ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/331949
x
ขยายแหล่งจำหน่ายเกษตรอินทรีย์ l มกอช.เร่งรับรองผู้ค้าสร้างความมั่นใจผู้บริโภค
นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้ดำเนินโครงการสถานที่จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือออร์แกนิก (Organic) ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ทั้งมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์ (Organic Thailand) ของกระทรวงเกษตรฯ รวมถึงมาตรฐานของต่างประเทศ เช่น มาตรฐาน IFOAM ของยุโรป มาตรฐาน NOP ของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐาน JAS ของญี่ปุ่น พร้อมให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าออร์แกนิกเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้มีสถานที่
จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองจาก มกอช. แล้ว 7 แห่ง 149 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ท็อปส์ 103 สาขา
ร้านริมปิง 9 สาขา เดอะมอลล์และในเครือ 6 สาขา แม็คโคร 14 สาขา แดรี่โฮม 1 สาขา บิ๊กซี 14 สาขา และเลมอนฟาร์ม 2 สาขา โดยสินค้าออร์แกนิกที่นำมาจำหน่ายในร้านดังกล่าวมีค่อนข้างหลากหลาย ทั้งพืชผักผลไม้อินทรีย์ ข้าวอินทรีย์ สมุนไพรอินทรีย์ ไข่ไก่อินทรีย์ สัตว์น้ำอินทรีย์ และนมอินทรีย์ มีการแสดงฉลากอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ที่สำคัญยังมีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มบริโภคสินค้าอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น
“ปัจจุบันมีสินค้าที่แสดงเครื่องหมายว่าเป็นสินค้าอินทรีย์ในท้องตลาดจำนวนมาก แต่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าสินค้าอินทรีย์ดังกล่าวเป็นสินค้าอินทรีย์ที่ผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์จริง หรือมาจากการผลิตแบบปกติแต่นำมาติดฉลากอินทรีย์ หรือลักลอบสวมเครื่องหมายอินทรีย์ จึงจำเป็นต้องดำเนินโครงการสถานที่จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น” นายลักษณ์ กล่าว
ด้าน นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้สถานที่จำหน่ายสินค้าได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิต และการแสดงฉลากเกษตรอินทรีย์ชัดเจนมากขึ้น ทั้งยังสามารถประชาสัมพันธ์ให้ความรู้
แก่ลูกค้าถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ถูกต้องได้ในอนาคต มกอช. จึงได้มีแผนเร่งสานต่อและขยายผลโครงการ เพื่อเพิ่มจำนวนสถานที่จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าออร์แกนิกครอบคลุมทุกพื้นที่ และขยายช่องทางการตลาดและเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์ให้กับกลุ่มเกษตรผู้ผลิตด้วย