ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/321812

เตือนกล้วยไม้รับมือทะเลหนุน แนะ9ข้อป้องกันความเสียหาย
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนแล้งน้ำทะเลหนุนเมื่อปลายปี 2558 – กลางปี 2559 ทำให้น้ำทะเลปะปนลงในแหล่งน้ำสวนกล้วยไม้ใน อ.บางเลน และ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม, อ.ไทรน้อย อ.บางใหญ่ อ.บางกรวย และ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จนเกิดความเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรมส่งเสริมการเกษตร เล็งเห็นความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับเกษตรกรซ้ำรอยกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขอแนะนำให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้เตรียมตัวรับมือ เพื่อลดความเสียหายหากเกิดปัญหาฝนแล้งน้ำทะเลหนุนปะปน ด้วยวิธีดังนี้
1.เพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำ เช่น ขุดบ่อเพิ่ม เพิ่มความลึกของบ่อเดิม 2.หมั่นตรวจวัดค่าการนำไฟฟ้าของน้ำที่จะใช้รดกล้วยไม้ หรือนำมาผสมปุ๋ย และสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช 3.หากพบว่าแหล่งน้ำที่นำมารดกล้วยไม้ยังมีคุณภาพดี ให้สูบน้ำเข้ามาเก็บกักในบ่อพักให้เต็มเพื่อสำรองไว้กรณีเกิดน้ำทะเลหนุน 4.รักษาระดับน้ำในบ่อพักน้ำในสวนกล้วยไม้ให้สูงกว่าระดับน้ำข้างนอก 5.ปรับเปลี่ยนวิธีการให้น้ำอย่างประหยัด เช่น นำหัวสปริงเกอร์แบบประหยัดน้ำที่มีอัตราการใช้น้ำ 100-120 ลิตร ต่อ 1 หัว ในเวลา 1 ชั่วโมง มาทดแทนการใช้น้ำในอัตรา 600 ลิตร ต่อ 1 หัว ในเวลา 1 ชั่วโมง หรือ ระบบน้ำหยด
6.หากน้ำมีค่าความเค็มสูงขึ้น ควรลดอัตราการผสมปุ๋ยลงจากเดิม เนื่องจากปุ๋ยเป็นเกลือชนิดหนึ่งซึ่งจะเพิ่มความเค็มของน้ำ 7.ควรเพิ่มปุ๋ยที่มีธาตุอาหารรองประเภทแคลเซียมและแม็กนีเซียม ซึ่งสามารถลดความเป็นพิษของเกลือโซเดียมและคลอไรด์ที่มาจากน้ำทะเลได้ในระดับหนึ่ง 8.น้ำในแหล่งผลิตกล้วยไม้ส่วนใหญ่นอกจากมีความเค็มเนื่องจากเกลือโซเดียมและคลอไรด์แล้วยังมีเกลือไบคาร์บอเนต ซึ่งการปรับความเป็นกรดเป็นด่างขอให้อยู่ในช่วงระหว่าง pH 5.2 – 6.2 และ 9.หากเกษตรกรผลิตกล้วยไม้ที่มีราคาสูงและต้องการกล้วยไม้ที่มีคุณภาพดี อาจจะพิจารณาใช้เครื่อง reverse-osmosis ซึ่งมีราคาแพง แต่สามารถกรองเกลือที่ละลายในน้ำอย่างได้ผล