ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/329042
x
จีดีพีเกษตรไตรมาสแรกขยับ3.8 l สศก.ชี้ปัจจัยเกื้อหนุนเพียบ-ภาวะเศรษฐกิจโลกดีขึ้น
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 1 ปี 2561 พบว่า ขยายตัว 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยทุกสาขาการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเกื้อหนุนหลายด้าน เช่น ปริมาณน้ำ ภูมิอากาศ และการดำเนินนโยบายพัฒนาภาคการเกษตรของรัฐ ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแยกภาวะเศรษฐกินการเกษตรเป็นรายสาขาดังนี้
สาขาพืช ขยายตัว 4.7% โดยผลผลิตพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมันและลำไย ขณะที่ในด้านราคาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2561 สินค้าพืชที่มีราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และลำไย
สาขาปศุสัตว์ ขยายตัว 1.4% จากการเพิ่มปริมาณการผลิตตามความต้องการบริโภคของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการเฝ้าระวัง ควบคุมโรคระบาด และจัดการฟาร์มได้มาตรฐาน ทำให้สินค้าปศุสัตว์หลัก ได้แก่ ไก่เนื้อ สุกร ไข่ไก่ และน้ำนมดิบ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ด้านราคาสินค้าปศุสัตว์ส่วนใหญ่มีราคาลดลง โดยราคาสุกร ไข่ไก่ ลดลง เนื่องจากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำนมดิบค่อนข้างทรงตัว สาขาประมง ขยายตัว 1.5% จากปริมาณกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ดี รวมทั้งมีการพัฒนาระบบการเลี้ยงให้เหมาะสมกับพื้นที่ ส่วนราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยลดลงตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัว 3.6% โดยเกษตรกรมีการจ้างบริการเตรียมดิน ไถพรวนดิน และเกี่ยวนวดข้าวตามพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอ ขณะที่ในส่วนของอ้อยโรงงานก็มีการใช้บริการเก็บเกี่ยวอ้อยเพิ่มขึ้น เพราะมีการขยายพื้นที่เพาะปลูก สาขาป่าไม้มีการขยายตัว 2.2% เนื่องจากผลผลิตไม้ยูคาลิปตัส ไม้ยางพารา ถ่านไม้ และครั่ง เพิ่มขึ้น โดยความต้องการไม้ยูคาลิปตัสภายในประเทศสูงขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ขณะที่ไม้ยางพารายังคงเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ