ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/292473

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ช่างอิฐปูนแบบไทย’ ปฐมภูมิการอนุรักษ์มรดกโลกอยุธยา
ปัญหาการบูรณะโบราณสถานที่เกิดขึ้นในทุกแห่งนั้นคือ การขาดช่างอนุรักษ์ที่มีฝีมือที่เข้าใจขบวนการแบบโบราณและวัสดุแบบเก่าที่ขาดแคลน ดังนั้นการที่กรมศิลปากร ร่วมกับองค์การยูเนสโก กรุงเทพมหานคร ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกันให้มีโครงการเพื่อการฟื้นฟูภูมิปัญญาช่างฝีมือสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกนั้น จึงเป็นเรื่องดี ต่อการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุ อาทิตย์นี้ได้ตามรอยไปดูผลงานการฝึกอบรมนำร่องหลักสูตรช่างอนุรักษ์ (โบราณสถานประเภทอิฐและปูน) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แหล่งมรดกโลกที่รู้จักกันดี โดยนายประทีป เพ็งตะโก รองอธิบดีกรมศิลปากรได้เป็นประธานมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ผ่านการฝึกและเรียนรู้ตามโครงการเพื่อการฟื้นฟูภูมิปัญญาช่างฝีมือสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลก ซึ่งเป็นโครงการเริ่มแรกในระยะ ๒ ปี โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ.๒๕๕๙ เพื่อพัฒนาหลักสูตรยกระดับความรู้และทักษะของผู้ที่ทำงานด้านการอนุรักษ์โบราณสถาน โดยได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น๓ กลุ่ม คือ ผู้เชี่ยวชาญ (วิศวกร สถาปนิก นักโบราณคดีนักวิทยาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ศิลปะ ฯลฯ) ช่างฝีมือ และผู้ควบคุมโครงการ ซึ่งมีการศึกษาถึงความเข้าใจอาชีพช่างอนุรักษ์ ทัศนคติ ข้อจำกัดและโอกาสพัฒนาในด้านต่างๆ
การจัดการสัมมนาวิชาการนานาชาติเพื่อสร้างความตระหนักในหลักการอนุรักษ์ และการวิจัยด้านวัสดุสำหรับการอนุรักษ์ โดยเฉพาะงานปูนโบราณและอิฐ เพื่อระบุแนวทางแบบแผนในการศึกษาวัสดุก่อนขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซมจริง โดยกรมศิลปากรและองค์การยูเนสโกนั้นได้ตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่างคลังวิชาและโครงสร้างหลักสูตรสำหรับกลุ่มเป้าหมายทั้งสาม และทดลองใช้หลักสูตร โดยจัดการสัมมนาถกแถลงเพื่อพัฒนาหลักสูตรสำหรับผู้ทำงานอนุรักษ์ และการฝึกอบรมนำร่องสำหรับช่างอนุรักษ์ (โบราณสถานประเภทอิฐและปูน) ขึ้นเป็นเบื้องต้น เพื่อพัฒนาหลักสูตร
สำหรับผู้ทำงานอนุรักษ์ ที่จัดกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐ มีผู้เข้าร่วม ๘๕ คน ซึ่งเป็นผู้บริหาร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกของชาติ ทั้งในกรมศิลปากร ภาคเอกชน วัด ชุมชน และมหาวิทยาลัย มีการทดลองบรรยายและปฏิบัติตามร่างหลักสูตรพร้อมประเมินผลเพื่อปรับปรุงให้เป็นหลักสูตรสำคัญของการบูรณะมรดกของชาติในอนาคต ซึ่งมีการอบรมนำร่องสำหรับช่างอนุรักษ์ ประเภทโบราณสถานประเภทอิฐและปูนขึ้นเมื่อ ๗-๑๒ สิงหาคม และ ๔-๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐

การฝึกด้วยตนเอง
โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการนี้ ๑๐๔ คน ทดลองใช้ร่างหลักสูตรทั้งในภาคความรู้ทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้านการรักษาสภาพโบราณสถานและการซ่อมแซมวัสดุที่เสื่อมสภาพ โดยผลการประเมินการอบรมนี้จะนำไปใช้ปรับปรุงหลักสูตรช่างอนุรักษ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในวันหน้า ซึ่งเป็นการฟื้นฟูช่างฝีมือและความเข้าใจการอนุรักษ์อย่างถูกทิศทางที่กรมศิลปากรและองค์การยูเนสโก มีความหวังที่จะสานต่อการดำเนินงานการอนุรักษ์ที่ขาดช่างฝีมือนี้ร่วมกันต่อไป เป็นการสร้างระบบการพัฒนาทางวิชาชีพที่ทั้งสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่คนไทยและเพิ่มพูนศักยภาพของประเทศในการปกป้องคุ้มครองแหล่งมรดกของชาติที่มีโบราณสถานสำคัญให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด
การอนุรักษ์โบราณสถานที่สำคัญอันเป็นปัญหาให้มีการถกเถียงกันนั้น หากมีความเข้าใจในด้านการอนุรักษ์และปัญหาความขาดแคลนร่วมกันแล้วย่อมจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติว่าด้วยการอนุรักษ์โบราณสถานอิฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในคำแนะนำของคณะกรรมการมรดกโลก ยูเนสโก ที่มีการแสดงความห่วงใยต่อการอนุรักษ์มรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงทำให้ประเทศไทยต้องเพิ่มขีดความสามารถและมีความชัดเจนในเรื่องปรัชญาการอนุรักษ์มรดกโลก รวมทั้งการรื้อฟื้นภูมิปัญญาในการอนุรักษ์โบราณสถานอื่นๆ และโบราณสถานประเภทอิฐ ที่ทำให้ช่างลงมือหน้างานและเจ้าหน้าที่ควบคุมงาน มีความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์มากขึ้น ด้วยการอนุรักษ์แบบของดั้งเดิมกับการคุ้มครองให้พื้นที่คงทน อยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลก ยูเนสโก ได้ให้คำแนะนำว่าควรใช้วัสดุที่เหมาะสมในการอนุรักษ์โดยเฉพาะการรื้อฟื้นสืบต่อการใช้ปูนโบราณในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นปูนฉาบ ปูนก่อ ปูนปั้น ของศิลปะอยุธยา รวมถึงฝีมือช่างที่ต้องเข้าใจศิลปะอยุธยา เพื่อให้มีทักษะฝีมือสมสมัยในการอนุรักษ์มากขึ้น

การเรียนรู้เครื่องมือใหม่

ควบคุมการปฏิบัติให้ถูกวิธี

การศึกษาในพื้นที่จริง

เครื่องมือตรวจสอบใหม่