‘บิ๊กฉัตร’จ่อชงครม.ประกาศไทยเป็นประเทศปลอดไอยูยู

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/320443

'บิ๊กฉัตร'จ่อชงครม.ประกาศไทยเป็นประเทศปลอดไอยูยู

‘บิ๊กฉัตร’จ่อชงครม.ประกาศไทยเป็นประเทศปลอดไอยูยู

วันอังคาร ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 12.37 น.

บิ๊กฉัตร จ่อชง ครม. ประกาศไทยเป็นประเทศปลอดไอยูยู ขอชาวประมงไปขึ้นทะเบียนวิทยุก่อนครบกำหนดเวลา 22 เม.ย นี้

13 ก.พ.61 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง การประชุมอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU ) ว่า ได้พิจารณาถึงการออกใบอนุญาตทําการประมงปี 2561 – 2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ออกใบอนุญาตพร้อมกับการต่ออายุใช้เรือพร้อมกันได้เลย เพราะที่ผ่านมาการทำประมงจะต้องมีการออกใบอนุญาตจากกรมประมง แต่เรือต้องมีการต่ออายุจากกรมเจ้าท่า ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. และตอนนี้ได้ให้ชาวประมงมายื่นความจำนงขอดำเนินการถึง 20 ก.พ.นี้ โดยเรือประมงพาณิชย์มีอยู่ประมาณ 11,000 ลำ แสดงความจำนงแล้วประมาณ 8,800 ลำ คิดเป็นร้อยละ 85 ทั้งนี้ขอให้ชาวประมงที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตมาดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาไอยูยู ได้มีการปรับวิธีการแก้ไขปัญหาใหม่ โดยส่งเจ้าหน้าที่ของเราไปคุยกับคณะกรรมการอียูเป็นระยะๆ โดยครั้งล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค.2560 เพื่อให้มีการสื่อสาร 2 ทางและระหว่างนี้ก็ใช้วิธีการพูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ โดยได้ชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งคาดว่าเสร็จปลาย ก.พ.นี้ รวมถึงและการติดตามเรือที่สูญหายก็ได้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์จากเดิมที่ไม่สามารถหาหลักฐานได้เลย ก็ให้สมาคมประมง สมาคมท้องถิ่น ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง ซึ่งจะถือเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ก.พ.เช่นกัน

“ได้มีการหารือร่วมกันว่าประเทศไทยอยากจะเป็นประเทศที่ปลอดไอยูยู โดยขั้นแรกดำเนินการไปแล้วในเมื่อวันที่ 25 ม.ค. แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงจะต้องนำเสนอเข้าสู่ ครม.เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อน นอกจากนี้เราจะต้องทำงานร่วมกับอียู จึงต้องมีหนังสือรับรองสินค้า ซึ่งสินค้าที่จะเข้ามาในประเทศไทยนั้นต้องมีคุณสมบัติ เช่น ไม่ทำประมงผิดกฎหมาย ลูกเรือจะต้องไม่เป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของไทยอย่างชัดเจน และจะต้องคุยกับประเทศที่ 3 ให้มาร่วมมือกับเรา ซึ่งขณะนี้ได้คุยกับเกาหลี และไต้หวันไปแล้ว ต่อไปจะได้มีการพูดคุยกับประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ที่มีการส่งวัตถุดิบเข้ามายังประเทศไทย

ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเชิงรุกเพื่อให้อียูเห็นว่าเรามีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงเห็นว่าไทยทำประมงให้เกิดความยั่งยืนแต่ยังมุ่งมั่นเป็นประเทศที่ปลอดไอยูยู ส่วนทางยุโรปและอเมริกา ยังมีข้อมูลข่าวสารในการแก้ไขปัญหาของเราน้อยมาก ดังนั้นจึงต้องพยายามผลักดันให้เขาทราบถึงการดำเนินการของรัฐบาลไทย ที่มีความเข้มข้นในการติดตามและแก้ไขปัญหามาอย่างเป็นลำดับ ขณะที่ชาวประมงและสมาคมเองก็ให้ความร่วมมือในทุกๆเรื่อง จึงได้มอบหมายให้รองอธิบดีกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการไปลำดับการแก้ไขปัญหา

พล.ฉัตรชัย ยังกล่าวถึง การแก้ปัญหาเรื่องวิทยุของเรือประมงที่ไม่ถูกกฎหมายว่า ชาวประมงขอยกเว้นการเสียค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียนจำนวน 5,000 บาท ต่อ 1 เครื่อง ซึ่งกสช.รับปากว่าจะยกเว้นในเรื่องนี้ให้ ขณะเดียวกัน กสทช.ได้ออกกติมาว่า ใครที่มีวิทยุต้องไปขึ้นทะเบียนภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้ได้เลยเวลามาแล้ว ตนจึงให้ กสช.ไปขยายเวลาเป็น 180 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ส่วนกรณีตู้เอทีเอ็มไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวประมง กระทรวงแรงงานได้เรียกประชุม 7 ธนาคาร ให้ทำงานร่วมกัน โดยขณะนี้ได้มีการติดตั้งไปแล้วกว่า 80 เครื่อง จาก 30 ปีโป้ ทั้งนี้อาจจะติดขัดในเรื่องของภาษาที่ใช้ ต้องให้กระทรวงแรงงานแก้ไขให้ครอบคลุม

Leave a comment