้ง่าย สายพันธุ์โสนแอฟริกัน ที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ที่ไวแสง จะไม่ออกดอกจนกว่าจะถึงวันสั้น หรือวันที่มีแสงน้อยกว่า 12 ชั่วโมง เช่น ปลายเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ จึงควรปลูกโสนแอฟริกันก่อนเดือนมิถุนายน เพื่อให้มีการเจริญทางต้นได้นานพอ ก่อนถึงในช่วงออกดอก จะได้มีน้ำหนักสดสูง และสามารถเก็บดอกโสนนำมาบริโภคได้ และจะสามารถไถกลบหรือเก็บฝักแก่ได้ในช่วงก่อนเดือนตุลาคม ดังนั้น จึงควรเริ่มปลูกโสนแอฟริกันในช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงก่อนทำนาปลูกข้าว
วิธีการปลูก ทางราชการ โดยกรมพัฒนาที่ดินได้แนะนำไว้ดังนี้
1.การเตรียมดิน ให้ไถเตรียมดิน ทำให้ดินร่วนซุย เพื่อให้เหมาะกับการงอกของเมล็ด และเป็นการกำจัดวัชพืช
2.การเตรียมเมล็ดพันธุ์ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์โสนแอฟริกันมีลักษณะพิเศษ คือมีระยะของการพักตัว จึงต้องมีการเตรียมเมล็ดเป็นพิเศษกว่าพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งเมล็ดโสนแอฟริกัน จะมีการพักตัวและมีอายุการเก็บได้นานถึง 2 ปี จึงต้องทำการคัดเลือกเมล็ดลีบ และเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ออกให้หมด เหลือแต่เมล็ดที่สมบูรณ์เท่านั้น จากนั้น จะต้องทำลายระยะพักตัวของเมล็ดก่อนนำไปปลูก โดยเมล็ดใหม่ต้องนำไปแช่ในน้ำเดือด 2 นาที แล้วรีบเอาออกไปแช่น้ำธรรมดา หากเป็นเมล็ดที่เก็บมาแล้ว 1 ปี ให้นำไปแช่น้ำที่ใช้น้ำเดือด 1 ส่วนผสมน้ำธรรมดา 1 ส่วน แช่ไว้นาน 30 นาที แล้วนำไปแช่ในน้ำธรรมดา หากเป็นเมล็ดที่เก็บมานานกว่า 1 ปี ก็สามารถนำไปหว่านได้เลย โดยไม่ต้องนำไปแช่น้ำร้อน หรืออาจจะนำไปแช่น้ำธรรมดาทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้เมล็ดงอกเร็วขึ้นก็ได้ จากนั้น ให้นำไปคลุกเมล็ดด้วยไรโซเบียม โดยรินน้ำออกให้เมล็ดหมาดๆ แล้วคลุกเมล็ด 5 กิโลกรัมต่อไรโซเบียม 1 ถุง แล้วค่อยนำไปปลูก เพื่อให้โสนแอฟริกันเจริญเติบโตดีขึ้น
3.การปลูก ปลูกโดยวิธีหว่าน ให้ใช้เมล็ดโสนแอฟริกัน 5 กิโลกรัม หว่านให้ทั่วในพื้นที่ 1 ไร่ พื้นที่ที่ปลูกควรมีความชื้นเพียงพอให้เมล็ดงอก แต่ไม่ควรมีน้ำขัง เพราะจะทำให้เมล็ดลอยน้ำและเน่า
4.การดูแลรักษา โสนแอฟริกัน ในระยะเป็นต้นกล้าจะไม่ทนน้ำขัง และเจริญเติบโตช้าในช่วงอายุ 1 เดือนแรก หลังจากนั้น เมื่อโตได้ความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร จะเจริญเติบโต รวมทั้ง หากมีน้ำหรือความชื้นมากพอ หรือมีน้ำท่วมขังบ้าง ก็จะสามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อทำการไถกลบโสนแอฟริกันแล้ว จะเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของดินดีขึ้น ช่วยให้ดินร่วนซุย และทำให้การเกาะจับตัวกันได้ดี โครงสร้างของดินดีขึ้น และเกิดฮิวมัสในดิน ทำให้รากพืชดูดธาตุอาหารได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน ดีกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี เพราะการใช้ปุ๋ยเคมีบ่อยครั้งและต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จะทำให้โครงสร้างดินมีการอัดแน่น การใช้ปุ๋ยเคมีไม่ได้ช่วยทำให้คุณสมบัติดังกล่าวดีขึ้น เพียงแต่เพิ่มธาตุอาหารอย่างเร่งด่วนให้แก่พืชเท่านั้น
นาย รัตวิ