ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/entertain/309050

Rookies : ‘จีน่า-ซุง’2 วัยรุ่นสุดแนว ประเดิมจอเงินหนังผีฮาป่าราบ

เป็นหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดบนจอเงินตอนนี้สำหรับ“จีน่า เดอซูซ่า” นักร้องจากค่ายMBO ที่กำลังมีซิงเกิ้ลที่ 2 “เรื่องของชั้น (M. Y. B) และ “ซุง-กิดาการ ฉัตรแก้วมณี” นักดนตรีสุดเท่ ที่ทั้งคู่ตอนนี้ขอวางไมค์แป๊บมาประเดิมเป็นนักแสดงนำจากภาพยนตร์ “เปรมิกาป่าราบ” จากค่าย “ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม และจัดหน่ายโดยค่าย เอ็ม พิคเจอร์ส” ซึ่งมีโปรแกรมเข้าฉาย 28 ธ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ วันนี้มีโอกาสจับทั้งคู่มาพูดคุยถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตกัน ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างลองติดตามกันได้เลย
ก่อนจะมาเป็น “เปรมิกาป่าราบ”
ซุง : พี่อาร์ตเรียกเข้ามาแคสในบทเอก ซึ่งเป็นมีกีตาร์เป็นหัวหน้าวงในหนังครับ ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้มาแคสบทนี้เรารู้สึกว่ามันมีความคล้ายตัวเรามาก เพราะว่าเราก็เป็นมือกีตาร์เป็นหัวหน้าวงอยู่แล้ว ตอนแคสก็เลยเล่นเป็นตัวเองแล้วก็ได้บทนั้นมา พอเล่นไปแล้วรู้สึกเลยว่าเขาคล้ายผมในมุมที่จริงจัง แต่ว่าตัวเราก็จะมีมุมเล่นๆ แต่ว่าเอกเขาไม่มีเลยจะจริงจังซีเรียสตลอดเวลาก็เลยทำให้เราต้องไปทำการบ้านในจุดนี้
จีน่า : ตอนแรกที่เข้ามาแคสพี่เขาไม่ได้เล่าอะไรมาก บอกแค่ว่าอยากให้มาลองแคสเป็นผีให้มาทำหน้าตาน่ากลัวๆ แล้วก็ให้ลองพูดเหมือนคนที่พูดภาษาไทยไม่ชัด คือคนที่อยู่บนภูเขาแล้วพี่เขาก็แค่ถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่ได้เล่นบทในเรื่องเลยนะคะ สุดท้ายแล้วพี่เขาก็เลือกเราให้มารับบทเปรมิกา ไม่รู้ว่าเพราะเราทำตาเหลือกๆ แล้วน่ากลัวหรือเปล่า (หัวเราะ)
ก้าวแรกของทั้งคู่กับการแสดงภาพยนตร์
จีน่า : ปกติจีน่าเล่นแต่ซีรี่ส์ ซึ่งมันจะมีกล้องหลายกล้องมันจะไม่ต้องคอนตินิวขนาดนั้น แต่ว่าพอมาเป็นหนังมันมีกล้องเดียวหรือว่ามากสุดก็แค่สองกล้อง แล้วเราก็เลยต้องคีฟคอนตินิวเหมือนเราต้องเล่นตั้งแต่แรกต้องเล่นซีนนั้นให้เหมือนเดิม มันก็เลยเป็นข้อยากแล้วหนังจะมีความเป็นจริงความเป็นคนมีอารมณ์จริงๆ ขึ้นมามันยากที่เราชินกับการเล่นซีรี่ส์แล้วพอมาเล่นหนังเราก็ต้องศึกษาใหม่และเข้าใจวิธีการเล่นใหม่
ซุง : ผมจะชอบเอาการแสดงไปเปรียบเทียบกับการแต่งเพลงครับ ผมรู้สึกว่ามันมีจุดคิดที่เหมือนกัน คือเวลาเราแต่งเพลงเราก็ต้องเอาความรู้สึกข้างในออกมาโดยที่ยังไม่ต้องคิดเลยว่าเพลงจะเป็นคำอะไร ซึ่งพอมาแสดงแล้วได้เวิร์กช็อปกับครูบิว เขายิ่งสอนให้เราเอาข้างในเป็นหลัก คือเราจะแสดงออกมายังไงจะยิ้มจะร้องไห้น้ำตาเราจะหยดไหมไม่สำคัญถ้าข้างในมันถูกต้อง ผมชอบการแสดงเพราะมันใช้ความจริงเป็นตัวขับเคลื่อน

ความท้าทาย
จีน่า : ด้วยความที่ต้องเล่นเป็นผีก็จะมีขึ้นสลิง ห้อยตัวลงมาบ้าง ซึ่งสนุกดีค่ะชอบ แล้วจีนาไม่เคยแต่งเอฟเฟกท์มาก่อนเลยนี่เป็นครั้งแรก มันทำให้เราเข้าใจคนที่เขาเล่นหนังผีแล้วบอกว่ามันทรมานเลยค่ะ คือมันเหนอะหนะมันอึดอัดเราไปถ่ายในป่าเวลาเขาหนาวกันเขาก็เอาเสื้อผ้ามาห่มมาคลุมได้แต่เราทำไม่ได้เลยเพราะว่าเลือดมันจะติดผ้า แล้วนั่งก็ไม่ได้ เดี๋ยวนั่งแล้วเลือดที่ขามันจะเลอะเก้าอี้
ซุง : เป็นบทดราม่ากับเพื่อนครับ คือเราเป็นเพื่อนกับเบสแล้วจะมีเรื่องทะเลาะกันมีปมบางอย่างที่ขัดแย้งกันทั้งที่เราอยู่วงเดียวกัน ดราม่าก็เล่นยากนะครับ แต่ว่าด้วยความที่มันใกล้ตัวเราเลยทำให้เราเข้าใจตัวละครก็เลยช่วยได้เยอะๆ
บรรยากาศการทำงาน
จีน่า : ต้องเปลี่ยนมานอนกลางวันบ้างค่ะ เพราะว่าเราต้องถ่ายกันกลางคืนถึงเช้าอีกวันนึง หลังจากนั้นก็จะติดนอนเช้า ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่พักนึงเหมือนเราชินกับมันไปแล้ว ส่วนสถานที่การถ่ายทำส่วนมากจะไม่มีอะไร มันถ่ายในป่าในที่มืดก็จริงแต่ว่าที่กองคนเยอะมากเลยไม่น่ากลัว
ซุง : ผมค่อนข้างชินกับการทำงานในเวลากลางคืน แต่ว่าโดยรวมสนุกครับเพราะว่าตอนที่เราถ่ายนั้นเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี บรรยากาศดีเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย

ลุ้นกับผลงานชิ้นนี้อย่างไรบ้าง
ซุง : ลุ้นครับ คืออยากดูมากว่าเขาจะตัดต่อร้อยเรียงเรื่องราวยังไง เพราะว่าตัวละครเยอะแล้วก็มีหลายแก๊ง ซึ่งแต่ละคนก็มีปมเป็นของตัวเองก็เลยค่อนข้างลุ้นว่าเขาจะเล่าเรื่องเหล่านี้ยังไง
จีน่า : มีหลายซีนเหมือนกันที่จีน่าไม่ได้ไปดูตอนที่เขาดำเนินเรื่องกัน แล้วเราก็อยากรู้ว่าคนอื่นเขาเล่นแล้วเรื่องมันเป็นยังไง อยากเห็นหนังรวมๆ ส่วนเรื่องกระแสตอบรับไม่ได้คาดหวัง เราก็รู้ทุกคนตั้งใจเล่นมากแล้วมันก็ค่อนข้างมีหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวก็น่าจะเป็นหนังผีที่แปลกใหม่ คือน่ารู้สึกว่ายังไม่มีหนังเรื่องไหนที่เอาสิ่งของมาทำให้มันเกิดเรื่องทั้งเรื่องขนาดนี้ อย่างในเรื่องนี้ก็คือจะเป็นตู้คาราโอเกะตอนแรกที่ฟังเราก็ยังไม่เห็นภาพว่ามันจะน่ากลัวได้ยังไง แต่ว่าพอเรามาเห็นก็เริ่มทำให้มันหลอนขึ้นค่ะ แล้วแปลกอีกอย่างคือแต่ละคนเวลาโดนหลอกแล้วก่อนจะตายคือจะมีเกมให้เล่นเป็นแบบที่ไม่เคยมีหนังผีเรื่องไหนทำ
ซุง : ผมรู้สึกว่าการที่หนังมีตัวละครหลายกลุ่มหลายอาชีพหลายนิสัยมาอยู่ในที่เดียวกันแล้วมันอยู่ในกฎเดียวกันอาจจะเป็นกฎของการร้องเพลงกฎของการฆ่าก็เถอะ แต่ผมว่ามันก็จำลองโลกใบเล็กๆ ของโลกนี้ คือคนที่ต่างที่มาต่างความคิดมาอยู่ในที่เดียวกันมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ละกลุ่มก็มีปมของตัวเอง

ความฝันที่ต่างวาดเอาไว้
ซุง : เป็นความฝันเลยครับ ถ้าไม่นับว่าเราเป็นคนที่ได้ทำ เราก็ชอบที่จะเสพงานเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือว่าดนตรีก็ตาม แต่พอวันนึงเราได้มาทำเราก็ยิ่งดีใจและเต็มที่กับมันงานเพลงของวงผมจะเป็นแนวร็อกครับ แต่ก็จะผสมกับซาวนด์อื่นๆ ที่ไม่ใช่วงร็อกซะทีเดียว
จีน่า : ส่วนมากน่าจะตั้งเป้าหมายไว้กับการร้องเพลง เพลงที่น่าร้องเป็นสไตล์แท็ปป๊อป มีความเท่ๆ การแสดงส่วนมากน่าจะไม่ได้ตั้ง แล้วพอมันมีโอกาสดีๆ ตรงนี้เข้ามาน่าก็รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ
เป้าหมายต่อไป
ซุง : บางส่วนเป็นเรื่องที่เราตั้งเป้าไว้ยากเหมือนกัน แต่อย่างเรื่องดนตรีเราสามารถแต่งเพลงให้ตัวเองร้องได้หรือเราอยากมีอัลบั้มเราก็สร้างขึ้นมาเองได้ แต่ว่าเรื่องของการแสดงบางทีเราต้องรอโอกาสรอจังหวะ แต่รู้สึกว่าเรายังตั้งใจกับมันและอยากพัฒนามันต่อไป
จีน่า: อยากมีโอกาสไปทำงานต่างประเทศค่ะ รู้สึกว่าโปรดักชั่นมันต่างกับบ้านเรา วิธีการคิดวิธีการกำเนิดของเพลงเพลงหนึ่งมันก็เริ่มกันมาคนละแบบอยากลองไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปหาสไตล์ลูกเล่นใหม่ๆ พอเรารู้แล้วว่าเขาทำงานกันยังไงก็อยากจะเอากลับมาทำเพลงไทยให้มันดีขึ้นค่ะ แต่การที่จะไปตรงนั้นได้เราต้องมีทุนก่อนค่ะ (หัวเราะ) ก่อนจะมีทุนทุกคนก็สามารถจ้างจีน่าได้ค่ะ

กระแสตอบรับของคนฟังกับเพลงของจีน่า
จีน่า : มันก็มากกว่าที่คิดไว้นะคะ ตอนแรกก็แอบรู้สึกเสี่ยงเหมือนกันกลัวคนจะไม่ชอบเพราะว่าความหมายมันก็ค่อนข้างจะประชดประชัน ดูมั่นใจในตัวเองมาก แล้วพอเราปล่อยต่อมาภาพลักษณ์ของเรามันก็จะกลายเป็นคนที่ดูดื้อๆไปตลอดแต่โชคดีที่พอปล่อยเพลงแรกออกมามันมีคนชอบเยอะและมีคนที่เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่พอฟังเพลงเราแล้วตัวเองเข้มแข็งขึ้น เขาทักเข้ามาขอบคุณเราก็เป็นกำลังใจที่ดี
แนวเพลงที่อยากจะแต่ง
ซุง : ผมแต่งเพลงเศร้ามาเยอะมาก ก็เลยอยากจะแต่งเพลงที่มันบวกๆ บ้าง แต่ว่ายังไม่เคยทำก็ต้องค่อยๆ เก็บเรื่องราวไปเรื่อยๆ เพลงมันเป็นตัวบ่งบอกว่าที่ผ่านมาเราเก็บอะไรมาบ้าง อย่างตัวผมก็จะมีทั้งสุขแล้วก็เศร้าแล้วผมมักจะเขียนเพลงตอนที่ผมเศร้ามากกว่า เวลามีความสุขเราก็ใช้ชีวิตแฮปปี้ปกติ แต่ถ้าเศร้าเราก็ต้องหาที่พึ่ง การแต่งเพลงก็เหมือนเป็นที่ระบาย

ฝากผลงานกันสักนิด
จีน่า : ฝากด้วยนะคะ เปรมิกาป่าราบ กำลังจะเข้าโรงภาพยนตร์อยากจะบอกเพื่อนๆ ว่าในตัวอย่างที่เห็นว่าสนุกแล้วแต่ในหนังยังแอบเก็บความสนุกพีคๆ ไว้อีกมาก ก็อยากจะชวนทุกคนให้มาดูค่ะเข้าวันที่ 28 ธันวาคมนี้ และจะมีรอบสื่ในวันที่ 26 นี้ที่พารากอนถ้าเกิดใครอยากมาให้กำลังใจพวกเราก็มาได้ค่ะ ส่วนงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่เพิ่งปล่อยไปชื่อเพลงเรื่องของชั้น ก็ฝากติดตามได้ค่ะ
ซุง : ก็ฝากหนังเรื่องเปรมิกาป่าราบด้วยนะครับเป็นเรื่องแรกที่ผมได้แสดง จากตัวอย่างที่ได้ดูนั้นนิดหน่อย จริงๆ ยังมีอีกเยอะมากจากที่อ่านบทจากที่ถ่ายทำกันยังมีฉากที่มันดราม่ามากๆ คือหนังไม่ได้ไขเกินไปยังเปิดโอกาสให้คนได้มาเจอมาดูในโรงภาพยนตร์กันก็เลยอยากจะชวนให้ทุกคนมาดูกันครับ เป็นหนังที่มีส่วนที่คนไทยชอบ
อยู่แล้วและมีส่วนแปลกใหม่เสริมเข้าไปด้วย แล้วคนที่อยู่ในยุค 80-90 ก็จะรู้สึกว่าตัวเองได้ย้อนวัยกลับไปตอนเด็กๆ เพราะว่าใช้เพลงในยุคนั้นเข้ามาประกอบด้วยครับ
