แพทย์รามาฯ ชี้สาวออฟฟิศเสี่ยงเป็นโรคชํ้ารั่ว โรคใกล้ตัวกวนใจที่รักษาได้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/303323

แพทย์รามาฯ ชี้สาวออฟฟิศเสี่ยงเป็นโรคชํ้ารั่ว  โรคใกล้ตัวกวนใจที่รักษาได้

แพทย์รามาฯ ชี้สาวออฟฟิศเสี่ยงเป็นโรคชํ้ารั่ว โรคใกล้ตัวกวนใจที่รักษาได้

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีเตือนสาวออฟฟิศ เสี่ยงเป็นโรคภาวะโรคปัสสาวะบีบตัวไวเกินหรือโรคช้ำรั่ว Overactive Bladder (OAB) พบมากขึ้นถึงกว่า 21.3% ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปลี่ยนไปมีความเร่งด่วน การจราจรที่ติดขัด ทำให้ไม่มีเวลาที่จะเข้าห้องน้ำ หรือต้องอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน มีอาการปัสสาวะเล็ด หรือการที่มีปัสสาวะรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงและเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนได้ จึงได้จัดงาน Check in OAB ชีวิตดี เมื่อโอเอบีรักษาได้ เจาะลึก รู้จริง เข้าใจเรื่องโรค OAB ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.00-16.30 น. ณ บริเวณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 7 เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ศ.นพ.วชิร คชการ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบภาวะโรคปัสสาวะบีบตัวไวเกิน Overactive Bladder (OAB) หรือที่เรียกว่าโรคช้ำรั่ว เป็นอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่แบบปัจจุบันทันด่วนเพิ่มมากขึ้นถึง 21.3% โดยส่วนใหญ่จะพบโรคนี้กับผู้สูงอายุที่มากขึ้น มากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และสตรีเคยมีประวัติคลอดบุตรหลายคน แต่ปัจจุบันพบในผู้หญิงวัยทำงานอายุ 30-40 ปี เพิ่มมากขึ้น ด้วยไลฟ์สไตล์ และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มีการทำงานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมงไหนจะออกนอกสถานที่ ไหนจะต้องเผชิญกับภาวะรถติดบ้าง ไม่มีเวลาที่จะเข้าห้องน้ำ หรือต้องอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน อาจประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินปัสสาวะมีอาการปัสสาวะเล็ด หรือการที่มีปัสสาวะรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ

สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะที่มีส่วนในการควบคุมการปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ระบบหูรูด กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ระบบประสาทที่ควบคุมการกลั้นและขับปัสสาวะ รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง เช่น การดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการบีบตัวผิดปกติ จนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นอกจากนั้นคนที่เคยผ่าตัดมดลูกมาก่อนอาจมีการเสื่อมของหูรูด และการหย่อนยานของผนังช่องคลอด รวมทั้งบริเวณคอกระเพาะปัสสาวะ ทำให้บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะปิดไม่สนิทจึงเกิดอาการปัสสาวะรั่วออกมา และในวัยสูงอายุ และประจำเดือนหมดแล้วฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้เยื่อบุในท่อปัสสาวะขาดความยืดหยุ่นระบบการปิดกั้นของท่อปัสสาวะลดลง ทำให้ปัสสาวะรั่วซึมได้เช่นกัน และรวมถึง การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ปัญหาของโรคนี้คือ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตนเองเป็น เพราะมักจะเข้าใจผิดไปเองว่า อาการปัสสาวะบ่อยนั้นเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำให้อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เป็นปัญหาในการเข้าสังคม หรือเป็นปัญหาทางสุขภาพและอนามัย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นช้ำรั่วหรือไม่

วิธีสังเกตอาการที่เสี่ยงต่อภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

1.อาการปวดราด คือปวดปัสสาวะรุนแรงจนเล็ดราดออกมา ไม่สามารถรอไปเข้าห้องน้ำได้ทัน ลักษณะสำคัญของโรคนี้คือ จะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมากกว่า8 ครั้งขึ้นไปต่อวัน

2. ปัสสาวะเล็ดจากการไอ จาม หรือหัวเราะ อาการลักษณะนี้มักพบในผู้หญิงที่เริ่มมีอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวมาก เคยมีประวัติคลอดบุตรหลายคนไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีธรรมชาติ หรือผ่าตัด เคยมีการผ่าตัดบริเวณรอบท่อปัสสาวะ หรือเคยรับการฉายรังสีรักษาบริเวณนั้นมาก่อน

3. ปัสสาวะราด คือเมื่อปวด ปัสสาวะก็ไหลออกมาเลย โดยไม่สามารถกลั้นได้

โรคช้ำรั่ว ไม่ใช่โรคร้ายที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่จะทำให้ผู้ป่วยเกิดความรำคาญ มีผลต่อสุขภาพจิต และการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงได้

อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถรักษาให้หาย หรือทำให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้ซึ่งการรักษามีหลายวิธี ทั้งการกินยา การใช้ฮอร์โมนทดแทน การฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยการขมิบช่องคลอด หรือแม้แต่การผ่าตัด นอกจากนี้ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมด้วย เช่น การลดน้ำหนัก อย่าให้ท้องผูก งดสูบบุหรี่ งดดื่มกาแฟ โซดา น้ำอัดลม เนื่องจากมีสารกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายบ่อยนอกจากนี้การสวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ

ศ.นพ.วชิร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจึงได้จัดงานเสวนา Check in OAB ชีวิตดี เมื่อโอเอบีรักษาได้ เจาะลึก รู้จริง เข้าใจเรื่องโรค OAB โดยมีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลรามาธิบดีมาให้ความรู้ และ Check List กลุ่มเสี่ยงที่จะมีโอกาสเป็น และเปิดประสบการณ์ตรงเตรียมพร้อมรับมือกับ OAB จากดารารับเชิญสุดพิเศษ ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี และ คัดกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง (เมจิ) พร้อมพบกับกิจกรรมดนตรี “สุขาอยู่หนใด” จากศิลปิน เบล-สุพล ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.00-16.30 น. ณ บริเวณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 7 เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สนใจติดต่อสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้-18 พฤศจิกายน 2560 โทร.083-2911188 ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. หรือลงทะเบียนผ่านอี-เมล์ OABThai@gmail.com หรือ https://goo.gl/hxEtGB

Leave a comment