ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/323111
x
คิกออฟระบบวนเกษตรเขตปฏิรูป n สร้างต้นแบบปรับกระบวนการผลิตสู่เกษตรกรรมยั่งยืน
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกังวลอย่างมาก โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการทำเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูดินและเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา โดยส่งเสริมการทำเกษตรทฤษฎีใหม่และระบบวนเกษตรมาใช้ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน
ทั้งนี้ หากพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินกว่า 40 ล้านไร่ทั่วประเทศเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตเป็นเกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรกรก็จะมีสุขภาพดีผลผลิตที่ได้ก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของทั่วโลกเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วน ทั้งตัวเกษตรกรเอง ประเทศชาติ และโลกด้วยนโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องกันตั้งแต่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในยุทธศาสตร์ที่ 2 เน้นการสร้างความสามารถในการแข่งขันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในยุทธศาสตร์ที่ 3 เน้นการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านไร่ภายในปี 2564
นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ส.ป.ก. ได้จัดงานการจัดงานรวมพลังขับเคลื่อนระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินประจำปี 2561 เพื่อเป็นการเริ่มต้นขับเคลื่อนงานการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในรูปแบบของวนเกษตร อีกทั้งเป็นต้นแบบการส่งเสริมระบบวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินให้เจ้าหน้าที่และเกษตรกรได้ศึกษาทำความเข้าใจ สามารถนำไปขับเคลื่อนงานและประยุกต์ใช้ในพื้นที่ โดยศึกษาได้จากแบบจำลองโมเดล โคก หนอง นา และจากฐานนิทรรศการองค์ความรู้ด้านวนเกษตรตามภูมินิเวศน์ 4 ภาค และกิจกรรมการบริหารจัดการภาคเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเวทีเสวนาหัวข้อ “แนวทางการขับเคลื่อนวนเกษตรในลักษณะประชารัฐ” โดยมีเกษตรกร ภาคเอกชน ภาครัฐวิสาหกิจเข้าร่วมงานกว่า 500 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้ความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของระบบวนเกษตร โดยสามารถนำไปประยุกต์ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือพื้นที่ของตนเองเพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ และขับเคลื่อนระบบวนเกษตร เพื่อลูกหลาน สู่มั่งคั่งอย่างยั่งยืนต่อไป