ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘ภูเขาทอง’ ภูมิวัดย้อนประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/306634

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ภูเขาทอง’ ภูมิวัดย้อนประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ภูเขาทอง’ ภูมิวัดย้อนประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ภูเขาทองเสริมอิฐ

สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้เชิญชวนไปเดินตามรอยตามประวัติศาสตร์ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ ๕ แล้วครั้งนี้ให้ความสำคัญกับ บรมบรรพต หรือภูเขาทองซึ่งเป็นเจดีย์บนภูเขาจำลองตั้งอยู่ในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครถือเป็นภูมิเมืองสำคัญที่เกิดจากพระราชประสงค์เดิมของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างพระเจดีย์ภูเขาทองไว้เป็นปูชนียสถานในพระนครเหมือนดั่งที่กรุงเก่า ซึ่งมีวัดภูเขาทองตั้งอยู่ที่ชายทุ่ง มีองค์พระเจดีย์เป็นที่สำหรับชาวพระนครศรีอยุธยาลงไปประชุมเล่นเพลง และเล่นสักวาในเทศกาลประจำปี พระองค์ทรงเลือกเอาบริเวณวัดสระเกศ นั้นเป็นสถานที่ก่อสร้างพระเจดีย์ภูเขาทองและขุดคลองออกไปเชื่อมคลองมหานาค

ภูเขาทอง

เมื่อแรกก่อสร้างนั้นใช้โครงไม้ทำเป็นรูปปรางค์ใหญ่ โดยทรงดำริให้สร้างพระปรางค์ย่อมุมไม้สิบสองขนาดใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออกของพระนคร คล้ายพระเจดีย์วัดภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา ขุดฐานเอาไม้ซุงปูเป็นตาราง เอาศิลาแลงก่อขึ้นจนเสมอดินแล้วจึงก่อด้วยอิฐในองค์พระปรางค์เอาศิลาก้อนที่ราษฎรเก็บมาขายใส่ลงไปแต่ก่อสร้างได้ไม่เท่าไรก็ทรุด ยุบตัวพังลงมาเนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ใกล้ชายคลอง พื้นดินไม่แข็งแรงพอจึงต้องปักเสารอบๆ องค์พระปรางค์หลายๆ ชั้น กันไม่ให้ดินทลายออกไป จึงเริ่มก่อใหม่แต่ก็ยังทรุดอีก ด้วยเหตุที่ต้องใช้โครงสร้างขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากเกิน จึงทำให้ดินเลนในบริเวณนั้นไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้องค์ปรางค์จึงทะลายลงมาเป็นกองภูเขาอยู่ จึงยุติการก่อสร้างชั่วคราวจนสิ้นรัชกาล จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เมื่อพ.ศ.๒๔๐๖ จึงมีการสร้างขึ้นใหม่โดยมีการเปลี่ยนแบบให้เป็นภูเขาทองตามแบบการสร้างบรมบรรพตที่สร้างขึ้นณ ท้องสนามหลวง ซึ่งน่าจะมีการเรียนรู้ทางช่างและหาวิธีสร้างได้แล้ว พระองค์ได้เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อปีพ.ศ.๒๔๐๘ เดือน ๖ ปีฉลู ทรงให้เปลี่ยนชื่อใหม่ ตามพระเมรุบรมบรรพตที่ท้องสนามหลวง จากภูเขาทองเป็น “บรมบรรพต” การก่อสร้างครั้งนี้ได้แปลงพระเจดีย์องค์เดิมให้เป็นภูเขามีพระเจดีย์อยู่ด้านบน บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอด มีบันไดเวียนขึ้น-ลง ๒ สาย เพื่อสะดวกในเวลาเทศกาล การก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ นั้นยังไม่แล้วเสร็จ จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕จึงโปรดเกล้าฯให้ทำการก่อสร้างภูเขาทองที่ยังค้างอยู่จนสำเร็จ นับเป็นพระเจดีย์ที่มีการก่อสร้างบรมบรรพตถึงสองรัชกาล มาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยบนยอดเจดีย์ได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายในองค์พระเจดีย์มีอยู่หลายครั้งในพ.ศ.๒๔๒๐ ที่สำคัญคือเมื่อ พ.ศ๒๔๒๒ รัฐบาลอินเดียได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ที่ขุดได้จากเนินพระเจดีย์เก่าที่เมืองกบิลพัสดุ์ บรรจุอยู่ภายในผอบที่มีอักษร พราหมี หรือเมาริยะ จารึกไว้ว่า “พระบรมสารีริกธาตุนี้ เป็นของพระพุทธเจ้า (สมณโคดม) ตระกูลศากยราช ได้รับแบ่งปันในเวลาถวายพระเพลิงพุทธสรีระ” อัญเชิญมาถวายแด่รัชกาลที่ ๕ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯให้นำมาบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ ภายหลังมีการบรรจุใน ปีพ.ศ.๒๔๔๑ อีกครั้ง บรมบรรพตนี้มีทางขึ้นทั้งสองในทิศเหนือแและใต้

เจดีย์พระสารีริกธาตุ

ปัจจุบันบรมบรรพตนี้ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นของพระนครด้วยมีความสูงกว่า ๕๙ เมตร หรือเท่าตึกสูง ๑๙ ชั้น เคียงคู่กันกับโลหะปราสาทวัดราชนัดดารามวรวิหาร ที่อยู่ไม่ห่างกันและในช่วงวันลอยกระทงของทุกปีทางวัดสระเกศราชวรมหาวิหารจะจัดงานประเพณี เรียกว่า “งานภูเขาทอง” ระยะเวลาราว ๗-๑๐ วัน เป็นประจำ นับว่าเป็นงานวัดที่สำคัญงานหนึ่งที่อยู่นอกพระนคร ซึ่งงานนี้มีพิธีสำคัญของบรมบรรพตคือพิธีห่มผ้าแดงบรมบรรพตภูเขาทองด้วยเหตุนี้วัดสระเกศฯจึงมีปูชนียสถานที่เกี่ยวพันกับพระปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรีหรือ รัชกาลที่ ๑ เป็นอย่างมาก นอกจากหอพระไตรปิฎกและศาลาการเปรียญที่สร้างในรัชกาลที่ ๑ แล้ว ยังมีพระพุทธรูปสำคัญสมัยสุโขทัยถือเป็นวัดที่มีการจัดผังเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสไว้เป็นแบบแผนของการสร้างวัดต่อไป

ภูเขาทองเมื่อแรกสร้าง

ภูเขาทองเมื่อแรกสร้าง
สะดือเมือง

สะดือเมือง
วิวรอบภูเขาทอง

วิวรอบภูเขาทอง
วิทยากรให้ความรู้

วิทยากรให้ความรู้
วักสระเกศฯ

วักสระเกศฯ

Leave a comment