เป็นการจัดนิทรรศการว่าวไทยที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งทีเดียว แต่ไม่ใช่จัดที่ประเทศไทย เพราะเขาจัดกันที่ประเทศอิตาลี ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 38 แล้ว และในปีนี้จะพิเศษกว่าทุกๆ ปีเนื่องในโอกาสครบ 150 ปีความสัมพันธ์ไทย-อิตาลี ทางรายการ “แนวหน้าวาไรตี้” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย” ได้เชิญ“อี๊ด-วิยะดา กงศรี” ซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ในอิตาลี มาพูดถึงการจัดนิทรรศการว่าวไทย ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

อี๊ด-วิยะดา กงศรี เล่าว่า “สำหรับงานว่าวไทยที่เราจะจัดนั้น ถามว่าอะไรเป็นวัตถุประสงค์ในการจัดงาน คือพอดีปีหน้าครบ 150 ปีความสัมพันธ์ไทย-อิตาลี แล้วเราก็โชคดีตรงที่ว่า ประวัติศาสตร์ของว่าว ช่วงปีที่ ในหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ เชิดว่าวกับ โบปีท่า ก็คือเป็นช่วงเวลาเดียวกัน เราก็เลยเชิญชมรมกีฬาว่าวไทย จุฬา-ปักเป้า แล้วก็วงปี่พาทย์ของวิทยาลัยนาฏศิลป์บ้านสมเด็จเจ้าพระยาทั้งหมด 20 ท่านไปที่อิตาลี งานจะจัดขี้นในวันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 จัด 2 สัปดาห์เต็มในเมืองเชิตเมียร์ ประเทศอิตาลี จะเป็นเมืองติดทะล ซึ่งเหมาะกับการจัดเทศกาลว่าว

คือไม่ใช่แค่ประเทศไทยนะคะ ที่จะร่วมงานนี้ ก็คือเป็นนานาชาติ มีทั้งหมด 40 ประเทศที่มาร่วม แล้วเราก็เป็น 1 ในนั้นที่ได้รับเชิญ เราก็เป็นตัวแทนที่นำว่าวของไทย คือ ว่าวจุฬาแล้วก็ปักเป้า แล้วก็ทางชมรมทำพิเศษขึ้นมา 20 ตัว เพ้นท์เป็นลายพระราชวัง จะพิเศษมาก แล้วก็เป็นซุ้มเดียวของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติให้จัดในซุ้มประเทศไทย ก็จะมีทั้งนิทรรศการว่าว แล้วก็ความสัมพันธ์ 150 ปีไทย-อิตาลี มีมาอย่างไรตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วก็จมีนิตยสารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่แจก แล้วก็มีอีกหลายๆ อย่างที่จะเผยแพร่ประเทศไทย วัฒนธรรมไทย แล้วก็ว่าวไทย

ในงานนอกจากจะมีเรื่องว่าว เรื่องนิทรรศการ มีดนตรีไทย มีวงปี่พาทย์ ก็จะมีการแสดงอื่นๆ อีก พอดีอาจารย์ที่วิทยาลัยนาฎศิลป์ จะไปรำ ทราบมาว่ามีหลายชุดมาก แล้วก็เป็นพิเศษๆ โดยเฉพาะรำเชิดว่าว ที่ไม่เคยมีแสดงที่ไหน แล้วก็คิดท่ารำสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

จริงๆ แล้วว่าวไทยมีประวัติมา 700 กว่าปีแล้ว ก็มีประวัติวิธีทำอะไรต่างๆ ซึ่งเราจะเอารายละเอียดตรงนี้ไปแปลเป็นภาษาอิตาเลี่ยน แล้วก็ทำเป็นโบรชัวร์แจกด้วย งานนี้จุดประสงค์ก็คือ ต้องการจะประชาสัมพันธ์ แล้วคนที่มางานจะไม่ใช่แค่คนอิตาเลี่ยนหรือแค่คนไทยที่อาศัยอยู่ในอิตาลี แต่จะมาจากทั่วโลกเลยเพราะครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 38 แล้ว ถือว่าเป็นงานประจำปีของเมืองเชิตเมียร์ แล้วโด่งดังมาก เพราะว่าหลายๆ ประเทศเขาส่งตัวแทนมาแสดง มีการแสดงต่างๆ แต่ของเราจะเป็นแคมเปญเด่นของปีนี้เลย

ในหนังสือเล่มนี้ก็จะมีภาพของว่าวจุฬา ปักเป้า จะมีประวัติ แล้วก็วิธีการทำ อันนี้จะเป็นภาษาอังกฤษนะคะ แต่ว่าเราจะไปแปลเป็นภาษาอิตาเลี่ยน แล้วก็ทำเป็นคู่มือแจกให้แขกที่มาเที่ยวงาน เพื่อให้คนอิตาเลี่ยนได้ซึมซับ ได้รู้ประวัติของว่าวไทย

ดิฉันอยู่ที่อิตาลีมา 12 ปีแล้ว เพราะแต่งงานกับคนอิตาเลี่ยน ก็เป็นแม่บ้านธรรมดา เพียงแต่ว่าหลังๆ ก็เริ่มมีกิจกรรมอาสาสมัครเข้ามา เราก็เลยรวมกลุ่มคนไทยทำหลายๆ อย่างเพื่อประเทศชาติ การรวมกลุ่มคนไทยนอกเหนือจากงานนี้ ก็ยังมีงานอื่นๆ อีก คือเรามีโรงเรียนสอนภาษาไทยให้กับลูกครึ่งไทย-อิตาเลี่ยน ก็จะมีสอนรำไทยด้วย แล้วก็มีจัดสัมมนาบ่อยๆ ด้านกฎหมายอิตาเลี่ยนที่ชาวไทยควรจะทราบ ก็มีเชิญอัยการสูงสุดบ้าง หรือกิจกรรมอะไรต่างๆ ที่มีประโยชน์กับคนไทยในอิตาลี

แล้วเราจะมีงานประจำปีในทุกๆ ปีก็คือ สงกรานต์ ที่เราปิดเมืองเชิตเมียร์ ให้ชาวต่างชาติรู้ว่าวัฒนธรรมไทย อาหารไทย อะไรทุกอย่างที่เป็นไทยปิดถนนทั้งหมด อันนี้จัดทุกปีเลยค่ะ ก็จะเป็นช่วงเดียวกันกับว่าว ที่ผ่านๆ มาได้รับการตอบรับดีมากคือเขาดีใจมาก เขาบอกคนไทยน่ารัก อาหารอร่อยแล้วก็อัธยาศัยดี แล้วเขาชอบมาก ก็คือสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมไทย เพราะว่าที่โน่นหาชมยากมาก

นอกจากเรื่องว่าว เรื่องอาหาร เรื่องกิจกรรม ศิลปวัฒนธรรมแล้ว ในฐานะตัวแทนคนไทยที่อยู่อิตาลี ถามว่าคนอิตาลีเขาสนใจอะไรเมืองไทย
บ้างนั้น สิ่งแรกเลยอาหาร สิ่งที่สองก็คือสถานที่ท่องเที่ยวไทย ซึ่งคนอิตาลีนิยมมาก แล้วดังมากตอนนี้ คือทุกคนมาก็จะบอกว่าคนไทยน่ารัก ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง สิ่งที่เขาสนใจอันดับที่สามคือ ศิลปวัฒนธรรมเพราะว่าคนยุโรปเขาจะชอบมากอะไรที่เป็นศิลปะแล้วคนอิตาลีจะชอบมากด้านศิลปะ คืออยู่ในสายเลือดเขาเลย เขาจะนิยมมาก

ในส่วนวันที่จัดงานว่าวไทย นอกจาจะให้ความรู้ ถ้าสมมุติเขาอยากจะลองทำว่าวไทย ในซุ้มไทยที่เราจะจัดนี้ ก็จะมีโซนที่สาธิตการทำว่าวไทย แล้วคนที่จะไปจากชมรมว่าว ก็จะเป็นระดับครูเลย ซึ่งเขาจะนำไม้ไผ่ไปด้วย เพราะระหว่างเชิดว่าว ก็จะมีสาธิตให้ชม แล้วก็จะมีว่าวแจกสำหรับคนที่สนใจด้วย เป็นว่าวงู เราจะมีว่าวโชว์ที่หน้าซุ้ม ซึ่งคนที่สนใจสามารถมาถ่ายรูปได้ เราจะมีการชักว่าวขึ้นบนฟ้าด้วย ประกอบกับวงปี่พาทย์ คือพูดง่ายๆ เหมือนกับจุฬาปักเป้าแข่งกัน ที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาก็คือว่ามีบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูง ประกอบการเชิดว่าว ซึ่งไม่มีที่ไหนจัด

คนต่างชาตินอกจากจะรู้จักอาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยวไทย รู้จักคนไทย ยังรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของไทย เสด็จพระราชดำเนินทรงเยือนยุโรป คนอิตาลีเวลาเราพูดในหลวงของเรา ต้องบอกว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงมีชื่อเสียงมากในด้านเกษตร แล้วก็ดิน ทรงได้รับรางวัลด้านเกษตรด้านดินที่กรุงโรม เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราพูดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 คนอิตาเลี่ยนจะรู้จักพระองค์ท่านในด้านที่พระองค์ทรงทำหลายๆ อย่างเพื่อประเทศไทยชาวอิตาลีจะเทิดทูนพระองค์ท่านมาก ในช่วงที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ที่นี่มีจัดมิสซาให้พระองค์ท่านด้วย ซึ่งกษัตริย์พระองค์อื่นยังไม่เคยมีประวัติการจัดมิสซาในลักษณะนี้

ส่วนที่ว่าลูกหลานไทยที่อยู่ในยุโรป ถามว่าเขารู้จักว่าวไทยไหม คือเขาจะรู้จักแค่ชื่อ จริงๆ ว่าวจุฬานี่ดังในระดับประถมศึกษานะคะ เพราะว่าบางโรงเรียนจะบรรจุอยู่ในแบบเรียน ซึ่งเขาจะได้ยินแต่ชื่อ คือที่อิตาลีเขาจะเหมือนว่าอะไรที่เป็นศิลปะ เขาก็จะไปดึงมา แล้วของไทยก็จะมีว่าวจุฬา อย่างลูกชายที่เรียนที่โรงเรียน พอเขาทราบว่าจะมีว่าวจุฬาของจริงมาให้ชม เขาดีใจมาก เขาก็จะไปบอกเพื่อนๆ เขาให้มาดูกัน

สำหรับตัวเองถึงจะไปอยู่ต่างประเทศนาน ถามว่ายังใช้ภาษาไทยบ้างไหม ใช้ค่ะกับลูก แต่กับสามีไม่ค่อยได้ใช้ แต่กับลูกเราจะใช้ เพราะว่าเราเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทย เขาก็มาร่วมเรียนด้วย ลูกนี่จะอ่านออกเขียนได้แล้วนะคะ คนโต ก-ฮ สะกดคำได้แล้ว แต่ว่าคำบางคำเขายังไม่ลึกซึ้ง สำเนียงจะเพี้ยนๆ

เรื่องรำไทย ถามว่าเราจัดหาใครไปสอนก็จะมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งก็จะเป็นอาจารย์นาฎศิลป์ที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเราเชิญคุณครูมา ก็จะมาเดือนละครั้ง แล้วตัวเองก็เคยเรียนรำมา เราก็จะฝึกหัดกันทุกๆ สัปดาห์แล้วปัจจัยหลักก็คือ พอหัดรำแล้ว เขาก็ได้แสดงออกในงานสงกรานต์ประจำปี ซึ่งก็จะมีลูกหลานคนไทย และคุณแม่ มารำหลายชุด ตรงนั้นก็จะเป็นสิ่งที่เขาได้โชว์ สิ่งที่เขาภาคภูมิใจด้วย”

เรื่องราวดีๆ ที่ครบครันทั้งสาระและบันเทิงแบบนี้ มีให้ชมในรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง TNN2 (และช่อง 784 ทางดิจิตัลทีวี) หรือ True Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่ youtube ผู้หญิงแนวหน้า byคุณแหน