ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/315166

บ้านปูฯ ปลูกฝังพนักงานทำกิจกรรมเพื่อสังคม
อุดมลักษณ์ โอฬาร
บ้านปูฯ เดินหน้าโครงการซีเอสอาร์ในองค์กร ส่งเสริมพนักงานให้มีจิตสาธารณะร่วมเสนอแผนกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้ธีม Together, Smarter, Better มุ่งสร้างสังคมแห่งความร่วมมือระหว่างผู้ให้และผู้รับอย่างยั่งยืน
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพลังงานแห่งเอเชียที่มุ่งมั่นพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เล็งเห็นถึงการร่วมมือกันนี้และประยุกต์ใช้กับการประกวด โครงการ “CSR Ideas of the Year” ที่เน้นปลูกฝังให้พนักงานในองค์กรทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยวิธีที่ชาญฉลาด ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยล่าสุดบ้านปูฯ ได้จัดโครงการนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้ธีม “Together, Smarter, Better” พนักงานที่เข้าร่วมได้มีโอกาสเสนอแผนงาน พร้อมกับลงมือปฏิบัติจริงเพื่อเรียนรู้ที่มาของปัญหาและร่วมแก้ไขโดยนำแนวความคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในแง่มุมต่างๆ ตามบริบทของแต่ละกลุ่มคนแต่ละพื้นที่
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยความตั้งใจที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของบริษัท ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ที่มีการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมพนักงานด้านการมีจิตสาธารณะ รวมทั้งปลูกฝังค่านิยมร่วมขององค์กรที่ล้วนแฝงไปด้วยความใส่ใจ ความคิดสร้างสรรค์ และความมุ่งมั่นสู่ผลสำเร็จโครงการ CSR Ideas of the Year ในปีนี้จึงส่งเสริมให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการใช้งบประมาณที่จัดสรรไว้ให้เกิดประโยชน์จริงโดยลงพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิดมากกว่าเพียงนำสิ่งของไปบริจาค เพราะเชื่อว่าแนวทางนี้จะก่อให้เกิดการเรียนรู้แรงบันดาลใจ และความภูมิใจในชุมชนที่จะสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับโครงการ CSR Ideas of the Year ในปีนี้ พนักงานบ้านปูฯ ได้ตีโจทย์ปัญหาสังคมไทยออกมาเป็นไอเดียและโครงการซีเอสอาร์ต่างๆ รวม 9 โครงการ พร้อมกับเป้าหมายในการช่วยเหลือและสร้างความร่วมมือที่แตกต่างออกไป ได้แก่ ด้านการแบ่งปันความรู้เพื่อสร้างอาชีพอย่าง โครงการมอบความรู้ สร้างอาชีพ สู่ชุมชน “อร่อยดี มีอาชีพ” นั้น นับเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากบุคคลภายนอกอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารมาร่วมกันจัดทำเวิร์กช็อป สอนทำขนมกุยช่ายดอกกุหลาบ ขนมจีบนก และช่อม่วงให้กับผู้ที่สนใจให้สามารถนำไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ในระยะยาวต่อไป
เชษฐ์ วงสไมล์บัฟฟาโล่ และ เดี่ยว แท็กซี่อุ้มบุญ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการด้านการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษา คือ โครงการเจริญอาหาร ช่วยต่อเติมหลังคาและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่โรงอาหาร โรงเรียนวัดศรีคัคณางค์ จังหวัดปทุมธานี โครงการโซลาร์เพื่อน้อง จัดกิจกรรมมอบเงินและอุปกรณ์สนับสนุนการติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่โรงเรียน ตชด.บ้านหางแมว จังหวัดจันทบุรี เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำโดยใช้ปั๊มน้ำพลังแสงอาทิตย์และสร้างระบบไฟฟ้าในโรงเรียน, โครงการเรื่องพื้นๆ ช่วยเหลือและปูกระเบื้องแก่โรงเรียนบ้านโป่งคอม จังหวัดสุพรรณบุรี, โครงการสร้างสีสัน ปันน้ำใจให้ชุมชน จัดกิจกรรมทาสีผนัง และฝ้าเพดานให้แก่โรงเรียนวัดละมุด จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทางด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนนั้นก็มีโครงการที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่หลากหลาย ได้แก่ โครงการ CSR Run for Kids ที่ร่วมมือกับชมรมวิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บริษัท ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรใส่ใจกับสุขภาพจัดการรับบริจาครองเท้ากีฬาให้แก่เด็กชาวเขาและ โครงการ ไป ปัน ปั่น ที่ช่วยร่วมสร้างประสบการณ์ที่มีค่าให้แก่เด็กกำพร้าผ่านการพาไปปั่นจักรยานและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันกับพนักงาน
ด้านการพัฒนาแหล่งศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน ยังมี โครงการบันไดบุญร่วมสร้างบันไดทางลงท่าน้ำ ณ วัดห้วยตะเคียนจังหวัดกาญจนบุรี และ โครงการส่วนหนึ่งของสังคม ณ อุทัยธานี ร่วมปลูกต้นไม้ในบริเวณวัดเก่าเมืองอุทัยฯ สร้างวนเกษตรให้เกิดขึ้นทั้งในวัดและแหล่งชุมชนรอบข้าง โดยที่ผู้รับในแต่ละโครงการจะได้มีโอกาสในการนำความช่วยเหลือดังกล่าวนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างต่อเนื่องและพัฒนาได้ต่อไปอีกด้วย
ในปีนี้โครงการจัดกิจกรรมพิเศษโดยเชิญ นายวรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ เชษฐ์ วงสไมล์บัฟฟาโล่ และ นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ หรือ เดี่ยว แท็กซี่อุ้มบุญ สองบุคคลที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมมาอย่างยาวนานด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมแห่งการร่วมมือกันของทั้งผู้ให้และผู้รับ มาร่วมพูดคุยและถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัว โดย เชษฐ์ วงสไมล์บัฟฟาโล กล่าวว่า “หลังจากที่ได้ค้นพบว่าท้ายที่สุดแล้ว คนเราก็ไม่ต้องการอะไรมากนอกจากความสุขใจ ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง จึงหันมาทำการเกษตรพอเพียงเลี้ยงชีพและไม่ได้อยากเป็นคนเดียวที่ทำสำเร็จจึงพยายามเผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองมีไปยังเกษตรกรคนอื่นๆ และจัดสรรผลผลิตแบ่งปันให้กับโรงทานเชษฐ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนที่อาศัยอยู่ให้โตไปด้วยกัน” ด้าน เดี่ยว แท็กซี่อุ้มบุญ กล่าวเสริมว่า “เมื่อก่อนเคยลำบากและเป็นผู้รับมาก่อน ยังจำความรู้สึกได้ดีว่าดีใจและยินดีกับสิ่งที่ได้รับมามากแค่ไหน ปัจจุบันก็ได้นำโอกาสที่เคยได้รับมานั้นมาต่อยอด สร้างความเข้มแข็งให้ตัวเอง จนตอนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นผู้ให้ได้แล้ว และรู้สึกสุขใจกับสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้”