ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/309564
x
เดินหน้าวางระบบบัญชีสหกรณ์ จัดลำดับชั้นสร้างภูมิคุ้มกันสถาบันเกษตรกร
“วิวัฒน์” มอบแนวทางการทำงาน “กรมตรวจบัญชีสหกรณ์” แนะจัดลำดับชั้นของสหกรณ์ สร้างภูมิคุ้มกัน และทวีความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ทั้งหมด รวมทั้งเดินหน้าการวางระบบบัญชี ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงสังคม-โลกออนไลน์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกร
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมหม่อนไหม สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โดยมีนโยบายสำคัญเบื้องต้น ที่ต้องการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อน คือ การน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นหลักในการขับเคลื่อนงาน ยึดมั่นการทำงานเพื่อประชาชน โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักภูมิสังคม และภูมิศาสตร์
สำหรับกรมตรวจบัญชีและสหกรณ์ ที่มีภารกิจหลักคือการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งการสอนจัดทำบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ ให้ความรู้ คำปรึกษาแนะนำด้านการเงิน การบัญชีและบริหารความเสี่ยง ปัจจุบันมีสหกรณ์ที่มีระบบบัญชีที่ดีและมีมาตรฐาน 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่อีก 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ยังทำไม่ได้ จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ เข้าไปสนับสนุน เพื่อยกระดับทั้งระบบ โดยต้องไปจำแนกประเภทและจัดลำดับชั้นของสหกรณ์ เพราะเชื่อว่ามีสหกรณ์ในระดับ 5 ดาวอยู่มาก จึงต้องมีเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ เพื่อค้นหาจุดแข็งและกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาต่อไป
นายวิวัฒน์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีสหกรณ์กว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศ มีสมาชิกกว่า 12 ล้านคน จึงจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ ให้สามารถรับมือกับสภาวะทางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ทั้งการดำเนินงานของธุรกิจที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น และการเติบโตของเทคโนโลยีต่างๆ สหกรณ์และเกษตรกรต้องรู้เท่าทันและปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ ซึ่งการนำระบบบัญชีไปใช้ในการดำเนินธุรกิจและการวางแผนการผลิตทั้งระบบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
“หัวใจสำคัญของการพอเพียงคือ จะต้องมีภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันมีสหกรณ์ที่มีระบบบัญชีที่ดีและมีมาตรฐาน 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่อีก 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ ยังทำไม่ได้เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ เราจึงต้องมายกระดับกัน และเอาความรู้อื่นๆไปสนับสนุนด้วย สิ่งที่ฝากให้ทั้งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปดำเนินการคือ การจำแนกประเภทและจัดลำดับชั้นของสหกรณ์ ซึ่งเชื่อว่ามีสหกรณ์ในระดับ 5 ดาวอยู่มาก จึงต้องมีเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ เพื่อค้นหาจุดแข็งและกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาต่อไปให้เหมาะสมกับภูมิสังคม สามารถสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเหลื่อมล้ำได้”
นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า จากข้อเแนะนำในการปฏิบัติงานของ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้มีการจำแนกและจัดลำดับชั้นของสหกรณ์ เพื่อปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสังคมและการเข้ามาของระบบออนไลน์ต่างๆ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะนำแนวทางนี้ไปปฏิบัติ โดยดำเนินการตามหลักการของสหกรณ์และการตรวจวัดตามค่ามาตรฐานของการตรวจบัญชี ทั้งนี้ ในปี 2561 กรมจะทวีความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ทั้งหมด ทั้งการตรวจบัญชี การเข้าไปวางระบบบัญชี รวมทั้งการให้การสนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ ต่อการประกอบกิจการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ต่อไป